ผมเชื่อว่า..ในทุกยุคทุกสมัย ทุกคนควรใส่ใจที่จะใช้ชีวิตอย่างมี “สติ” พิจารณาก่อนที่จะคิด พูด และทำ คำว่า “เตือนตน” จึงสามารถนำไปใช้ได้กับคนทุกเพศทุกวัยและทุกอาชีพ
ทักษะการเตือนตน มิได้มีไว้เพื่อพัฒนาบุคลิกภาพ แต่ช่วยให้ไม่ประมาท..ไม่ขาดความยั้งคิด มีจิตที่กระจ่าง และรู้จักละวางในทางที่ไม่ถูกต้อง
การเตือนตนมีแต่ส่งผลดี ไม่ต้องรอให้ใครมาเตือน การเตือนตนได้มีชัยไปกว่าครึ่ง และจงคิดว่าถ้าเราเตือนตนไม่ได้..ใครจะเตือน
๑๐ กว่าปีที่ผมอยู่ในโรงเรียนขนาดเล็ก..การเตือนตนถือเป็นคาถาประจำตัว เป็นยาที่กระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจ มีงานที่ต้องทำมากมาย จนคุ้นเคยกับอุปสรรคและปัญหาที่ต้องแก้ไขไม่รู้จบ ในความหลากหลายต้องใช้สติ และต้องเตือนตนอยู่ตลอดเวลา..
งานที่ท้าทายและไม่ง่ายเสมอไป..ผมจึงต้องเตือนตนให้พ้นภัย..โดยใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ มองตนออก บอกตนได้ และใช้ตนเป็น
โดยที่คำนึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล และรู้จักสร้างภูมิคุ้มกัน เตือนตนที่จะต้องรู้จักใช้ความรู้คู่คุณธรรม เพื่อจะได้ไม่ลุ่มหลงในอบายมุขทั้งปวง..
แต่ถึงอย่างไร..ก็ยังพบข้อผิดพลาด แต่ก็ใช่ว่าจะท้อถอย ยังมองเห็นคุณค่าของชีวิตที่จะคิดไปต่อ..ทุกสิ่งทุกอย่างแก้ไขได้ถ้ารู้ตัวและรู้จักปรับปรุงพัฒนา ให้คำมั่นสัญญากับตัวเอง..ว่าจะไม่ทำผิดซ้ำซาก..
การ “เตือนตน”นั้นไม่ยาก ถ้าหากศึกษา จะนำพาหัวใจให้ชุ่มชื่นและมีชีวิตชีวา แต่ต้องระลึกรู้ตัวอยู่เสมอว่า..กำลังทำอะไร?เกิดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวมมากน้อยแค่ไหน?..ที่สุดแล้วเราจะต้อง “เตือนตน”กันอย่างไร?
1. ความผิดพลาดมีไว้ให้เรียนรู้ มิใช่แส้ที่เอาไว้เฆี่ยนตี ทุกคนล้วนเคยทำผิดทั้งนั้น และถึงแม้ว่าได้พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ก็ยังทำพลาด ขอให้จำไว้ว่ายังมีโอกาสให้เริ่มต้นใหม่ ความผิดพลาดต่างๆที่ผ่านมา...ถือเป็นบทเรียน....เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข สิ่งที่จะทำต่อไปในอนาคต...
2. เห็นคุณค่าสิ่งดีๆ ในชีวิตเมื่อเราพอใจกับทุกเรื่องดีๆที่เกิดขึ้นถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ตามมันจะช่วยให้เราขจัดความคิดในด้านลบออกไปการโฟกัสแต่สิ่งดีๆเหล่านี้จะทำให้อุปสรรคที่เราเผชิญอยู่ กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เราจัดการได้ง่ายขึ้น
3. รู้จักให้อภัยตัวเอง เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิต เป็นผลพวงมาจากการกระทำของตนเองทั้งสิ้นในบางครั้งบางคราว....เราต่างตัดสินใจผิดพลาด...แต่เมื่อรู้สำนึกแล้ว...ก็ต้องปล่อยให้มันผ่านไป....เรียกว่าเป็นการให้อภัย...และต้องให้อภัยตัวเอง...เมื่อทำผิดพลาด....เพื่อที่จะเดินหน้าต่อไป....รวมทั้งใช้ความผิดพลาดจากอดีตเป็นบทเรียน เพื่อก้าวย่างที่ดีกว่าในอนาคต
4. ให้คำมั่นสัญญากับตัวเองและบอกตัวเองซ้ำๆ...เพราะคำมั่นสัญญาดีๆมีผลต่อกระบวนการคิดของตัวเองเช่น ถ้าคุณมีอาการซึมเศร้าเป็นประจำ คำมั่นสัญญาของคุณก็คือ “ฉันมีความสุข ฉันควบคุมตัวเองได้”บอกตัวเองเช่นนี้หลายๆครั้งในแต่ละวัน แล้วคุณจะรู้สึกถึงพลังความคิดด้านบวกที่เกิดขึ้น
จึงฝากให้คิด..ฝึกจิตให้รู้จักเตือนตน..ฝึกฝนเพื่อให้เกิดพลังแห่งปัญญา งานข้างหน้าหนักแค่ไหน ก็จักได้ไม่หวั่น..ทำทุกวันให้มีคุณค่าและมีความสุข..
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๒๑ มีนาคม ๒๕๖๒
ไม่มีความเห็น