เที่ยวเชียงใหม่กับสุภัชชา.ตอน วัดดมหาโพธาราม(วัดเจดีย์เจ็ดยอด)



เที่ยวเชียงใหม่กับสุภัชชา.ตอน วัดดมหาโพธาราม(วัดเจดีย์เจ็ดยอด)ที่ปรากฏตามตำนานชินกาลมาลีปกรณ์คะโดยอาจารย์สุภัชชา. พันเลิศพาณิชย


วัดมหาโพธาราม หรือเรียกอย่างปัจจุบันว่าวัดเจ็ดยอด หรือวัดเจดีย์เจ็ดยอด สังกัดนิกาย เถรวาท เป็นวัดพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยู่ที่ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ล้านนาเป็นอันมาก และเป็นพระอารามหลวงที่พระมหากษัตริย์ของอาณาจักรล้านนาได้สร้างขึ้นไว้ เมื่อประมาณ ๕๐๘ ปีมาแล้ว (นับถึงปี ๒๕๐๖) บริเวณที่ตั้งของวัดนี้ ครั้งหนึ่งในอดีตกาลแต่ครั้งพระเจ้าอนุรุทมหาราช แห่งอาณาจักรพุกาม ได้ แผ่อำนาจของพระองค์เข้ามาในแหลมสุวรรณภูมิ เมื่อประมาณ ค.ศ. ๑๕๐๐ เศษ และได้เว้นแคว้นโยนก แคว้นหริภุญชัย ตลอดจนสุวรรณภูมิไว้ในอำนาจของพระองค์ และต่อมาเมื่อ พระเจ้าติโลมินโลได้ครองราชย์สมบัติสืบต่อจากพระองค์ พระเจ้าติโลมินโลได้ทรงจำลองเอาแบบอย่าง พระมหาโพธิเจดีย์เมืองพุกาม มาสร้างที่วัดเจ็ดยอดเมื่อประมาณ พ.ศ. ๑๗๕๘ – ๑๗๙๙ และได้ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ต่อมาเมื่อพระเจ้าติโลการาชมาพบเข้าก็ได้ทรงปฏิสังขรณ์ขึ้น



วัดพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ
ปัจจุบันอยู่ตำบลช้างเผือก เมืองเชียงใหม่
คือวัดมหาโพธารามล้านนาไทย
ได้สร้างไว้ ๕๐๘ ปีที่แล้วมา

คือวัดเจ็ดยอดที่เรียกปัจจุบัน
คือวัดเดียวกันนั่นแหละหนา
วัดมหาโพธารามตามล้านนา
มีเรื่องเขียนมาแต่อดีตกาล


เมื่อครั้งสมัยพระเจ้าอนุรุทมหาราช
กษัตริย์ผู้เก่งกาจน่าเกรงขาม
เป็นเจ้าเมืองครองนครพุกาม
แผ่อำนาจสู่สยามสุวรรณภูมิ

สืบต่อมากษัตริย์ครองราชสมบัติต่อ
พระเจ้าติโลมินโลไม่รั้งรอจำลองอย่าง
มหาเจดีย์เมืองพุกาม
มาสร้างวัดเจ็ดยอดเมืองสยามงามตา

แต่เรื่องเล่าความมาตามนี้
ค้านตำนานหลายที่มีความว่า
ตำนานโยนก พื้นเมืองเชียงใหม่ที่เขียนมา
วัดเจ็ดยอดเป็นที่ทำสังคยาเรารู้กัน

พระเจ้าติโลกราชสร้างไว้ได้ปรากฏ
พระเจดีย์งามงดเพื่อสร้างสรรค์
สังคยาพระไตรปิฎกครั้งที่ ๘ ของโลกที่วัดนั้น
เรารู้กันวัดเจ็ดยอดหรือมหาโพธาราม


ดังที่กล่าวมานี้ค้านกับตำนานพื้นเมือง และพงศาวดารโยนก และตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ซึ่งได้กล่าวว่า พระเจ้าติโลการาชทรงโปรดสร้างพระเจดีย์เจ็ดยอดขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๑๙๙๘ และต่อมาพระองค์ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก ทำการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ ๘ ของโลกที่วัดนี้

ชินกาลมาลีปกรณ์เขียนเล่าเอาไว้ว่า
พระเจ้าพิลกราชาทรงสร้างวัดให้
สดับธรรมพระสิงหลจึงเข้าใจ
ปลูกมหาโพธิ์ณ.ที่ใดใคร่ควรดู

ทรงพิจารณาหาที่อันเหมาะสม
อันรื่นรมย์ต้นมหาโพธิ์สมควรอยู่
วัดเจ็ดยอดงดงามสร้างอารามงามน่าดู
ปลูกมหาโพธิ์และเป็นที่อยู่พระอุตตมปัญญา

ด้วยเหตุปลูกต้นโพธ์งดงามอารามนี้
พระสิงหลนำกิ่งโพธิ์ที่มีเบื้องขวา
ปลูกไว้วัดป่าแดงเชิงดอยสุเทพด้วยศรัทธา
เป็นต้นเหตุที่มาชื่อวัดมหาโพธาราม


ชินกาลมาลีปกรณ์ กล่าวถึงวัดมหาโพธาราม ไว้ดังนี้ 
“ ฝ่ายพระเจ้าพิลกราชาธิบดี ทรงสดับธรรมบรรยายจากสำนักพระภิกษุสีหลเรื่องอานิสงส์ปลูกต้นโพธิ มีพระราชประสงค์ใคร่จะปลูกต้นมหาโพธิทรงพิจารณาหาสถานที่สมควร ก็ทรงเห็นสถานอันควรคือ ที่ วัดมหาโพธารามนี้(วัดเจดีย์เจ็ดยอดก็เรียก) ครั้นแล้วพระเจ้าพิลก-ราชาธิราชจึงโปรดให้สร้างอารามขึ้นแห่งหนึ่งเพื่อเป็นที่อยู่ของพระมหาเถรชื่อ อุตตมปัญญา ในพื้นที่เป็นที่เนินน่ารื่นรมย์ริมฝั่งแม่น้ำขานทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือราชธานีเชียงใหม่ในปีกุน จุลศักราช๘๑๗ (พ.ศ. ๑๙๙๙) แล้วโปรดให้ปลูกต้นโพธิในอารามนั้นในปีเดียวกัน จริงอยู่พระภิกษุก่อนๆไปสีหลแล้วนำพืชจากกิ่งโพธิเบื้องขวามาจากสีหลนั้นเอามาปลูกไว้ในอารามเชิงดอยสุเทพ(วัดป่าแดงมหาวิหาร) ครั้งนั้นพระราชาโปรดให้นำพืชจาก มหาโพธิต้นเชิงดอยสุเทพนั้น แล้วปลูกไว้ในอารามที่สร้างขึ้นนี้ เพราะเหตุที่ต้นมหาโพธิปลูกในอารามนี้ จึงปรากฏชื่อว่าวัดมหาโพธาราม ครั้นทรงปลูกต้นมหาโพธิเสร็จแล้ว พระองค์โปรดให้จัดพิธีทั้งปวง คือสร้างเวทีให้เหมือนต้นมหาโพธิที่พระพุทธทรงผจญมารและสร้างสัตตมหาสถาน ต่อจากนั้น ในปีวอก จุลศักราช ๘๓๘ (พ.ศ. ๒o๒o) โปรดให้สร้างมหาวิหารในอารามนั้น”


หมายเลขบันทึก: 660246เขียนเมื่อ 4 มีนาคม 2019 18:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มีนาคม 2019 18:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท