My Life @ Hi Hug House....

วันนี้ ขอปิดท้ายบันทึกบ้านไร่ ณ เชียงใหม่ กับเรื่องราวที่ก่อเกิดขึ้นบนพื้นที่เล็กๆ ที่เราเรียกว่า"บ้านไร่"ครับ ขอบคุณผู้คนที่ก้าวผ่านเข้ามาเพื่อเรียนรู้และสัมผัสวิถีตามแบบฉบับของเราด้วยนะครับ ยินดีในทุกครั้งที่ได้มีโอกาสต้อนรับทุกท่าน และอบอุ่นใจในทุกครั้งที่ได้รับตอบกลับด้วยมิตรภาพดี ดี จากผู้คนเหล่านั้น ขอบคุณพลังกาย พลังใจ ที่ก่อเกิดขึ้นในทุกๆ วัน Thank you Gotoknow ที่แบ่งปันพื้นที่เพื่อส่งต่อเรื่องราวดี ดี แล้วอย่าลืมมาเปิดอ่านสมุดบันทึกเรื่องราวใหม่ๆ ในปี 2019 ด้วยกันอีกนะคร้าบ!!!!

-ขอส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ กับบันทึกส่งท้ายปี 2561 บนสมุดออนไลน์เล่มนี้กันสักหน่อยก็แล้วกันนะครับ สำหรับวันนี้ถือโอกาสนั่งเขียนบันทึกเกี่ยวกับ"บ้านไร่"ที่ได้ก่อเกิดเรื่องราวขึ้นอย่างมากมาย ภายใต้มิตรภาพจากผู้คนที่ก้าวเข้ามาร่วมสัมผัสวิถีชีวิตในแบบฉบับของครอบครัวเล็กๆ ของเราครับ และเพื่อเป็นการส่งต่อเรื่องราวเหล่านั้นไปยังผู้คนบนโลกกว้าง จึงขอร้อยเรียงอักษรส่งผ่านความรู้สึกต่างๆ กับบันทึกนี้ พร้อมแล้วตามไปอ่านพร้อมๆ กันได้แล้วคร้าบ!!!!!

ด้วยความตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่ต้นปี 2561 ที่ครอบครัวเล็กๆ ของเราจะได้เรียนรู้และหาคำตอบให้กับโจทย์ชีวิต เกี่ยวกับการสร้างรายได้จากผลผลิตที่เกิดขึ้นจากพื้นที่ไม่มากนักแห่งนี้ครับ และเพื่อหาคำตอบนั้นให้ชัดเจนพร้อมกับเรียนรู้ตามหลักการต่างๆ จึงได้จัดทำ"บัญชีเพิ่มทรัพย์"ประจำบ้านไร่ขึ้นมา ภายใต้แนวคิด"ปลูกเอง เก็บเอง ขายเอง ซื้อเอง กินเอง"ครับ จัดทำรายการซื้อผลผลิตที่เก็บเกี่ยวเอาไว้ทุกวัน ประเมินราคาด้วยตัวเอง จดบันทึก สรุปยอดในทุกสิ้นเดือน เพียงเท่านี้ก็ได้คำตอบที่หากเราต้องใช้เงินสดไปซื้ออาหารที่เราสามารถผลิตเองได้ และในปี 2561 นี้จะต้องจ่ายเงินถึง 17,740 บาท กันเลยทีเดียวครับ แต่สำหรับปีนี้นอกจากเราจะไม่ต้องจ่ายเงินให้กับแม่ค้าแล้ว ครอบครัวเล็กๆ ของเรายังได้มีเงินเก็บจากผลผลิตการเกษตรของบ้านไร่ถึง 17,740 บาทด้วยล่ะคร้าบ!!!

2.สำหรับพื้นที่ไม่มากนักแห่งนี้ เราเรียกว่า"บ้านไร่"ครับ และมีอาจารย์ที่เราเคารพ(อาจารย์ไพศาล ช่วงฉ่ำ)ท่านได้มอบคำจำกัดความของบ้านไร่ของเราเอาไว้ว่าเป็นที่อยู่อาศัยแบบ"2 วิถี 3 โลก"ซึ่งผมก็เคยบันทึกเอาไว้ที่นี่ครับ 2 วิถี 3 โลก มาถึงวันนี้เราก็ดำเนินชีวิตตามวิถีและยังมีโอกาสได้ส่งต่อวิถีแบบนี้ไปยังผู้คนที่ก้าวเข้ามาอีกด้วยล่ะครับ และนี่ก็คือสิ่งที่เราภูมิใจครับ..

3.สำหรับกิจกรรมในรอบปีการผลิตของเราก็จะดำเนินกิจกรรมไปตามวงรอบของฤดูกาลครับ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นฤดูไหนๆ เราก็จะมีกิจกรรมเกี่ยวกับการเกษตรได้ ทั้งนี้ไม่เพียงแต่เราจะได้เรียนรู้แล้วเรายังได้เก็บเกี่ยวเอาผลผลผลิตนั้นมาใช้หล่อเลี้ยงชีพของเราได้อีกด้วย และกิจกรรมที่สามารถทำได้ตลอดทั้งปีนั้นก็คือ"การปลูกพืชผักสวนครัว"นั่นเองครับ และนี่ก็คือผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปีเช่นเดียวกันครับ

4.ในด้านของการอนุรักษ์ดินและน้ำ รวมทั้งการอยู่ร่วมกับธรรมชาติแบบ"พี่งพาและพึ่งพิง"เราก็ได้จัดสรรพื้นที่ ที่มีอยู่อย่างจำกัดสำหรับเรียนรู้เรื่องการ"สร้างป่า"ครับ เพียงไม่กี่ปีที่ได้เรียนรู้และหาคำตอบเกี่ยวกับทฤษฎีนี้ ก็ทำให้เราพอจะได้คำตอบมาบ้าง แม้ว่าจะยังไม่ตอบโจทย์ได้ชัดเจนนัก เนื่องด้วยข้อจำกัดเรื่องพื้นที่แล้ว ก็ทำให้เราได้มีความมั่นใจในการส่งต่อเรื่องราวเหล่านี้ไปยังผู้คนที่ก้าวเข้ามาร่วมเรียนรู้กับเราครับ...

5.หากเทียบกิจกรรมของบ้านไร่ตามหลักการของ"ความพอเพียง"แล้วนั้น เราก็ยังอยู่ในระดับขั้นที 1 คือ"ระดับขั้นพื้นฐาน"ครับ การได้พึ่งพาตนเองแบบนี้แล้วก็ทำให้อยู่ได้แบบไม่ต้องเบียดเบียนผู้อื่นมากนัก และหากมีโอกาสที่เราจะได้นำเอาวิถีแบบนี้แบ่งปันให้กับผู้ที่สนใจบ้างเราก็พร้อมที่จะ"ททท."หรือ"ทำทันที"ครับ และการก้าวเดินไปสู่ขั้นที่ 2 และที่ 3 นั้น ก็คงจะต้องใช้เวลาและอาศัยปัจจัยอื่นๆ ที่จะเข้ามาเสริมหนุนให้เราก้าวไปอย่างมั่นคงต่อไปครับ...

6.สำหรับผู้คนที่ก้าวเข้ามา ณ บ้านไร่ ของเราก็จะมีหลากหลายวัย ไม่ว่าจะเป็น เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ ผู้คนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ตั้งใจที่จะเข้ามาสัมผัสวิถีในแบบของเราครับ การรวมกลุ่มของคนหลากหลายวัยเช่นนี้ทำให้เราได้ซึมซับความอยู่ร่วมกันและการส่งต่ออาชีพและรากเหง้าของผู้คนรุ่นเก่าก่อนไปยังคนรุ่นหลังได้อย่างอิ่มอุ่นใจครับ ภายใต้การแลกเปลี่ยนเรียนรู้/แบ่งปัน นำไปสู่ความรู้ที่ได้พิสูจน์ทราบตามแบบฉบับของเราเองครับ...

7.ภายใต้แนวคิดการเรียนรู้แบบ"Farm School" บ้านไร่ของเราก็ได้จัดกิจกรรมต่างๆ เอาไว้ให้กับผู้ที่สนใจได้เรียนรู้และสัมผัสครับ อาจจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากนัก แต่เราก็คิดว่าน่าจะเพียงพอสำหรับการได้เรียนรู้และสัมผัสวิถีแบบนี้ได้อย่างเต็มอิ่มครับ และในปีนี้เราก็ได้แนวคิดในการพัฒนาและต่อยอดกิจกรรมของ"Farm School"อีกหลายอย่างเลยล่ะครับ แต่เป้าหมายของเราก็ยังคงเหมือนเดิมคือกำไรชีวิต ที่เรียกว่า"ความสุข"นั่นเองครับ...

8.ไม่ว่าจะทำอะไร สิ่งที่ต้องพบเจอนั้นก็คือ"ปัญหา/อุปสรรค"ครับ แต่สิ่งที่เราได้เรียนรู้อยู่ตลอดเวลานั่นก็คือ"การรู้จักการแก้ไขปัญหา"เพื่อนำมาแก้ไขและหาแนวทางในการปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและข้อจำกัดที่เรามีนั่นเองครับ

9.และการสร้างความสมดุลของชีวิตแบบ"ทางสายกลาง"นั้น เราก็ต้องเรียนรู้และนำเอามาเป็นแนวทางในการใช้ชีวิตพร้อมกับการส่งต่อวิถีแบบนี้ไปยังผู้คนที่ก้าวเข้ามาเรียนรู้กับครอบครัวเล็กๆ ของเราครับ การอยู่แบบ"พอเพียงก็เพียงพอ"แล้วนะคร้าบ!!!!

10.และนี่ก็คือ"บทสรุป"ปิดท้ายปี 2561 นี้ก็บกิจกรรมของ"บ้านไร่"ของเราครับ สำหรับการก้าวเข้าสู่ปี"หมูทอง"2019 นี้ ความตั้งใจในการพัฒนาและเรียนรู้ต่างๆ ก็ยังมีอีกในหลายๆ เรื่องครับ เอาเป็นว่ารอติดตามและให้กำลังใจกับครอบครัวเล็กๆ ของเราด้วยก็แล้วกันะคร้าบ!!!

สำหรับวันนี้ ลาทีปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ สุข สมหวัง ในทุกๆ สิ่งที่ตั้งใจนะครับ...

สวัสดีครับ

เพชรน้ำหนึ่ง+มดตะนอย

30/12/2561

ณ เชียงใหม่ Thai Land

เขียนใน GotoKnow โดย เพชรน้ำหนึ่ง
ใน เกษตรบ้านพราน

คำสำคัญ (Tags): #Hi Hug House#บ้านไร่#my life#ความสุข#happy new year#สวัสดีปีใหม่#เกษตรบ้านพราน#บุญส่ง จอมดวง#ปรียารัตน์ จอมดวง#วิชาชีวิต#ไฮ่ฮักเฮา#พอเพียง#เศรษฐกิจพอเพียง#อำเภอพรานกระต่าย#จังหวัดกำแพงเพชร#สรุป#เชียงใหม่#ลาทีปีเก่า#gotoknow

หมายเลขบันทึก: 659023เขียนเมื่อ 30 ธันวาคม 2018 17:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 ธันวาคม 2018 17:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่าน

ความเห็น (12)

แก้ว..อุบล จ๋วงพานิช

เขียนเมื่อ 31 ธันวาคม 2018 05:16 น. ()

ขอชื่นชมวิถีพอเพียง

การทำสิ่งเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่มีคุณค่าของชีวิตเราและชีวิตผู้อื่นอย่างมหาศาล

ขอให้มีความสุขทั้งครอบครัว มีชื่อเสียงต่อไป

เพชรน้ำหนึ่ง