เที่ยวเชียงใหม่กับสุภัชชาตอน.วัดมุงเมืองตามตำนานที่ปรากฏในคัมภีร์ชินกาลมาลีปกรณ์คะโดย อาจารย์สุภัชชา. พันเลิศพาณิชย์
วัดมุงเมือง ตั้งอยู่ที่ตำบลลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็น จังหวัดเชียงใหม่ เป็นวัดโบราณเก่าแก่วัดหนึ่ง เป็นวัดที่กษัตริย์ล้านนาไทยในสมัยโบราณสร้างไว้ ประวัติและความเป็นมาของวัดนี้เท่าที่ปรากฏจากหนังสือชินกาลมาลีปกรณ์และพงศาวดารโยนกของพระยาประชากิจกรจักร (แช่ม บุนนาค) กล่าวไว้ว่า
“......พระเจ้าสามฝั่งแกน(ชินกาลมาลีปกรณ์ว่า ทรงพระนามว่า เจ้าดิส เสวยราชย์ เมื่ออายุได้ ๑๒ ปี) จึงสถาปนาพรราชมารดาขึ้นเป็น “พระมหาเทวี”(เทียบเท่าพระพันปีหลวง) พระราชมารดาของพระองค์ทรงพระนามว่า “ติโลกะจุดาราชเทวี” และพระองค์ทรงโปรดให้สร้างพระอารามขึ้นที่ตำบลที่พระองค์ประสูติ คือตำบลพันนาฝั่งแกน ขนานนามวัดว่า “วัดพึง” หรือ วัดบุรฉัน(ในคัมภีร์ชินกาลมาลีปกรณ์ว่าวัดปุรจฺฉนฺน แยกศัพท์แปล ปุร แปลว่า เมือง ฉนฺน แปลว่า มุง จึงเรียกกันว่า วัดมุงเมืองอีกชื่อหนึ่ง) วัดพึงหรือวัดบุรฉันหรือวัดปุรจฺฉนฺน เวลานี้เปลี่ยนเป็น “วัดศรีมุงเมือง ”
ชินกาลมาลีปกรณ์กล่าวถึงการสร้างวัดมุงเมืองไว้ว่า
“ เจ้าดิสกุมารนั้น มีศรัทธาในศาสนาน้อยนัก ทรงเลื่อมใสแต่สิ่งภายนอกศาสนา ไม่คบหาสัตบุรุษ บวงสรวงแต่ภูตปีศาจ สวน ต้นไม้ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ภูเขาและป่า พระองค์เส้นไหว้ บวงสรวงด้วยโคกระบือเป็นต้น ประชาชนอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรของพระองค์มีชื่อเสียงว่า เป็นยักขทาส ในที่นั้นๆทั่วไป พระองค์ทรงโปรดให้สร้างมหาวิหารที่ตำบลฝั่งแกน อันเป็นที่ประสูติของพระองค์ ปรากฏว่าวัดมุงเมืองฯ และพระเจ้าดิสนั้นได้แย่งเอาไร่นาเป็นต้นถวายให้แก่มหาวิหารนั้น เพื่อเป็นเครื่องอุปกรณ์(ช่วยเหลือ)แก่มหาวิหารและพระองค์ได้แย่งเอาไร่นาเป็นต้นที่เขาถวายเป็นพุทธบูชาในที่ต่างๆ ทั่วแคว้นมาโยนถวายแก่มหาวิหารด้วย”
ชินกาลมาลีปกรณ์เขียนถึงวัดมุงเมืองน่าสนใจ
พระเจ้าดิสไม่พิศสมัยพุทธศาสนา
ชอบบูชาภูตผีปีศาจภูเขาและเจ้าป่า
แย่งไร่นาชาวบ้านทั่วแคว้นโยน
พระเจ้าดิสหรือพระเจ้าสามฝั่งแกน
เลยวางแผนแบบโลดโผน
อายุ๑๒ปีสร้างวัดมุงเมืองตามใจตน
ที่ตำบลพันนาฝั่งแกนให้มารดา
จากหนังสือชินกาลมาลีปกรณ์และพงศาวดารโยนก
ที่หยิบยกพระเจ้าดิสเลื่อมใสแต่นอกศาสนา
แถมแย่งไร่สวนเทือกเขาของชาวนา
สร้างวัดมุมเมืองให้มารดาอยู่ดอยสะเก็น
ไม่มีความเห็น