ผมเกิดปีขาล..วันอาทิตย์..ตามเกณฑ์ดวงชะตา ที่พระอาจารย์ผูกดวงแล้วบันทึกให้พ่อของผมอย่างละเอียด..ผมมาค้นเจอหลังจากที่พ่อจากผมไปแล้ว..
ผมอ่านหลายครั้งจนจำได้..แต่ไม่เคยเชื่อ ทั้งที่ชีวิตจริงก็เป็นไปตามดวงชะตาที่ว่าไว้เกือบทั้งหมด..ที่ไม่เชื่อก็เพราะคิดว่า..ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นจากผลของการกระทำ หรือเป็นไปตาม..กรรม..นั่นเอง..
ตามดวง..ที่บันทึกไว้บอกว่า..ผมใจใหญ่ ใจกว้าง เป็นนักสู้มีความทรหดอดทน มีความมุ่งมั่น มุมานะ ชอบเอาชนะอุปสรรค..อันนี้ก็แม่นเหมือนจับวาง..
ในวัยเด็ก..สุขภาพร่างกายไม่สู้ดี อันนี้ก็แม่นอีก..แต่ท่านไม่ได้บอกว่าเมื่อเติบโตขึ้นสุขภาพร่างกายจะยืนยาวได้แค่ไหน..?
ในบันทึกมีอยู่ประโยคหนึ่งที่ผมจำฝังใจ แต่ไม่ให้ความสำคัญมากนัก เมื่อดวงชะตาของผมบอกว่า..ผมทำบุญทำคุณกับใครไม่ขึ้น..ผมก็แค่รับรู้และปรับตัวปรับใจได้ ไม่ต้องคิดอะไร ไม่ต้องคาดหวังในสิ่งตอบแทน..อย่างน้อยก็ได้ฝึกการเป็นผู้ให้เสมอมา
ประโยคสุดท้าย..ในบันทึกดวงชะตาของผม มีความน่าสนใจอยู่พอสมควร เพราะทำให้ผมรู้สึกศรัทธา ตั้งแต่อายุย่างเข้าสู่ปีที่ ๕๐..ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ..
ดวงของผมจะไม่ตกอับ..”จะมีผู้ใหญ่ให้การส่งเสริมสนับสนุนช่วยเหลือ มีความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน..” ชีวิตผมเป็นเช่นนั้นจริงๆ
ในอีกแง่มุมหนึ่ง..ผมลองใช้หลักคิดง่ายๆของ “ชีวิตครู” ที่ไม่น่าจะมีอะไรยุ่งยากซับซ้อน ก็แค่คิดดีทำดี..ตั้งใจจัดการเรียนการสอน..ผลที่จะเกิดขึ้นก็ไม่น่าห่างไกลไปจากเหตุ..
ถ้าเป็นผู้บริหารโรงเรียน..สำหรับผมที่เคยเป็นครูมาก่อน..ผมจะสะท้อนความคิดและมุมมองง่ายๆ ให้ไปสู่ภาคปฏิบัติได้จริงๆ ทำในสิ่งที่อยากทำแล้วไม่ได้ทำ..รีบทำทันที..
ผมอยากเห็นผู้บริหาร..มาแต่เช้าแล้วกลับทีหลัง ผมได้ทำแล้วและทำมาอย่างต่อเนื่องหลายปี ไม่มีใครชื่นชม แต่ผมก็ชื่นชมตัวเองที่ทำได้...
ผมเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา คอยแต่รับคำสั่ง ดำเนินการ แล้วแก้ปัญหา..ขาดคนช่วยเหลือดูแลเอาใจใส่ ไม่มีใครให้คำปรึกษา ..ทำให้ผมได้ฝึกความรับผิดชอบ..
วันนี้..ผมมานั่งเป็นประธาน..คอยสั่งงานบ้าง ผมจึงสั่งให้น้อยที่สุด โดยใช้วิธีการประสานแล้วช่วยกันทำ..แบ่งเบาภาระครู..เพื่อให้ครูผู้สอนได้ใช้เวลาอยู่ในห้องเรียน..ให้มากที่สุด..
บางคนอาจมองว่า..ผมต้องการก้าวไปสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ..ต้องการบำเหน็จความชอบ..แท้ที่จริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะผมก็แค่ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ ไม่ได้อยู่ในหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไข..ที่จะได้รางวัลใดๆ..
สำหรับ “คุณภาพ”ผู้เรียน ในบริบทของโรงเรียนที่ไม่เอื้อให้ก้าวไกลไปกว่านี้ได้อีกแล้ว..ผมอยู่นานจนผมรู้ ไม่ต้องใช้ลางสังหรณ์ แต่ทุกขั้นตอนบ่งบอกเลยว่า ถ้าไม่ทำอะไรเลย...โรงเรียนเล็กๆไปไม่รอด...
วันนี้..พาครูทุกคนไปทานข้าวมื้อเย็น..ที่ร้านอาหาร “ครัวบ้านนา” ร้านประจำเพียงร้านเดียว..ที่ช่วยทบทวนความทรงจำทุกเรื่อง...หลังเลิกงาน..
ผมเห็นครูทุกคนทานอาหารได้อย่างเอร็ดอร่อย ทำให้รู้สึกมีความสุข..และพยายามอยู่กับความคิดในปัจจุบัน..ผมไม่อาจฝันว่าในอนาคตจะมีอย่างวันนี้อีกไหม
ครูจำนวน ๑๐ ท่าน..รวมทั้งผมด้วย..มากพอที่จะทำให้ผมภูมิใจ มีครูจ้างสอนจากเงินรายได้สถานศึกษา ที่ผู้ใหญ่ใจดีมอบให้..ครูธุรการโรงเรียนจากนโยบายภาครัฐ...
และครูผู้ทรงคุณค่า..อายุ ๖๐ ปี ที่เป็น “ครูมืออาชีพ” ยอมเสียสละเวลามาสอนทั้งที่ค่าตอบแทนไม่ได้มากมายเลย..
ชีวิตราชการของผมยิ่งอยู่นาน...ผมยิ่งจะเชื่อดวงชะตาเสียแล้วกระมัง..เพราะระยะหลังมานี้ ผมไม่เคยอับจน..ในระหว่างทางที่เดิน จะมีผู้ใหญ่เกื้อหนุนเป็นต้นทุนแห่งความดีเสมอ ทำให้ผมมีโอกาสได้ไปต่อ..ไม่มีวันท้ออย่างแน่นอน..
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
“ทำหน้าที่..เพื่อหน้าที่”ผมคิดว่าตรงนี้ละคือ”จุดประสงค์หลักของท่าน ผอ.” ด้วยความปรารถดีเสมอครับ
มาทักทายจ้ะท่าน ผอ. ยินดีกับความสำเร็จหลาย ๆ อย่างในชีวิตของท่านนะจ๊ะ