วันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๒ เข้าประชุมที่ห้องประกายเพชร โรงแรมเอเชีย (ราชเทวี) กทม.
ช่วงเช้าเป็นวิทยากรกระบวนการพาผู้เข้าประชุมทำกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์
ผู้จัดตั้งชื่อกิจกรรม … รู้จักฉัน รู้จักเธอ เพราะผู้เข้าประชุมมาจากโครงการสร้างเสริมสุขภาพช่องปากเฟสแรกส่วนหนึ่ง อีกส่วนใหญ่กว่ามาจากเฟสสองที่เพิ่งมารู้จักกันครั้งแรกวันนี้
^_,^
พี่จิ๋ม ทพญ.สุขจิตตรา วนาภิรักษ์ สสจ.แพร่ เกริ่นนำจากเฟสแรกที่โครงการสร้างเสริมสุขภาพช่องปากวัยทำงาน กลุ่มที่ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือถือบัตรทอง มี ๑๑ โรงพยาบาลที่ยังไปต่อ และชวนเพื่อน ๆ มาร่วมในเฟสสองในวันนี้
เพื่อทดลองรูปแบบ Node and network ขยายจำนวนพื้นที่จากรูปแบบหนึ่ง หรือไม่ขยายพื้นที่แต่เพิ่มเนื้องานให้ครอบคลุมมิติสร้างเสริมสุขภาพ ที่โครงการได้มาตรฐานการสร้างเสริมสุขภาพช่องปากวัยทำงานมา ๗ หมวด
มีการสนับสนุนให้พวกเราทำวิจัยและพัฒนางาน (R2R) ยังคงวัตถุประสงค์โครงการในเฟสแรก เพิ่มให้ประชาชนกลุ่มวัยงานมี Self-care ด้านสุขภาพช่องปาก และเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพช่องปาก
^_,^
ผู้เขียนขึ้นเวทีอีกรอบ ทพ.วีระ อิสระธานันท์ (คุณหมอกล้วย) โรงพยาบาลแม่จัน เชียงราย Core team ที่ดำเนินการมาตั้งแต่เฟสแรก ดำเนินการอภิปราย
เล่าโครงการที่ทำสั้น ๆ ถอดบทเรียนว่าได้เรียนรู้อะไร และมีจุดที่เป็นด้านลบอึดอัดใจ
นอกจากอำเภอสระใคร หนองคายแล้ว เพื่อน ๆ บางอำเภอที่มาเล่า น้ำพอง ขอนแก่น อ่าวลึก กระบี่ และอำเภอลอง จังหวัดแพร่
พอให้เพื่อน ๆ ที่มาใหม่เข้าเฟสสองได้เห็นภาพ รับทราบเรื่องราวโดยสรุป และข้อที่ควรระวังในการขยายต่อ
^_,^
ภาคบ่ายเป็นบรรยาย System thinking โดย ทพญ.นนทินี ตั้งเจริญดี สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย
เข้าใจความเป็นระบบย่อย เชื่อมโยงกัน และเชื่อมโยงกับระบบใหญ่ ที่มีวัตถุประสงค์เป็นตัวบอกว่าอยู่ในระบบเดียวกัน
ที่เข้าใจมากขึ้น คือ การเปรียบเทียบกับภูเขาน้ำแข็ง ที่มองเห็นว่าปรากฏการณ์หนึ่ง ๆ มีที่มาหรือสาเหตุได้หลายสิ่ง หลายชั้น เช่น Patterns หรือ Trends ชั้นถัดไป Systemic structures และที่ชั้นล่างสุดเป็นพื้นฐานของสังคมหนึ่ง ๆ คือ Mental models
ได้เครื่องมือช่วยให้มองขอบเขตการทำงานของเรา อยู่ส่วนใดของระบบสุขภาพ ของระบบสังคมในพื้นที่ที่เราทำงาน เห็นความเชื่อมโยงของโครงสร้างองค์กร โครงสร้างสังคมที่เราทำงานด้วย เป็นต้น
ลองเปิดดู Slide สั้น ๆ จากวิทยากรนะคะ จะเข้าใจมากขึ้น นาน ๆ ลืมเลือนไป กลับมาเปิดดูได้เรื่อย ๆ
(ผู้เขียนเคยเข้า workshop เรื่องนี้ ๒ รอบ ประมาณ ๑๕ และ ๑๐ ปีที่แล้ว โดยเฉพาะครั้งแรกนั่น ... มึนงงมาก ครั้งที่สอง คลี่คลายขึ้น)
กว่าวัน เวลา ประสบการณ์ จะช่วยทำให้เรื่องที่เราเรียนมาง่ายขึ้น มองเห็นว่างานที่เราทำอยู่ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ขอบเขตขีดวงแค่ไหน เพียงเราทำให้ตนเองเข้าใจว่าเชื่อมโยงกับระบบใหญ่ตรงไหน ระบบอะไรบ้าง
และงานจะง่ายขึ้นมาก ถ้าเราทำให้ทีมของเรา ทีมทำงานย่อยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องแต่ละระบบ รู้ เข้าใจ และส่งมอบผลผลิตงานให้กันและกันแต่ละระบบย่อย ... อย่างเข้าใจกัน มีความสุข
รู้ว่างานของทีมระบบย่อยที่ตนเองเกี่ยวข้องนั้น มีคุณค่าให้ผลงาน วัตถุประสงค์ของระบบใหญ่บรรลุ ... เพื่อปวงประชา อย่างไร
^_,^
ต่อด้วยการบรรยาย โดย ทพญ.สุรัตน์ มงคลชัยอรัญญา สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย เรื่อง Situation Assessment in planning Health promotion project
เคยเรียน เคยฟัง เคยประเมินสถานการณ์ก่อนวางแผนโครงการด้วยวิธีอื่นมาบ้าง ... (Risk Assessment, SWOT, แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์, การวางแผนปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม A-I-C, ค่ากลาง, outcome mapping, PAR : Participatory Action Research, community-based development)
มีความเหมือน คล้าย และให้น้ำหนัก เพิ่มรายละเอียดบางสิ่ง
วิเคราะห์ได้รอบด้าน เข้าใจความต้องการ ความจำเป็นของกลุ่มคนที่แตกต่าง เราก็จะเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ตรงเป้ากับเรื่องที่อยากทำ ไม่สะเปะสะปะ เลือกชุดข้อมูลสำคัญ วิธีการจัดการข้อมูลที่ตอบวัตถุประสงค์ได้อย่างน่าเชื่อถือ ตั้งแต่ก่อนเริ่มลงมือทำโครงการ โดยบริหารทรัพยากรเหมาะสม คุ้มค่า ซึ่งมิเพียงจากรัฐ เอกชน ภาคท้องถิ่นเท่านั้น หมายรวม ทรัพยากร ภูมิปัญญาของชุมชนเป็นหลัก
ทักษะสำคัญที่ยังต้องฝึก การสื่อสารกับบุคคลสำคัญผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งระดับนโยบายที่จะอนุมัติโครงการ และบุคคลสำคัญ กลุ่มผู้นำด้านต่าง ๆ ของชุมชน ซึ่งจะนำไปสู่การเลือกใช้กลยุทธ์ วิธีการ กิจกรรมของโครงการที่ตรงกับความสนใจ เป็นที่ต้องการของ stakeholders ก็จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของผู้คนในชุมชน สังคมที่เราทำงานด้วย ... ได้ในที่สุด ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
จะดีมากไหม หากการสื่อสารที่ดีทำให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้าใจ พอใจ ยินดีไปด้วยกันตั้งแต่แรก ... เดินร่วมทางไปด้วยกันอย่างมีความสุข
ดู Slide ไปก่อนนะคะ
เอาไปใช้เมื่อไหร่ ผสมผสานความรู้เดิม กรองและเลือกทำที่เป็นไปได้ ... แล้วค่อยเล่าว่าผลการใช้เป็นอย่างไรนะคะ
^_,^
ปิดท้ายด้วย พี่ปิ ทพญ.ปิยะดา ประเสริฐสม ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย core team ที่ช่วยร่างโครงการ เสนอขอทุนมูลนิธิทันตสาธารณสุข และ สสส. สนับสนุนน้อง ๆ ดำเนินการมาในเฟสแรก
มาเชื่อมโยงว่า ๒ หัวข้อที่พี่ ๆ บรรยายภาคบ่าย จะช่วยให้เราวางแผนงาน จุดเล็กน้อย จุดใด แต่ต้องเห็นปลายทางว่าเชื่อมกับระบบใหญ่อย่างไร ... think local, act global
หนึ่งวัน เนื้อหาอัดแน่น ... กลับมาค่อย ๆ ย่อย
จะเอามาใช้วางแผนการสร้างเสริมสุขภาพช่องปากกลุ่มวัยทำงาน (บัตรทอง) ให้บริบทอำเภอแบบเรา ... อย่างไรจะดีงาม มีความสุขของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกส่วน
โปรดติดตามต่อนะคะ
ขอบคุณมากค่ะที่สนใจ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณวิทยากรกิตติมศักดิ์มากๆเลยจ้า
ขอบคุณพี่จิ๋มและพี่ ๆ มากค่ะที่ให้โอกาสพาผู้เข้าประชุมแบ่งปันความสุข ทำความรู้จักกัน ^_,^ ยินดีค่ะยินดี