"แค่ศีล ๕ ก็ได้เป็น พระโสดาบัน"


"แค่ศีล ๕ ก็ได้เป็น พระโสดาบัน"

โสดาบัน คือผู้เข้าสู่กระแสพระนิพพาน เป็นอริยบุคคลชั้นต้น ใน ๔ พวก มีโสดาบัน สกทาคามี อนาคามี อรหันต

ผู้นั้นไม่ตกนรกแล้ว อยู่ที่ใดที่นั้นเจริญ

ต้องกล่าวถึงผลของมันก่อนก็คือความเจริญ

ผู้ได้โสดาบันคือผู้ได้ปัญญารู้แจ้งแทงตลอดในความจริง

ภาวนามยปัญญา

อิทธิฤทธิ์ของมันแสดงออกทางกาย วาจา ใจ เป็นสัมมาคาราวะ

ก่อนจะมีสัมมาคาราวะได้จำต้องมีปัญญาเสียก่อน

คำสอนหลักของพุทธศาสนาคือไตรสิกขา

ศีล สมาธิ ปัญญา

เราต้องมาเริ่มต้นกันที่ศีล

ศีลคือบุญที่ไม่ต้องไปทำกับคนอื่น

ศีลคือบุญที่ทำกับตัวเอง

ตั้งมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่ยึดเหนี่ยว แล้วตั้งสัจจะกับพระรัตนตรัย

วิธีรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์

ศีลทั้ง ๕ ข้อมีองค์ประกอบย่อยสำคัญ คือการไม่ยินดีในผู้ทำด้วย เช่นข้อ ๔ ห้ามพูดโกหก

องค์ประกอบของมันทำยากที่สุด

ไม่พูดส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น

ไม่พูดเพ้อเจ้อ ในสิ่งที่ไม่รู้

ไม่พูดคำหยาบ

ทำยากแต่หากทำได้ จะเพิ่มความสำรวมระวังในศีลข้ออื่นๆด้วย ทำบุญไม่ยากหรอกยากสุดแค่ขี้เกียจ ไม่กล่าวว่าคนขี้เกียจนั้นมีปัญญา

ที่นี้ปฏิบัติตนรักษาศีลไปเรื่อยๆ

ระหว่างนี้ มาปฏิบัติองค์ที่ ๒ คือสมาธิกัน

การภาวนา สวดมนต์ อรหังสัมมา..

กราบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

พ่อแม่ ครูบาอาจารย์

แล้วหาพระคาถาบทสวดไหนก็ได้ที่สวดง่าย หรือบทที่ชอบ

นั่งสวดไปเรื่อยๆ กี่รอบก็ช่าง ใครจะสวดไปมีขีดนับไปได้ก็จะดี สวดมนต์ให้ได้ ๓๐ นาที

ใหม่ๆ ทำไม่ได้ ต้องมีความวิริยะความอดทน

ความเพียรความอดทนสูงสุดมีได้ในมนุษย์เท่านั้น

ค่อยๆเพิ่มเป็น ๑๐ นาที ๒๐ นาที ไปตามลำดับก็ได้ ไม่มีทางลัดอื่นใดเร็วกว่าการทำไปแบบโง่ๆ เป็นการพิสูจน์ความเพียรความอดทน ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ

สวดมนต์เสร็จ ทำสมถะอีก ๓๐ นาที

นั่งสมาธิ หลังตรง หลับตา กำหนดสติไว้กับลมหายใจเข้าออก จะท่องพุทโธ กำกับจังหวะลมหายใจก็ได้

ช่วงแรกๆ ถ้าใจแว้บออกไปคิดเรื่องอะไร พอรู้ตัว ก็รีบกลับมาที่พุทโธหรือที่ลมหายใจทันที

ฝึกไปทุกวันๆ จนสติมีกำลัง (สตินทรีย์แข็งแรง)

ฝึกไหว้พระ สวดมนต์ ทำสมาธิไปทุกๆวัน ไม่ต้องคิดอะไร ไม่ต้องคิดว่า ที่ทำไปจะได้อะไรกลับมา

ไม่ได้อะไรทั้งสิ้น ไม่คิดอะไรทั้งสิ้น

เราฝึกภาวนาเพื่อทดสอบความเพียร

เพื่อสร้างวินัยสัญญา ความเคยชิน

ฝึกภาวนาเพื่อให้สติมีกำลังในการเจริญสมาธิ

ทำไปแบบโง่ๆ

เทน้ำในแก้วออกให้หมด

แม้ความสงสัยหยดสุดท้ายก็ต้องเทให้แก้วน้ำว่างเปล่า

หากมีความสงสัยเรื่องอะไรเกี่ยวกับธรรมะ หรือการปฏิบัติ ถามครูอาจารย์ผู้รู้ หรือหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต

เพื่อคลายความสงสัยหากเกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติ เช่น อาการวูบเหมือนตกจากที่สูง รู้สึกเหมือนตัวลอย หรือมองเห็นภาพนิมิตต่างๆ

ทุกอย่างล้วนเป็นอาการของสมาธิ

ไม่ต้องตกใจ ไม่มีผลใดๆกับสติสัมปชัญญะ

เป็นการทดสอบความแข่งแกร่งของสติ

สำเร็จช้าเร็วอยู่ที่บุญบารมีและความเพียร

ระยะเวลาในการปฏิบัติภาวนา

อย่างเร็วใน ๗ วัน

อย่างกลาง ๗ เดือน

อย่างช้า ๗ ปี

ช้าสุด ๗ ชาติ

แล้วแต่บุญบารมี ไม่แน่เราอาจทำมา ๖ ชาติแล้ว สำเร็จชาตินี้ได้สบายๆ ไม่ยากเลย..

"ความเพียรของมนุษย์ เทวดาก็กีดกันไม่ได้"

เมื่อศีลเราสำรวมระวังรักษาได้อย่างบริสุทธิ์ กอรปกับการฝึกจิตภาวนา อิ่มตัวได้ที่ สมาธิเต็มกำลัง สติบริบูรณ์พูนผล..

"เมื่อนี้แหละ มื้อใด๋กะมื้อนี่ล่ะ" (คำอุทานในคำสอนหลวงพ่อพุธ ฐานิโย)

ปัญญาจักเกิด องค์สุดท้ายของไตรสิกขาเกิดขึ้นมาเอง เกิดปัญญาอันรู้แจ้งแทงตลอดทุกสรรพสิ่ง.

ไตรสิกขา ศีล สมาธิ ปัญญา ประชุมพร้อมเกิดเป็นพระอริยบุคคลผู้รู้ โสดาบันผู้เข้าสู่กระแสแห่งพระนิพพาน..

หมดสิ้นความลังเลสงสัยในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เหมือนมีขุมพลังภายในคือปัญญารู้ทุกความจริง แสดงอิทธิฤทธิ์ออกมาเป็นสัมมาคาราวะ กาย วาจา ใจ

กิริยาอ่อนน้อมถ่อมตน

พูดจาไพเราะ เสนาะหู น่าฟัง

สำรวมมีสเน่ห์ดึงดูดคน

มีความน่าเลื่อมใสศรัทธา มีบารมี

...........................

อยากรวยต้องทำ อยากเจริญธรรมต้องปฏิบัติเอง

.ธัมมานุสารี.

หมายเลขบันทึก: 660174เขียนเมื่อ 1 มีนาคม 2019 23:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 มีนาคม 2019 23:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท