หลังจากที่ผมฟังจากเพื่อนและพี่ๆที่เขาได้เข้าไปพื้นที่ บ้านเพิ่ม ต.นาแค อ.นายูง จ.อุดรธานี ที่เข้าไปนำเสื้อผ้าไปมอบและบริจาค ว่าบ้านเพิ่มเป็นนั้นแบบนี้ แล้วมาเล่าให้ผมฟัง ผมก็ไม่ค่อยเชื่อไม่ค่อยแน้ใจว่าจะเป็นแบบที่เขาพูดไว้ไหม เพราาะว่าจะได้จัดค่ายไป
โดยที่ผมจะได้เป็นผู้รับผิดชอบค่ายและเป็นประธานค่าย
ผมก็พยายามถามก็พยายามคิดภาพตามว่าต้องเป็นแบบนี้ๆ เเบบนี้ ผมก็เป็นเข้าใจอะไรๆยากๆสักนิดๆ ผมเลยตัดสินใจว่าจะไปสำรวจเอง ว่ามันจะเป็นแบบที่เขาไปแล้วมาพูดไหม
พอไปถึงสิ่งแรกที่ผมได้ตกหลุมรัก็คือ ธรรมชาติ ภูเขา และใช้ชีวิตที่ช้าๆไปเรือยๆในแต่วัน และที่ผมประทับใจก็คือชาวบ้านเขาพยายามจะปรับตัวและพัฒนาหมู่ชาวร่วมกันให้อยู่ได้ในวิกฤตเศรฐกิจ โดยที่ส่วนใหญ่ชาวบ้านทำการเกษตรกร สวนยาง นาข้าว แต่ปัจจุบันราคายางก็ไม่ค่อยดีเท่าไร
แต่สิ่งที่ชาวบ้านเขามีทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่ามากกว่าเงินทอง
คือน้ำตก ป่าที่อุดมสมบูรณ์ และป่าสมุนไพร สวนกาแฟ ที่แรกของภาคอีสาน และปูหิน
แล้วผมก็ได้ไปเจอคนที่ชาวบ้านเรียกเขาว่า คนบ้า คือพี่วิลัย
เป็นที่แรกทีี่ปลูกกาแฟใน จ.อุดรธานี และ มีความคิดที่จะพัฒนาหมู่บ้านโดยไม่คิดเอาประโยชน์แค่คนเดียว แกและแกนนำชาวบ้านช่วยกันจะทำให้หมู่บ้านให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและหารายได้เข้าหมู่บ้านของแกเอง ผมก็ได้ไปชิมกาแฟของแกดู บอกได้เลยว่าสุดยอดมาก กาแฟขี้ชะมด และ กาแฟกลิ่นขี้ชะมด
แต่เดียวผมจะมาเล่าให้ฟังต่อหลังจากหลับจากค่ายมอบไออุ่นสู่อีสาน ครั้งที่2
22ถึงวันที่24 ธันวาคม 2561
ผมก็ขอเชิญชวนพี่น้องๆมาร่วมบริจากสิ่งของ
เสื้อผ้ากันหนาว อุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬาให้น้องๆด้วยกันนะครับ
#ศูนย์ประสานงานเครือข่ายนิสิตจิตอาสา
#เครือข่าย๙ต่อBeforeAfter
#มมส
ไม่มีความเห็น