หลังจากอิ่มกับอาหารทะเลสดๆจากร้านในชุมชน แล้วเราก็เข้าที่พัก ไม่ไกลจากม่าเรือมากนัก ให้ 4 ส. สะดวก. สะอาด. สบาย สงบ ชื่อลักกี้
รีบวางกระเป๋า แล้วไปต่อด้วยการสำรวจชายทะเล ป้าป้อมผู้นำทริปบอกว่า ชายทะเลแห่งหนึ่งสวยมาก ชื่อ #ชาลีบีช เคยโดนนายทุนเอาไปทำเป็นเจ้าของไม่ให้ใครผ่านไปใช้เลย แต่สุดท้ายโดน ม.44 เรียกคืน เลยทิ้งไว้แต่ร่องรอย «ว่าแล้วเราต้องไปค่ะป้า» ไปถึงสิ่งที่เจออย่างแรกคือ ทรายเต็มไปหมดขับรถต่อไม่ได้ มีชายใจดีมาเสนอตัวบอกถอยไปผมจัดการให้ <นี่คือความงดงามคือน้ำใจคนต่างจังหวัด> แล้วเราก็ขอบคุณเขาคนนั้น
เดินไปเรื่อยๆ นึกถึงคำบอกเล่าของผู้นำทริป แล้วดูสภาพการณ์ ลงทุนไปไม่ใช่น้อยนะเนี้ย. แต่ก็ช่างมันคือ. ธรรมชาติ จะมาเอาไปใช้คนเดียวได้อย่างไร คนในชุมชนไม่ได้ใช้เลย »ระหว่างที่เดินหามุมนั่ง เราเห็นบ้านพักริมทะเล10 กว่าหลังห่างจาก เรือนร้างของโรงแรม (ไม่รู้ของใคร) และการประกอบอาชีพของพี่น้องในเกาะมุกด์นอกเหนือจากการขับสามล้อพ่วงรับจ้างอีกอาชีพคือ การให้เช่าเรือคายัก หากสังเกตมีเพียงเราที่เป็นนีกท่องเที่ยวที่เป็นคนไทยทนอกนั้นหรั่งเพ เราไปหามุมสงบเพื่อรอชมพระอาทิตย์จะแตะขอบฟ้า ลาไปในวันนี้ »>กว่าชั่วโมงที่นั่งรอ«< สวยงามตามวิถีจริงๆ
ไม่มีความเห็น