พูดอย่างไรจึงจะชนะใจคนฟัง ?


พูดอย่างไรจึงจะชนะใจคนฟัง ?

พูดอย่างไรจึงจะชนะใจคนฟัง ?

ดร.ถวิล อรัญเวศ 

รอง ผอ.สพป.นครราชสีมา เขต 4

การพูดจากปราศรัยกับผู้คน มีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์เป็นอันมาก ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใด จะประกอบกิจการงานใดหรือจะคบหาสมาคมกับใคร ผู้ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจการงาน การคบหาสมาคมกับผู้อื่นตลอดจนการทำประโยชน์แก่สังคม และประเทศชาติได้นั้น ล้วนแต่เป็นบุคคลผู้ที่มีวาทศิลป์หรือประสิทธิภาพในการพูดทั้งสิ้น

การพูดมีความสำคัญต่อตนเอง เพราะถ้าผู้พูดมีศิลปะในการพูดก็จะเป็นคุณแก่ตนเอง ส่วนในด้านสังคมนั้น เนื่องจากเราต้องคบหาสมาคมและพึ่งพาอาศัยกัน การที่จะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้นั้น จำเป็นต้องเป็นคนที่ “พูดดี” “พูดเป็น” คือพูดไพเราะ น่าฟัง ดังนั้น การพูดของคนเราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคำนึงถึงกาลเทศะ

การพูดจะสัมฤทธิผลหรือไม่เพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับการที่ผู้พูดได้วิเคราะห์องค์ประกอบสำคัญในการพูดให้ถ่องแท้เสียก่อน มีการเตรียมพร้อมก่อนที่จะพูด ฉะนั้นการพูดให้เหมาะสมกับบุคคล ต้องวิเคราะห์ในเรื่อง วัย เพศ ระดับการศึกษา อาชีพ ความสนใจพิเศษ การพูดให้เหมาะกับกาลเทศะ ควรพิจารณาว่าจะพูดในโอกาสใด

การพูดเป็นทางการมากน้อยแค่ไหน การพูดให้ผู้อื่นเข้าใจตรงตามความประสงค์ ควรใช้ภาษาบ่งบอกความต้องการหรือความมุ่งหมายให้ชัดเจน หลีกเลี่ยงการตีความหลายแง่หลายมุม เพราะการพูดแสดงความคิดเห็นผู้พูดต้องใช้ทั้งความรู้ ความคิด เหตุผลหรือหลักการต่าง ๆ หลายอย่างประกอบกัน

ถ้อยคำเป็นภาษิตข้อคิด ที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการพูด เช่น "ปากเป็นเอก เลขเป็นโท หนังสือเป็นตรี ชั่วดีเป็นตรา" "พูดดีเป็นศรีแก่ตัว พูดชั่วอัปราชัย" เป็นต้น

บทกลอนที่สะท้อนให้เห็นความสำคัญของการพูด

สุนทรภู่ กวีเอกของไทยของโลก ได้กล่าวถึงความสำคัญของการพูดไว้ในนิราศภูเขาทองตอนหนึ่งว่า

"ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์ มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต

แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา"

นอกจากนี้แล้ว ยังมีบทกลอนต่าง ๆ ซึ่งมีผู้ประพันธ์กล่าวถึงความสำคัญของการพูดไว้ ดังจะขอยกมาเป็นตัวอย่าง ดังนี้

จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว กล่าวให้คิด

รู้ถูกผิด ไม่ผิดพลาด และหม่นหมอง

พูดกลับกลอก หลอกล่อ ส่อถึงคน

ปากพาจน คนคด หมดศรัทธา

หากจะพูด พึงหยุดคิด สักนิดหนึ่ง

คนฟังซึ้ง ทึ่งเรา พูดเข้าท่า

ปากเป็นศรี มีชัย ได้ราคา

สร้างศรัทธา พาที ดีกว่าใคร

รู้ขอโทษ โปรดเอ่ย เผยขึ้นก่อน

รู้โอนอ่อน ผ่อนรับ กลับยิ่งใหญ่

รู้ว่าผิด คิดต่อ ขออภัย

รู้จักให้ ได้มิตร จิตเมตตา

ปากเป็นเอก เลขเป็นโท โบราณขัย

เผยความนัย ให้รู้ ผู้ปราดเปรื่อง

หมั่นศึกษา หาไว้ ให้รุ่งเรือง

รู้ประเทือง เนืองนิตย์ คิดการไกล

มีคารม คมคาย หลายแต้มต่อ

พูดด่าทอ ล่อแม่ แย่กันใหญ่

พูดมาคำ ซ้ำด่า น่าขับไป

คนดีไซร้ ไม่ทำ จำไว้นา

ดังนั้น การพูด จึงเป็นสิ่งที่ต้องฝึกและเรียนรู้ เมื่อเรามีความจำเป็นที่จะต้องพูดคุยกับใคร ไม่ว่ากับคนในครอบครัว เพื่อนที่ทำงาน การออกงานสังคม การพูดในที่ชุมชน คนที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต ในหน้าที่การงาน จึงควรศึกษา เรียนรู้ เกี่ยวกับการพูด เพื่อที่จะนำไปปรับใช้ได้อย่างเหมาะสมกับการดำรงชีวิตและการประกอบการงานต่อไป

พูดอย่างไรจึงจะชนะใจคนฟัง

วิธีพูดให้ชนะใจคน มีนักปาฐกถา นักพูด หลายคนที่ควรนำมาศึกษาทั้งฝ่ายฆราวาสและบรรพชิต เช่น ฝ่ายฆราวาส อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ , อับราฮัม ลินคอล์ค , มุสโสลินี, ธีโอโดร์ โรสเวลต์ , จอห์น เอฟ.เคเนดี (JFK), เซอร์วินสตัน เชอร์ชิลส์ , สตีฟ จอบส์ นายควง อภัยวงศ์ , จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และสมัคร สุนทรเวช ฯลฯ ฝ่ายบรรพชิต พุทธทาส ภิกขุ พระพะยอม พระมหาสมขาย ฐานวุฒฺโฑ พระมหาสมปอง ว.วชิรเมธี ฯลฯ บุคคลเหล่านี้เป็นตัวอย่างได้อย่างดีในเรื่องของการพูดชนะใจคน เพราะบุคคลเหล่านี้ สามารถพูดเอาชนะใจคนฟัง อยากติดตามฟัง อย่างไรก็ตาม บุคคลที่จะสามารถพูดเอาชนะใจคนได้ บุคคลนั้นต้องมีองค์ประกอบอยู่หลายอย่าง เช่น

1. มีความเชื่อมั่นในตนเอง หลายคนอาจมีความรู้สูง มีพรสวรรค์ มีฐานะชาติกำเนิดที่ดี แต่บุคคลนั้นหากขาดซึ่งความเชื่อมั่น เขาจะไม่สามารถพูดเอาชนะใจใครได้เลย เพราะการที่จะให้ผู้ฟังเชื่อมั่นในตัวเรา ตัวเราจะต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเองเสียก่อน ซึ่งการสร้างความเชื่อมั่นในตนเองในการพูด เราคงต้องอาศัยเรื่องของการเตรียมตัว (เตรียมเนื้อหา เตรียมการพูด เตรียมตัวอย่าง เตรียมข้อมูลหลักฐาน มีการวิเคราะห์ผู้ฟัง มีการฝึกซ้อม ฝึกฝนการพูดอยู่เสมอ มีการอ่าน การฟัง ศึกษาหาความรู้อยู่เป็นนิจ )

2. มีจินตนาการ บุคคลที่จะสามารถพูดให้ชนะใจคนได้ บุคคลนั้นมักจะต้องมีจินตนาการ สมัยมุสโสลินี มีชีวิตอยู่ มีคนเคยเห็นมุสโสลินีเอามือเกาะหน้าต่าง แล้วมองท้องฟ้าสีครามอยู่เป็นเวลานานๆ หรือ สมัยอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ยังมีชีวิตอยู่ มีคนเคยเห็นเขาชอบเหม่อมองทิวทัศน์ธรรมชาติ เป็นเวลานานๆ ไม่ใช่เพราะอะไร แต่เขากำลังสร้างจินตนาการในทางการพูดของเขาต่อคนภายในประเทศ จินตนาการจึงเป็นส่วนสำคัญ ไม่ว่าท่านจะเป็นนักบรรยาย นักพูด วิทยากร นักโต้วาที นักอบรมสัมมนา นักจัดรายการ ฯลฯ หากขาดซึ่งจินตนาการเสียแล้ว ท่านมักไปไม่ได้ไกล

3. มีความตั้งใจอย่างแรงกล้า บุคคลที่อยากจะเป็นนักพูดที่ชนะใจคน บุคคลนั้นจะต้องมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าเสียก่อน เขาจะต้องมีความทะเยอทะยาน เขาจะต้องมีความมุ่งมั่น จิตใจจะต้องจดจ่ออยู่กับการพูด อีกทั้งเขาได้เห็นความสำคัญของการพูดของเขาในแต่ละครั้ง เขาจึงพัฒนาอย่างไม่มีวันหยุดยั้ง

4. มีศิลปะ หรือ วาทศิลป์ อันที่จริงแล้ว การพูดเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ แต่บุคคลที่พูดเก่งมักจะมีการใช้ศิลปะที่เหนือชั้นกว่าบุคคลอื่นๆ ศาสตร์ท่านสามารถหาอ่านได้จาก ตำรา หนังสือ ฟังเทป ฟังวิชาการต่างๆ หรือเข้าไปอบรมเพื่อเอาความรู้ แต่ศิลปะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่างกันระหว่างผู้ที่เป็นนักพูดในแต่ละบุคคล

5. มีความเป็นอัจฉริยะ อัจฉริยะในที่นี้หมายถึง บุคคลนั้นจะต้องมีความกระหายอยากรู้เรื่องราวต่างๆที่สามารถนำไปพูดได้อย่างแรงกล้า อีกทั้งต้องทำการศึกษาเรื่องนั้นๆอย่างแท้จริง และมีคุณลักษณะความทรงจำที่สูง มีสมาธิสูง มีความกล้าหาญในการแสดงการพูด

6. มีการฝึกฝน ฝึกฝนและฝึกฝน บุคคลนั้นจะต้องมีการฝึกฝนตนเองอยู่เป็นนิจ พยายามหาเวทีในการแสดงการพูดให้แก่ตนเอง หากไม่มีเวที ก็ต้องมีการฝึกฝนด้วยตนเอง บุคคลที่เป็นนักพูดชนะใจระดับโลก มีการฝึกฝนการพูดด้วยตนเองตามชายหาดทะเลบ้าง ฝึกฝนการพูดด้วยตนเองระหว่างเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ บ้าง

ดังนั้น การที่จะพูดเอาชนะใจคนฟังได้ จึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเหลือวิสัยคนเราได้ ต้องหมั่นฝึกฝนอยู่เสมอเพื่อจะเอาชนะใจคนฟัง ปัจจัยข้างต้นจึงเป็นองค์ประกอบหนึ่ง ของการพูดให้ชนะใจคน ซึ่งบุคคลใดต้องการพูดให้ชนะใจจึงต้องนำหลักการข้างต้นไปใช้และนำไปฝึกปฏิบัติ ก็จะทำให้ท่านประสบความสำเร็จในการเป็นนักพูดที่ชนะใจคนได้

-------------

แหล่งข้อมูล

https://goo.gl/yH8iAp

https://goo.gl/ygbxXn

www.drsuthichai.com

https://www.gotoknow.org/posts/539562

หมายเลขบันทึก: 657277เขียนเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2018 23:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2018 23:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท