วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ผมไปร่วมประชุมคณะกรรมการ CSR ของธนาคารไทยพาณิชย์ และคณะกรรมการมูลนิธิสยามกัมมาจล ซึ่งใช้กรรมการชุดเดียวกัน
มูลนิธิสยามกัมมาจลทำหน้าที่เป็น catalyst และ influencer ด้านการพัฒนาเยาชนให้แก่ประเทศ ในลักษณะของงานอาสาเพื่อสังคม ไม่มีอำนาจใดๆ ที่จะสั่งการ มูลนิธิเสนองานที่จะทำในปี ๒๕๖๒ รวม ๕ ด้าน ๔ ด้านมีการเสนอ Exit Strategy ด้วย ตามหลักการของการทำหน้าที่ catalyst และ influencer
โครงการที่มี exit strategy ได้แก่
โครงการที่ ๕ เพ่งเริ่ม คือโครงการสนับสนุนเขตพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา จังหวัดระยอง ศรีสะเกษ และสตูล ภายใต้โครงการ ConnextEd ร่วมกับ SCB
คณะกรรมการ CSR ให้นโยบายไว้ตั้งแต่เมื่อกว่าสิบปีมาแล้วว่า การทำงานของมูลนิธิสยามกัมมาจล เป็นการพัฒนาแนวทางใหม่ๆ ในการพัฒนาเยาวชน เน้นการสร้างบุคลิกลักษณะความเป็นคนดี และมีความสามารถดำรงอยู่ในสังคมสมัยใหม่ได้อย่างดี ไม่เน้นการให้ทุนสนับสนุนเป็นหลัก เน้นการร่วมกันพัฒนาวิธีทำงานพัฒนาเยาวชนแบบใหม่ๆ เมื่อเริ่มโครงการ ก็ต้องคิด exit strategy ไว้ล่วงหน้า คือแสวงหาภาคีที่ทำงานเรื่องนั้นๆ หรือมีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องนั้นๆ มารับช่วงงาน
เราค้นพบว่า หน่วยราชการไม่มีความสามารถในการทำงานเชิงนวัตกรรม และเชิง empower หน่วยงานอื่นอย่างที่ SCBF ทำ หน่วยงานรับช่วงจึงมักเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีความเป็นอิสระ ไม่เป็นหน่วยราชการ
วิจารณ์ พานิช
๒๐ ธ.ค. ๖๑
ไม่มีความเห็น