สมการความพอเพียง (ตีความจากการฟังคลิป ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร)


ขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับ Youtube ที่ทำให้การเรียนรู้จากผู้อื่นเป็นเรื่องง่ายยิ่งนัก อินเตอร์เน็ตทำให้เราเข้าสู่ยุค "ครูไม่รู้จักศิษย์" เรียบร้อยแล้ว ... เข้าใจว่า ขณะนี้มีศิษย์แบบ "ครูพักลักจำ" แบบผมนี่...นับไม่ถ้วนแล้ว

จากการศึกษาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ปศพพ.) อย่างต่อเนื่อง ผมสรุปกับตนเองว่า บุคคลที่เข้าใจคำสอนของในหลวงราชกาลที่ ๙ มากที่สุดในโลกคนหนึ่ง คือ อ.ยักษ์ ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร เหมาะสมอย่างยิ่งแล้ว ที่ท่านได้รับเลือกให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ อยู่ในขณะนี้  ... ผมตีความคำสอนของในหลวง ร.๙ ตามความเข้าใจ อ.ยักษ์ ด้วย "สมการความพอเพียง" ดังภาพ

  ที่มาของสมการความพอเพียง

  • ท่าน อ.ยักษ์ ไม่ได้นำเสนอสมการนี้  ผมเป็นคนตีความจากการฟังคลิปอธิบายต่างๆ ที่ท่านสอนในยูทูปเอง (ดูบันทึกแนะนำคลิปที่ผมดูที่นี่) ... ดังนั้นหากท่านเห็นว่าไม่ถูกอย่างไร ให้เข้าใจว่าท่านไม่ได้บอกคำว่า "สมการความพอเพียง" นี้นะครับ
  • อ.ยักษ์ ท่านจะพูดบ่อยๆ (ย้ำว่าพูดในคลิป) ว่า การอธิบายศาสตร์พระราชาหรือหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้วย "๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข" นั้นไม่สามารถจะสื่อสารศาสตร์พระราชาหรือปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้  (การใช้ไดอะแกรม ๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข ๔ มิติ ที่เห็นกันทั่วไป เป็นความพยายามของนักวิชาการที่ต้องการสื่อสารถ่ายทอด) ให้หยุดเสียที...  ผมเข้าใจว่า อธิบายแบบไหนก็ไม่ผิด หากเข้าใจและระเบิดออกมาจากภายในใจจริงๆ 
  • คำถามคือ ถ้าทดลองสังเคราะห์คำสอนตามแนวทาง อ.ยักษ์ ให้ออกมาเป็นสูตร (เหมือน ๓-๒-๔ คือ สามห่วง สองเงื่อนไข สี่มิติ) จะได้ "สมการความพอเพียง" เป็นอย่างไร 
สมการความพอเพียง
  • อ.ยักษ์ เน้นว่า 
    • ความพอเพียง นั้นเป็น "ผล" ไม่ใช่ "เหตุ" 
    • ความพอเพียง คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ซึ่งจะทำให้เกิดผลที่สุดคือความสมดุลและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง หรือก็คือ ความยั่งยืน
    • ดังนั้น ๓ ห่วง ก็คือ "ผล" ไม่ใช่ "เหตุ" การเอาผลมาอธิบาย จึงยากที่จะเข้าใจจนสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง  และสิ่งที่พูดกันนั้นใครๆ ก็พูดได้  เปรียบเสมือนคนไม่ดี (หรือพระไม่ดี) เอาธรรมะหรือความดีของพระพุทธเจ้ามาสอน 
    • การสอนศาสตร์พระราชาหรือ ปศพพ. ต้องเน้นไปที่ "เหตุ" เหตุที่นำมาสู่ "ผล"  ต้องสอนด้วยการลงมือปฏิบัติด้วยตนเองเสียก่อน สอนด้วยการเป็นแบบอย่าง 
    • "เหตุ" ของความพอเพียงคือ "ความรู้" และ "ความดี" (ความดีก็คือมีคุณธรรม) ดังนั้น จึงสามารถเขียนเป็นสมการความพอเพียงเป็น ความรู้ + ความดี = ความพอเพียง 
  • วิธีอธิบายสมการพอเพียง 
    • ความรู้  ... จะทำอะไรต้องมีความรู้ ต้องใช้ความรู้ เริ่มจาก
      • รอบรู้ คือ รู้จักตนเอง รูู้ศักยภาพของตนเอง รู้จักประมาณในตนเอง รู้ลึกรู้ละเอียดในสิ่งที่จะทำ รู้เช่น จะเลี้ยงกุ้งต้องรู้เรื่องกุ้ง รู้วงจรชีวิตกุ้ง รู้วิธีการเลี้ยงกุ้ง ฯลฯ รู้รอบและรู้กว้างขวางในสิ่งที่เกี่ยวข้องครอบคลุม ๔ มิติ
      • รอบคอบ เมื่อจะลงมือทำอะไร ต้องรอบคอบ รอบคอบในการใช้ความรู้ คิดพิจารณาถึงเหตุผล มีเหตุมีผลในการลงมือทำ 
      • ระมัดระวัง คือ จะต้องระมัดระวังในการลงมือทำ วางแผนป้องกันเหตุหรือความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น  อย่างรอบด้านครอบคลุม ๔ มิติ
    • ความดี ... ต้องเป็นผู้มีคุณธรรม 
      • คุณธรรมกำกับใจคือ ความซื่อสัตย์ สุจริต ก่อนจะทำอะไรต้องคิดพิจารณาเรื่องนี้ก่อน
      • คุณธรรมที่สำคัญที่สุดคือ "ความเพียร" ก็คือ การลงมือทำด้วยตนเอง พึ่งตนเอง  และมีความขยันและอดทน
      • เมื่อสามารถพึ่งตนเองได้แล้ว ก็ให้เอื้อเฟื้อ แบ่งปัน ผู้อื่น 
วันนี้พอแค่นี้ครับ ... ต่อไปนี้ ผมจะใช้สมการแห่งความพอเพียงนี้ เป็นประตูสู่คำสอนคำอธิบายต่างๆ ของ อ.ยักษ์ ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร  ท่านใดเห็นว่าไม่ถูก ก็โปรดชี้แนะด้วยครับ 

หมายเลขบันทึก: 656184เขียนเมื่อ 23 ตุลาคม 2018 00:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม 2018 02:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ผมรู้สึกชื่นชมอาจารย์จริงๆ สุดหัวใจเลย..ขอบคุณที่ทำให้ได้ความรู้มากมาย ขออนุญาตนำไปเผยแพร่ต่อนะครับ

ขอคุณอาจารย์มากๆ ครับ สำหรับบทความดีๆ แต่จะดีมากขึ้นควรระบุถึงระดับความรู้ และคุณธรรมนั้นว่าระดับใดจึงจะนำความสู่ความพอเพียงได้ เพราะไม่เช่นั้นทุกคนอาจทึกทักเอาว่าเป็นคนพอเพียงได้ทั้งนั้น

ใช่ๆ ใช่เลยครับ ท่าน อ.ยักษ์ ท่านจะบอกไว้แทบจะทุกคลิปที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า แต่ละคน แต่ละหัวโขน แต่ละอาชีพ จะมี “คุณธรรม” ประจำอยู่ ซึ่ง ความรอบรู้นั้นต้องเชื่อมโยงว่าต้องรู้ถึงหลักคุณธรรมนั้นด้วย เช่น คุณธรรมของพระมหากษัตริย์ คือ ทศพิธราชธรรม คุณธรรมของคนคือศีล ฯลฯ คุณธรรมของสามี ภรรยา ลูก ฯลฯ มีกำหนดไว้แล้วทั้งหมด…. พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ละเอียดยิ่งนัก แม้จะเป็นเพียง ๑ กำมือเดียว ….

ขอบคุณอาจารย์มากๆ ครับ สำหรับบทความดีๆ แต่จะดีมากขึ้นควรระบุถึงระดับความรู้ และคุณธรรมนั้นว่าระดับใดจึงจะนำสู่ความพอเพียงได้ ไม่เช่นั้นแล้วทุกคนอาจทึกทักเอาว่าเป็นคนพอเพียงได้ทั้งนั้น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท