บ่ายวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ผมไปร่วมประชุม คณะกรรมการนโยบายหน่วยพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย ที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล การประชุมนี้จัดปีละครั้งเท่านั้น
การประชุมนี้จัดมากว่า ๑๐ ปี ผมคิดว่าการประชุมครั้งนี้ทรงพลังที่สุด ส่วนหนึ่งเกิดจากรองคณบดีหลายท่านร่วมกันโยงประเด็น ทำให้ภาพใหญ่ที่ผมเห็นอย่างหนึ่ง คือ R2I – R2R to Implementation
การแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในที่ประชุม ทำให้ผมเห็นบทบาทของหน่วย R2R ของศิริราช ว่าในช่วง ๑๓ - ๑๔ ปีที่ผ่านมา หน่วย R2R ได้สั่งสมความน่าเชื่อถือไว้วางใจ ทั้งจากภายนอกองค์กร และจากภายในองค์กร จนหน่วยงานเล็กๆ นี้น่าจะทำหน้าที่ริเริ่ม R2I ได้
มีหลายกรณีที่ผลงาน R2R ช่วยชี้ช่องพัฒนาวิธีทำงานที่ดีกว่าเดิม ที่สามารถใช้ได้ทั่วทั้งองค์กร แต่ความรู้หรือวิธีการดังกล่าวก็ไม่มีหน่วยงานอื่นนำไปใช้ (Know – Do Gap) มีการพูดกันในที่ประชุมว่า หน่วย R2R น่าจะได้ทำหน้าที่ แจ้งหรือเสนอผู้บริหารของคณะ ให้พิจารณาจัดกระบวนการปรึกษาหารือเพื่อหาทางนำความรู้ดังกล่าวไปใช้ทั่วทั้งองค์กร ที่เรียกว่า implementation
ผมตีความว่า ในที่ประชุมนี้มีการพูดกันถึงการจัดการ value chain ของ R2R โดยผู้บริหาร โดยที่หน่วย R2R ทำหน้าที่ป้อนข้อมูลให้แก่ฝ่ายบริหาร
อีกประเด็นหนึ่งที่พูดกันในที่ประชุมคือ R2R back office ซึ่งจะโยงสู่งาน HRD เป็นการโยงงานวิจัยสู่งานพัฒนาบุคลากร ซึ่งที่จริงเป็นหลักการพื้นฐานของ R2R ว่ามีเป้าหมายพัฒนางาน พัฒนาคน และพัฒนาองค์กร แต่งานวิจัยอยู่ใต้รองคณบดีฝ่ยวิจัย งานพัฒนาบุคลากรอยู่ใต้รองคณบดีฝ่ายบุคลากร งานพัฒนาคุณภาพงาน (บริการ) อยู่ใต้รองคณบดีฝ่ายพัฒนาคุณภาพ กิจกรรม R2R ที่ดำเนินการมา ๑๓ – ๑๔ ปี จึงยังเน้นที่การวิจัยเพื่อพัฒนางานบริการเป็นหลัก เมื่อมีวาระ R2R back office และรองคณบดีท่านหนึ่งเอ่ยเรื่องการใช้ R2R เพื่อผลด้าน HRD ขึ้น ที่ประชุมจึงประจักษ์ว่า หากมีการใช้ประโยชน์งานและหน่วย R2R อย่างชาญฉลาด คณะจะได้ประโยชน์จาก R2R เพิ่มขึ้นได้มาก
วิจารณ์ พานิช
๖ ก.พ. ๖๒
ไม่มีความเห็น