ตอนที่ 3 จาก Surabaya ถึง Yogyakarta


ต่อจากตอนที่แล้ว เราออกเดินทางจากโรงแรม ijen view ประมาณ 10.30 ถึงสุราบายาประมาณบ่าย 4 วิลลี่ขับรถยาวจนถึงสุราบายาเลยทีเดียว หลับไปหลายตลบ อาหารกลางวันไม่ต้องพูดถึง แวะซุปเปอร์มาเก็ตระหว่างทาง ซื้อของกินเล่นไป เราจองโรงแรมชื่อว่า Pop Hotel จาก agoda อยู่ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟ Surabaya โรงแรมเป็น budget hotel ราคาถูกมากๆ ประมาณ คนละ 300 บาทต่อคืน

พักผ่อนสักพักพวกเราก็ออกมาเดินเที่ยวกันในเมือง ตอนแรกเรากะจะเดินไป old town กัน แต่สุดท้ายตัดสินใจเรียก taxi ไปดีกว่า เดินออกไปให้พนักงานเรียกให้หน้าโรงแรม สะดวกมาก

เราบอกแท็กซี่ว่าเราจะไป old town ทั้งบอกและ เอา map ให้ดูว่าจะไปบริเวณไหน ซึ่งเขาก็พยักหน้า นั่งไปตามท้องถนนเรื่อยๆ บรรยากาศเหมือนบ้านเรา เพราะเป็นตอนเย็น คนกำลังเลิกงาน ผ่านโรงเรียนเห็นเด็กนักเรียนกำลังโรงเรียนเลิก นี้น่าจะเป็นเครื่องแบบคล้าย ลูกเสือ เนตรนารี ของบ้านเค้า

ยังไงไม่รู้ taxi ก็เอาพวกเรามาลงหน้าห้างแห่งนี้ 555 ก็เลยลงกันด้วยความ งง

แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ก็เลยเข้าห้างกันไปซะ ดูซะหน่อยว่าบรรยากาศเป็นยังไง ไม่ได้จะมาซื้ออะไรเล้ยย

เหมือนๆ บ้านเราแหละ ก็เลยเข้าห้องน้ำในห้างกันซะให้เรียบร้อย (ฟรี) จากนั้นเดินออกมา ชมเมือง ซึ่งตอนนั้นก็มืดค่ำละ

บ้านเมืองเค้าก็เหมือนบ้านเรา แต่จะเงียบๆ ทึมๆ มากกว่า เพื่อนๆบางคนก็ถามว่า ไปเดินแบบนั้นไม่กลัวเหรอ สำหรับเรา การไปต่างถิ่น ไม่ใช่แค่การไปกินไปเที่ยว แต่เป็นการไปเรียนรู้วิถีของเค้า ว่าเค้าอยู่กันยังไง กินยังไง ฯลฯ ว่าแล้วก็เดินต่อ

เดินไปเดินมาชักหิวกัน ก็เลยเล็งร้านอาหารข้างถนน ร้านนี้แววดี เป็นร้านเล็กๆ มีโต๊ะนั่งแค่ 2 แถว ก็เลยมุดเข้าไปกัน พอจะสั่งอาหาร เอาล่ะสิ เค้าไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ แต่โชคดีว่า มีน้องคนนึงพูดอังกฤษได้ เค้าเข้ามาช่วยเราสั่งอาหาร เลยรอดไป

สักพัก เขาก็เอาสิ่งนี้มาเสิร์ฟ เป็นชามบรรจุน้ำไว้ข้างใน
มองหน้ากันว่า มันคืออะไรฟระ น้ำกินเหรอ เงยหน้ามองไปยังน้องคนเดิม นางบอกว่า มะใช่น้ำกิน เอาไว้ wash your hand จ้า เกือบไปละ

และแล้วอาหารก็มา เป็นข้าวไก่ทอดนั่นเอง

ดูจากท่าทางการเปิบของซันแล้ว คงไม่ต้องบอกว่าอร่อยแค่ไหน

กินเสร็จจ่ายเงิน แล้วก็ออกมาเดินกันต่อ บรรยากาศก็จะประมาณนี้

พวกเรา เดินกลับมาโรงแรมด้วยบริการของ google map เมืองนี้เราไม่เห็นรถขนส่งสาธารณะเลย บนท้องถนนก็มีแต่รถมอไซค์ รถยนต์ คนที่นี่ไม่ค่อยออกมาเดินกันบนทางเท้าเหมือนบ้านเรา ฝาท่อก็ไม่ค่อยมี ต้องคอยเตือนกันว่า ท่อเด้อ

ตรงนี้น่าจะเป็นสถานที่ราชการอะไรสักอย่าง มีเด็กมาเล่นน้ำพุด้านหน้า (รูปนู้ดจ้า)

พวกก็ถ่ายรูปกัน

กว่าจะเดินกลับถึงโรงแรมได้ก็เล่นเอาเหนื่อย เดินเรื่อยๆ ก็กลับมาจนได้นะ

นี้เป็นร้านเค้ก อยากจะเข้าไปลองนั่งกินอยู่ แต่กลับดีกว่านะ

กลับมาถึงโรงแรมโดยสวัสดิภาพ จบการท่องราตรีในเมืองสุราบายา ได้เวลานอนพักเอาแรงแล้วล่ะ พรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวสวนสัตว์ค่ะ เพราะว่ารถไฟของเราที่จะไป Yogyakarta นั้น เป็นช่วงบ่ายแก่ๆ พักผ่อนเอาแรงดีกว่าค่ะ

เช้าวันนี้กินอาหารเช้าที่โรงแรม อาหารโอเคเลยทีเดียว กินได้สบาย วันนี้เรามีเวลาเที่ยวใน Surabaya ทั้งวัน check out ประมาณ 8.30 น. ฝากกระเป๋า ไว้ที่ Lobby

แล้วเรียก taxi ไป โดยใช้บริการเรียกของโรงแรมเช่นเคย ไป Surabaya zoo กัน

ในรถ taxi ซันสังเกตุเจอว่า มีสติกเกอร์ประชาสัมพันธ์ app ที่สามารถใช้เรียก taxi ได้ น่าจะเหมือนกับอูเบอร์บ้านเรา ที่นี่ใช้ blue bird เลยลอง load app ไว้ก่อน

ส่วนในรถ taxi ก็จะมีมิเตอร์กับ เนวิเกเตอร์ ติดตั้งไว้

และแน่นอนว่า เค้าต้องกดมิเตอร์ค่ะ ที่นี่ขับรถเลนซ้ายเหมือนบ้านเรา บรรยากาศท้องถนนยามเช้าของสุราบายา

Street Art ที่นี่ก็ไม่น้อยหน้าใครจ้า

ด้านหน้า Surabaya Zoo มีสัญลักษณ์ของเมืองนี้ เป็นรูปจรเข้ กับปลาฉลาม

แดดจ้า ฟ้าใสมาก พวกก็ไม่รอช้า ขอถ่ายรูปกับสัญลักษณ์ของเมืองหน่อย

ซื้อตั๋วค่าเข้าชมซะก่อน ไปที่ ticket อ้อมีตั๋วเด็ก ได้ลดราคาด้วยนาจา

ได้ตั๋วแล้วก็เข้าไปสิ รออะไร

มีปัญหาเล็กน้อยตรงทางเข้า จนท. บอกว่า กล้องถ่ายรูปเอาเข้าไปได้ แต่อย่าเปิดแฟลช เพราะจะรบกวนสัตว์ และไม่อนุญาติให้ใช้กล้องตัวใหญ่ บอกว่าเวลาซูมยืดๆ เลนส์ มันจะรบกวนสัตว์ งี้ ก็เลยต้องเก็บกล้องใหญ่ไว้ในเป้จ้าติด Tag ที่แขน คนละสี ของเด็กกับผู้ใหญ่

ดูแผนที่กันก่อน ว่าตัวอะไรอยู่ตรงไหน (เหมือนไม่เคยไปสวนสัตว์งั้นแหละ) แย่งกันใหญ่ ว่าจะดูตัวโน้น จะดูตัวนี้

มีเด็กนักเรียนมาทัศนศึกษาด้วย

ด้านในมีสัตว์แปลกๆ เยอะเลยค่ะ ดูแล้วความเป็นอยู่ของสัตว์ในนี้ มีความเป็นอยู่ที่ดีกันทีเดียว

สองคนนี้ก็สามัคคีกันดีมาก

สัตว์น่ารักๆ เยอะเลยค่ะ เดินดูไปเรื่อยๆ ไม่เบื่อเลย

มาดูลิงบ้างดีกว่า

ตัวนี้ชื่อ วาตูซี่

เดินเล่นดูสัตว์ไปเรื่อยๆ ก็แปลกดีเหมือนกัน ไม่เคยคิดเล้ยยว่าจะได้มาแบบนี้บ้าง

และก็ไปดูตัวเด่นของที่นี่คือตัวนี้ มังกรโคโมโด นั่นเอง

นกกระจอกเทศก็มีจ้า

ก่อนจะออกไป next station ก็ถ่ายรูปกับตัวเอก ซะหน่อย

จากที่นี่พวกเราเรียก taxi ไปพิพิธภัณฑ์บุหรี่ โดยใช้ app blue bird มันใช้ได้ดีทีเดียวTaxi ส่งพวกเราไปถึง Museum เดินเข้าไปด้านขวาจะมีร้านกาแฟ

บริเวณด้านหน้าทางเข้าตึกหลัก เห็นมีรถทัวร์จอดอยู่ เขียนว่า sight seeing

ทางเข้าหลักอยู่ตรงนี้

พิพิธภัณฑ์บุหรี่ เป็นอาคาร 2 ชั้น ข้างล่างแสดงอุปกรณ์การผลิตบุหรี่ สามารถถ่ายภาพได้ ด้านในมีห้องน้ำบริการ สะอาดมาก

เข้าไปสำรวจชั้นล่างกันก่อน มีการจัดแสดงสิ่งของ ให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพ อ้อ เข้าฟรีนะคะที่นี่

รูปนี้ขอถ่ายเก็บไว้ ว่า ไม่เอาบุหรี่จ้า

ชั้นบนห้ามถ่ายภาพ เป็นห้องกระจก เห็นการผลิตบุหรี่โดยใช้คนมวนบุหรี่ เหมือนโรงงานที่ทำการผลิตเป็นทอดๆ กลิ่นยาสูบมาเต็มมาก อยู่สักพักก็ลงมาเพราะเริ่มหิวกันแล้ว แต่ก่อนออกไปแวะร้านของที่ระลึกนิดนึง ซึ่งเราก็ได้ของที่ระลึกจากที่นี่เป็นผ้าบาติกและ โมเดลสัญลักษณ์ของเมือง

อาหารกลางวัน กินแถวๆ หน้าพิพิธภัณฑ์ เป็นร้านเล็กๆ (มาก) แต่รสชาติก็โอเคอยู่

ต่อด้วยน้ำหวานเรียกพลัง จากซุปเปอร์มาเก็ตใกล้ๆ ร้านข้าว

กินเสร็จเดินกลับมาหา taxi หน้า Museum รอเท่าไหร่ก็ไม่มี เลยไปถามยาม เค้าบอกว่า เข้าไปที่ชั้น 1 ของ Museum แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ เขาจะเรียก taxi ให้ เลยได้รู้ว่า มีรถบัสทัวร์ในเมืองจากที่นี่ โดยจะต้องจองมาก่อนและมีรถออกราว บ่ายโมง ออกอีกทีบ่าย 3 ณ ตอนนั้นบ่ายโมงกว่าแล้ว จะรอไปกะบัสบ่าย 3 ก็คงไม่งาม และคงไม่ทัน เลยตกลงกันใหม่ว่า เราจะไปร้านของที่ระลึกกันก่อน ถ้าเวลาเหลือ ก็จะไปกินกาแฟ แล้วค่อยกลับโรงแรมร้านขายของที่ระลึก เราแวะที่ร้านนี้ ค้นหามาโดยซัน ชื่อร้าน Mirota Batik & Handicraft Surabaya

ด้านในมีของขายเยอะเลย จำพวกของฝาก พวงกุญแจ ผ้าบาติก โมเดล ฯลฯ ราคาไม่แพง อันนี้นะนำเลยค่ะ ซื้อเสร็จแล้วยังมีเวลาเหลือ แวะร้านกาแฟ ที่เป็นทางผ่านกลับโรงแรม ร้านนี้คือ Excelso นั่นเองค่ะ

จัดกาแฟขี้ชะมดมาชิม

จากร้านกาแฟ เราเดินกลับมาถึงโรงแรม ก็มาเอากระเป๋า แล้วเรียก taxi จาก blue bird พอรถมา พวกเราก็ลากกระเป๋ามาใส่รถ แล้วก็ไปสถานีรถไฟ Surabaya คุณ taxi ก็พาเราเข้าไปส่งด้านใน เสียค่า parking 10.000 idr ที่สถานีรถไฟของเค้าทันสมัยมาก เราใช้ QR code การจองจาก app traveloka ไปยิง ก็จะสามารถ print ตั๋วออกมาได้เลย แล้วก็รอรถไฟมาเท่านั้น

ถึงเวลาที่เข้าไปรอในชานชาลาได้ ก็เข้าเกท ตรวจตั๋ว ไปรอข้างในกัน

พอรถไฟมาก็ขึ้นเลย ให้ตรงโบกี้ และเลขที่นั่ง

แอบมีปัญหาเล็กๆ คือ ที่วางของอยู่เหนือศีรษะ ทีนี้กระเป๋าของพวกเราก็ใบใหญ่ หลัก 15 กิโลอัพ ต้องใช้ความแข็งแรงมากๆ ในการยกกระเป๋าขึ้นไว้ด้านบน ถ้าใบไหนอ้วนมากๆ ก็สามารถเข็นไปไว้หลังเบาะสุดท้ายของโบกี้ได้ รถไฟออกตรงเวลามาก

บนรถมีแจกผ้าห่ม แอร์เย็นเวอร์มาก

มีอาหารจำหน่ายด้วย ไม่ต้องกลัวหิว

จาก Surabaya gubeng 16.30 น. ถึง Yogyakarta 21.19 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง ก็ถึงแล้ว ลงรถไฟกัน

ที่ Yogyakarta ซันได้ติดต่อคุณอันตุง (Arif เป็นคนแนะนำ) โดยจ้างเป็นรถเช่าพร้อมคนขับ (อันตุง) สำหรับการท่องเที่ยวที่นี่ ก่อนถึง ก็ส่งข้อความ confirm เวลาที่เค้าจะมารับเราที่สถานีรถไฟ ไปส่งยังที่พัก อันตุงบอกว่า เค้ารอพวกเราอยู่ทางออก นั่นไง อันตุง เสื้อสีฟ้า

หลังจากทักทายแนะนำตัวกันแล้ว อันตุงก็มาพวกเราไปที่รถ

เก็บกระเป๋าใส่รถเสร็จก็ออกเดินทาง โรงแรมที่จองไว้ชื่อ ​Taman Yuwono Heritage Malioboro ราคาห้องละ 650 บาทต่อคืนเท่านั้นเอง เราจองที่นี่ 2 คืน ทำเลดีมาก อยู่ใกล้ถนน Malioboro ซึ่งเป็นถนนคนเดินของที่นี่ แต่กว่าจะหาโรงแรมเจอก็เล่นเอางง เพราะว่าดึกมากแล้ว แต่ในที่สุดเราก็หาจนเจอ เข้าไป check in ค่ะ

เราจ้างค่า transport คือคนขับและค่าน้ำมัน ตลอดที่เราอยู่ที่ Yogyakarta (ราคารวม 850.000 idr) ก็นัดเวลากันกับอันตุงสำหรับการไปชม Sun rise Borobudur โดยอันตุงจะช่วยจัดการค่าบัตรเข้าชมให้เรา โดยเราต้องถ่ายเอกสาร passport และบัตรนักเรียนให้เค้าไปด้วย เตรียมไป 2 ชุด หากต้องการไป Prambanan ด้วย (บัตรนักเรียน ใช้เป็นส่วนลดได้ที่ Prambanan)ค่าเข้าชม sunrise Borobudur 475.000 idr พร้อมอาหารเช้าค่าเข้าชม Prambanan 375.000 idr (ตั๋วนักเรียน 250.000 idr)ค่าเช่ารถจี๊ปพร้อมคนขับ เพื่อชมภูเชาไฟ Merapi 350.000 idrจ่ายเงินพร้อมให้เอกสารกับคุณอันตุงไปเลย พรุ่งนี้เวลานัดคือ ตี 3 ครึ่ง ไม่พูดพล่ามทำเพลง รีบนอนจ้า

คำสำคัญ (Tags): #สุราบายา#Surabaya#indonesia
หมายเลขบันทึก: 660497เขียนเมื่อ 17 มีนาคม 2019 11:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มีนาคม 2019 23:22 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท