World Soil Day...
-ได้เวลาเก็บเรื่องราวแห่งความประทับใจเป็นบันทึกที่ 2 ของสัปดาห์นี้ กับกิจกรรมที่ได้เกิดขึ้น ณ บ้านไร่ ของเราครับ ทั้งนี้ก็เพราะว่ามีวันหยุดเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งวัน ซึ่งก็ตรงกับวันพุธ ที่ 5 ธันวาคม 2561 นอกจากจะเป็นวันสำคัญของปวงชนชาวไทยแล้ว วันนี้ก็ยังถือเป็นวันที่คนทั่วโลกได้ให้ความสนใจโดย "องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ(FAO) ได้ผลักดันให้วันนี้เป็น"วันดินโลก(World Soil Day) สืบเนื่องมาจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเกี่ยวกับการพัฒนาที่ดินมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ปรากฏผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์อย่างกว้างขวางทั้งในประเทศและนานาชาติ ดังนั้นในการประชุมครั้งที่ 144 ระหว่างวันที่ 11-15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ณ สำนักงานใหญ่องค์การเกษตรและอาหารแห่งสหประชาชาติกรุงโรม ประเทศอิตาลี ที่ประชุมได้มีมติสนับสนุนและร่วมกันผลักดันให้มีการจัดตั้ง "วันดินโลก" (World Soil Day) ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่นี่ครับ วันดินโลก Wikipedia.org และเมื่อเป็นวันอันเป็นมหามงคลยิ่งแบบนี้แล้ว บ้านไร่ของเราจึงได้จัดกิจกรรมภายใต้ชื่อว่า"World Soil Day @ Hi Hug House"ว่าแต่จะมีกิจกรรมอะไรที่น่าสนใจบ้าง พร้อมแล้วตามไปชมพร้อมๆ กันได้แล้วคร้าบ!!!!!
- หลังจากได้รับการประสานงานจาก"ทีมแม่กวาง"ว่าจะพาเด็กๆเข้ามาทำกิจกรรมและสัมผัสวิถีชีวิตแบบพื้นบ้าน ณ บ้านไร่ของเราในวันหยุดที่ 5 ธันวาคม 2561 นี้ พร้อมทั้งร่วมกันวางแผนกิจกรรมต่างๆ ให้เหมาะสมกับทีมเด็กๆ ที่จะมาร่วมกิจกรรมกันอย่างเรียบร้อยแล้วนั้น ทีมงานบ้านไร่ก็ได้จัดเตรียมกิจกรรมให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้เพิ่มเติมครับ ด้วยเรามีเวลาเตรียมการไม่มากนักดังนั้นจึงต้องขอความร่วมมือจากเพื่อนบ้านที่มีประสบการณ์ตรงด้านการทำ"สะพานเชืือก"มาช่วยกันเตรียมการ ส่วนตัวผมเองก็ตั้ง Concept งานเอาไว้ว่าจะให้เด็กๆ เรียนรู้เรื่องดินในด้านใดได้บ้าง สรุปแล้วงานนี้จึงได้นำเอาดินสีต่างๆ มาผสมน้ำเพื่อให้เด็กๆ ได้สัมผัสกับ"น้ำโคลน"ที่สามารถนำมาเขียนตัวหนังสือหรือวาดภาพต่างๆ ได้ และสีของดินวันนี้มีทั้งหมด 4 สีครับ ประกอบด้วย"ดินสีเหลือง/ดินผสมขี้เถ้า/ดินผสมผงถ่าน/ดินปลวก"และเพื่อเป็นการทดสอบความพร้อมของสถานที่และ"น้ำโคลน"วันนี้เราจึงต้องทดสอบความแข็งแรงของ"สะพานเชือก"กันก่อน ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้รู้ถึงข้อจำกัดและป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับเด็กๆ ในขณะที่เรียนรู้ ณ ที่แห่งนี้ ด้วยนั้นเองครับ เตรียมการกันจนค่ำแล้ว ทุกอย่างก็พร้อมที่จะต้อนรับเด็กๆ ในวันพรุ่งนี้แล้วล่ะครับ...
2.และในเช้าของวันนี้เป็นวันสำคัญของปวงชนชาวไทย ตัวผมเองในฐานะที่เป็น"ข้าของแผ่นดิน"วันนี้จึงเข้าไปร่วมพิธีและร่วมทำบุญตักบาตรในช่วงเช้าก่อน หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจแล้วก็กลับมาเตรียมการต้อนรับเด็กๆ งานนี้สถานที่พร้อม...ทีมงานก็พร้อมที่จะต้อนรับเด็กๆ แล้วล่ะครับ...
3.เมื่อได้เวลาแล้ว ผู้ปกครองและเด็กๆ ก็ได้เดินทางมาถึง ณ บ้านไร่ แล้วล่ะครับ หลังจากทีมงานเดินทางมาพร้อมกันแล้ว เราก็เริ่มกิจกรรมกันทันทีครับ โดยก่อนที่จะทำกิจกรรมในวันนี้ ผมได้แนะนำและบอกเล่าถึงที่มาของบ้านไร่รวมทั้งกิจกรรมต่างๆ ที่จะเรียนรู้ร่วมกันในวันนี้ และเมื่อทีมงานเข้าใจกับขั้นตอนต่างๆ แล้วเราก็เริ่มกิจกรรมกันต่อเลยครับ..
4.ก่อนที่จะตัวเลอะโคลนไปกว่านี้ เราก็ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้การทำ"พิซซ่าเตาถ่าน"กันก่อนครับ โดยวันนี้เด็กๆ จะได้ทำพิซซ่ากันคนละ 1 ถาด หลังจากทำพิซซ่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็นำพิซซ่าเข้าเตาอบ และในระหว่างที่รอให้พิซซ่าสุก เราให้ชวนเด็กๆไปเรียนรู้การปั้นไข่เค็มศิลากันต่อครับ...
5.บ่อยครัั้งที่หากใครที่มาเรียนรู้และทำกิจกรรมที่บ้านไร่ของเรา ต่างก็จะได้เรียนรู้และสัมผัสการทำ"ไข่เค็มศิลา"ครับ สำหรับข้อมูลและที่มาของ"ไข่เค็มศิลา สามารถติดตามอ่านได้จากที่นี่ครับ ไข่เค็มศิลา และหากท่านใดสนจะเรียนรู้หรือมีข้อแนะนำด้านการพัฒนา"ไข่เค็มศิลา"ก็สามารถมาเรียนรู้และแนะนำได้เลยนะครับ เรายินดีที่จะได้ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิตดี ดี เช่นนี้ ณ บ้านไร่ของเรา ครับ...
6.ปั้นไข่เค็มศิลา เสร็จเรียบร้อยแล้ว พิซซ่าเตาถ่าน ก็สุกพอดีครับ และก่อนที่จะไปสัมผัสกับวิถีชีวิตแบบพื้นบ้านด้วยการ"นั่งรถอีต๊อก" เราก็ให้เวลาเด็กๆ ลิ้มลองความอร่อยของ"พิซซ่า"กันก่อนครับ สำหรับความอร่อยคงไม่ต้องบรรยาย เอาเป็นว่าขอฟ้องด้วยภาพก็แล้วกันนะครับ 555
7.เมื่อท้องอิ่มแล้ว ก็ได้เวลาที่ทีมงานจะได้ออกเดินทางแล้วครับ "รถอีต๊อก"ยานพาหนะของเราในวันนี้มี 2 คัน ใครจะนั่งคันไหนก็เลือกเอาเอง แต่เท่าที่เห็นแล้ว วันนี้มีการแยกกลุ่มกันอย่างชัดเจนระหว่างคันของเด็กๆกับคันของผู้ปกครองครับ 555 และระหว่างทางก็ได้มีโอกาสให้เด็กๆได้แวะสัมผัสกับธรรมชาติกันสักหน่อย ส่วนผู้ปกครองก็ดูแลเด็กๆ รวมทั้งเก็บภาพของประสบการณ์ชีวิตดี ดี แบบนี้เอาไว้อย่างน่าประทับใจครับ...
8.นั่งรถอีต๊อกกันจนอิ่มใจแล้ว ต่อไปก็ได้เริ่มกิจกรรมการเรียนรู้วิถีไทยๆ อีกอย่างหนึ่งครับ โดยวันนี้เราได้จัดเตรียมการทำ"ขนมไทย"แบบง่ายๆ นั่นก็คือ"การทำบัวลอยมะพร้าวอ่อน"ครับ กิจกรรมนี้จะทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้และเพิ่มทักษะชีวิตในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกกล้ามเนื้อมือ หรือการใช้ชีวิตแบบพึ่งพาตนเองได้ด้วยการทำอาหารแบบง่ายๆ และเรียนรู้เรื่องการผสมสีจากธรรมชาติด้วย เห็นผู้ปกครองและเด็กๆ ได้เรียนรู้แบบนี้แล้วก็รู้สึกอบอุ่นใจมากๆ เลยล่ะครับ..
9.ดูเหมือนว่าระหว่างที่ทำกิจกรรมปั้นบัวลอยอยู่นั้น เด็กๆ จะเริ่มห่วงกับการได้ลงเล่นน้ำโคลนและเล่นน้ำกันแล้วล่ะครับ 555 ดังนั้นในระหว่างที่รอถึงเวลาอาหารกลางวัน เราจึงให้เด็กๆ ได้สัมผัสกับวิชาชีวิตแบบพื้นบ้านกันอย่างเต็มที่ โดยการทำกิจกรรมต่างๆ ต้องอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดจากผู้ปกครอง ทั้งนีี้ก็เพื่อจะรักษาความปลอดภัย เพราะ"ความปลอดภัยต้องมาก่อน"จะสนุกได้แต่เราก็ต้องเชื่อฟังผู้ปกครองนะครับเด็กๆ
10.เล่นกันจนเหนื่อยแล้ว เวลาก็ล่วงเลยมื้อกลางวันไปจนกระทั่งบ่ายแก่ๆ ครับ และเมื่อนำเด็กๆ ออกจากสวนสนุกบ้านทุ่งได้ครบทุกคนแล้ว ก็ได้เวลาที่เราจะรับประทานอาหารกลางวันแล้ว วันนี้มีการล้อมวง 2 วงครับ มีวงเด็กกับวงผู้ใหญ่ ความหิวไม่เคยปราณีใคร ดังนั้นเมื่อได้เวลาทุกคนก็ขอจัดการให้ท้องอิ่มกันก่อนครับ 555
11.อิ่มหมีพีกันกันเรียบร้อยแล้ว ก็ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตอื่นๆต่อครับ ดังนั้นใครสนใจกิจกรรมไหนก็ขอเชิญสัมผัสและเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ ภายใต้ข้อจำกัดของสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกของบ้านไร่ แต่เราก็พยายามที่จะจัดให้เด็กๆ ได้มีกิจกรรมการเรียนรู้ให้มากที่สุดครับ...จะสนุกแค่ไหนถามใจเธอดูเอาเองก็แล้วกันนะครับ...
12.เหนื่อยนัก พักก่อน พักผ่อนลิ้มลองของหวานโบราณ ที่เรียกว่า"หวานเย็น"กันก่อนครับเด็กๆ ถือเป็นความตั้งใจของบ้านไร่ที่อยากจะทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้และสัมผัสถึงวิถีเก่าก่อนครับ ดังนั้นเราจึงทำ"หวานเย็น"เอาไว้ต้อนรับผู้มาเยือน และรู้สึกประทับใจในทุกครั้งที่ได้เห็นภาพแห่งความอบอุ่นของครอบครัวเช่นนี้ครับ..ไม่ขอบรรยายให้มากความ เอาเป็นว่าขอให้ชมภาพนแห่งความประทับใจนี้ไปด้วยกันดีกว่าครับ...
13.การส่งมอบความสุขให้กับเด็กๆ ในวันนี้จะก่อเกิดขึ้นไม่ได้เลย หาไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ปกครองที่มีแนวคิดและพร้อมใจในการวางแผนการเรียนรู้กิจกรรมต่างๆ ณ พื้นที่เล็กๆ แห่งนี้ครับ ซึ่งเราก็รู้สึกได้ถึง"ความสุข"ที่ได้เกิดขึ้น ณ บ้านไร่ ของเรา มิตรภาพและสายสัมพันธ์อันดีที่ได้พบเจอถือเป็นกำไรชีวิต และจะช่วยเพิ่มพลังกาย พลังใจ ให้เราได้สานต่อความฝันเล็กๆ แบบนี้ต่อไป Happy Birth Day นะครับเด็กๆ
14.ก่อนที่จะเดินทางกลับ วันนี้เราให้เด็กๆ ได้เขียนวามประทับใจเพื่อส่งกลับไปที่บ้านครับ PostCard บ้านไร่ ถูกบันทึกความทรงจำดี ดี เอาไว้อย่างน่าประทับใจไปพร้อมๆกับ"ความสุข"ที่เกิดขึ้นอย่างอบอุ่นใจมากๆ เลยล่ะครับ เอาเป็นว่ารอรับโปสการ์ดของบ้านไร่นะครับเด็กๆ...
15.และนี่ก็คือกิจกรรมการเรียนรู้ตาม Style บ้านไร่ Hi Hug House(ไฮ่ ฮัก เฮา)ครับ แม้ว่าจะมีเวลาทำกิจกรรมไม่มากนักและยังมีปัจจัยด้านอากาศที่ค่อนข้างจะร้อนไปสักหน่อย แต่วันนี้เด็กๆ ก็ได้เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ จากที่นี่ อาจจะไม่มากหรือน้อยไปแต่ครอบครัวเล็กๆ ของเราหวังว่าทุกกิจกรรมที่ได้ตั้งใจส่งต่อไปยังเด็กๆ และผู้คนที่ก้าวเข้ามาแบบ"ไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอ"แต่ด้วยเป้าหมายและความตั้งใจที่ตั้งเอาไว้ต่างหาก ที่ทำให้เราได้พบกันในวันนี้ และหวังใจเอาไว้ว่าเมื่อมีโอกาสเหมาะๆ เราก็คงจะได้พบกันอีก ณ ที่แห่งนี้ Hi Hug House บ้านฉันก็บ้านเธอ....
สำหรับวันนี้ ต้องขอขอบคุณภาพแห่งความประทับใจจาก"ทีมคุณแม่กวางและทีมแม่โอ๋"ที่ได้ช่วยส่งต่อเรื่องราวดีๆ แบบนี้กลับมาให้ผมได้นำมาบันทึกเอาไว้บนสมุดออนไลน์เล่มนี้ มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ...
สวัสดีครับ
เพชรน้ำหนึ่ง+มดตะนอย
06/12/2561
Hi Hug House
ความเห็น (4)
งานเกี่ยวกับดินเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ ปลูกฝังเยาวชนให้ทราบคุณค่าแผ่นดินเป็นสิ่งประเสรฐยิ่ง
-สวัสดีครับท่านจำรัส-ยินดีที่ได้บันทึกเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้น ณ บ้านไร่เอาไว้บนโลกออนไลน์นี้ครับ-เพราะอย่างน้อยๆ ก็ได้เก็บเอาไว้เปิดอ่านได้ในทุกๆ ที่ บนโลกใบนี้ครับ-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจบันทึกนี้ด้วยนะครับ
รถอีต๊อกบ้านผมเรียกรถอีแต๊ก
-สวัสดีครับอาจารย์แผ่นดิน-ไม่ว่าจะเรียกอะไรก็ใช้ประโยชน์เหมือนๆกันนะครับ-ต่างที่ต่างชื่อนะครับอาจารย์-เด็กๆ ได้เรียนรู้และชื่นชอบกิจกรรมนี้มากๆ ครับ-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจบันทึกนี้ด้วยนะครับ