สืบเนื่องจากบันทึกก่อนหน้านี้ "ตักบาตร-บริจาคโลหิต : ทำดีเพื่อพ่อ ทำดีเพื่อแผ่นดิน" ผมได้เขียนถึงกิจกรรมในภาคเช้า 2 กิจกรรม คือการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 9 รูปและการบริจาคโลหิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ในวันที่ 13 ตุลาคม 2561 เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตของพระองค์ท่าน -
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง นั่นคือ (1) ลงตีตีเส้นจราจรบริเวณอาคารพัฒนานิสิต (2) ทำความสะอาดศาลาอาเซียน (3) จัดทำม้านั่งรอรถเมล์ (รถราง) ภายในมหาวิทยาลัย
โดยหลักๆ แล้วกิจกรรมเหล่านี้นิสิตก็คิดและออกแบบกิจกรรมกันเอง เป็นวิถีกิจกรรมนอกหลักสูตรในแบบฉบับ “โดยนิสิตเพื่อนิสิตและสังคม) หรือในอีกมิติอันเป็นวาระนี้ก็คือ “ทำดีเพื่อพ่อ ทำดีเพื่อแผ่นดิน” นั่นเอง
กรณีดังกล่าว เดิมนิสิตประสงค์จัดกิจกรรม 2 กิจกรรม คือ การตีเส้นจราจรและการทำม้านั่ง ผมได้เสนอแนะให้นิสิตทำความสะอาดเช็ดถูล้างพื้นศาลาอาเซียน ด้วยเหตุผลสู่การรองรับการเป็นที่นั่งในการแข่งขันกีฬาเปตอง เนื่องในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยฯ (รอบคัดเลือก) โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
กิจกรรมครั้งนี้ก็เหมือนกิจกรรมอื่นๆ กล่าวคือ ผมยังคง “เปิดพื้นที่ทางความคิด” ให้กับนิสิตอย่างเต็มที่ ตั้งแต่การเลือกกิจกรรม การวางแผนที่ว่าด้วยบริหารงาน บริหารคน การให้จับจ่ายใช้สอยงบประมาณด้วยตนเอง การประชาสัมพันธ์กิจกรรมด้วยกระบวนการ หรือวิธีการที่นิสิตถนัด
สิ่งเหล่านี้ไม่มีอะไรพิเศษมากไปกว่าต้องการสร้างการเรียนรู้ว่าด้วยกิจกรรมนิสิตให้กับพวกเขาโดยตรง รวมถึงการส่งเสริมเกื้อหนุนให้เขาเรียนรู้ที่จะเป็น “นักเรียนรู้” หรือ “นักออกแบบการเรียนรู้” ด้วยตนเอง เพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงสร้างสรรค์ว่าด้วย “ทักษะ” ต่างๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะเกิดขึ้นได้
กระนั้น พองานผ่านไปสักระยะ ผมก็ให้นิสิตส่งแบบของม้านั่งและพื้นที่ของการลงสีจราจรมาให้ดู ซึ่งเดิมทีเขาไม่ได้จัดทำแบบไว้
กรณีเช่นนี้ ผมอธิบายให้เขาฟังว่า “... มันสำคัญมาก ผมอยากให้มีแบบร่างมาให้ดู เพื่อแลกเปลี่ยน หรือขออนุญาต หรือขอคำแนะนำต่อผู้รู้ และผู้บริหาร ...”
ครับ – ผมไม่เพียงสื่อสารเรื่องแบบที่จะต้องทำอย่างเดียวเท่านั้น แต่ผมกำลังสอนในเรื่องของการทำงานอย่างมีระบบ สอนให้เห็นโครงสร้างการทำงานที่มีแบบแผน มีกระบวนการ ขั้นตอน มิใช่จะทำอะไรก็เป็นเสรีภาพไปเสียทุกเรื่อง ทุกสิ่งอย่างต้องมีกติกาของมันเอง ต้องมีการขออนุมัติจากผู้ที่มีอำนาจต่อสิ่งนั้นๆ
แน่นอนครับ – ผมสื่อสารในประเด็นนี้อย่างชัดแจ้ง เพราะวันหนึ่งเมื่อจบออกไป เขาจะได้ตระหนักถึงในแนวทางการทำงาน หรือวัฒนธรรมองค์กรไปในตัว ซึ่งในท้ายที่สุด ผมก็พานิสิตที่เป็นแกนนำเข้าพบผู้บริหาร โดยนำแบบร่างที่ว่านั้นเข้าไปหารือ และขออนุญาตที่จะขับเคลื่อนกิจกรรมในพื้นที่ตรงนั้น !
นอกจากนั้นในวันที่จัดเตรียมพื้นที่ ผมก็พูดคุยกับแกนนำว่าต้องทำอย่างไร แต่ที่แน่ๆ ผมแนะนำประมาณว่า “...ต้องล้างพื้นหรือไม่ ต้องขูดสีเก่าออกก่อนทาสีใหม่หรือไม่ อุปกรณ์มีเพียงพอหรือยัง จะใช้คนหลักกี่คน ขนาดความกว้างความยาวของเส้นอันเป็นช่องจอดรถจักรยานยนต์ขนาดเท่าไหร่ ...”
ครับ – ก็ยังเน้นที่การถามทักเพื่อให้เกิดประเด็นการเรียนรู้มากกว่าการให้คำตอบ หรือสั่งการ –
เช่นเดียวกับเรื่องการทำความสะอาดศาลาอาเซียนก็เช่นเดียวกัน ผมก็ตั้งคำถามการเรียนรู้ในทำนองเดียวกัน เพียงแต่เรื่องศาลาอาเซียนผมลงลึกไปแบบไม่ให้เสียเวลาคิด ประมาณว่า “ ...อย่าคิดว่าล้างเช็ดกวาดถูไปก็เท่านั้น เพราะสุดท้ายลมแล้งก็หอบฝุ่นมาอยู่ดี หรืออย่าคิดว่าทิ้งไว้เป็นภาระให้งานกีฬา มาทำเองจะดีกว่า ...”
หรือ “... ไม่มีถังน้ำก็อย่าซื้อ ให้เพื่อนถือถังน้ำ หรือกะละมังมาจากหอพัก ไม่มีผ้าเช็ดก็อย่าซื้อให้เอาที่มีอยู่มาใช้ ประหยัดได้ให้ประหยัด เพราะถ้าทำเหมือนที่ผมบอก มันคือการสร้างการมีส่วนร่วม เหมือนออกจากบ้านห่อข้าว แบกจอบแบกเสียมไปช่วยงานเพื่อนบ้านนั่นแหละ...”
และที่สำคัญ คือ “... อย่าทำงานเหมือนปักป้ายถ่ายรูป เรื่องนี้ต้องดูกันยาวๆ รณรงค์กันยาวๆ เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมของคนร่วมกัน ซึ่งอาจต้องทำโครงการขึ้นมาหนุนเสริมอีกรอบอย่างจริงจัง...”
นี่คืออีกหนึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันรำลึกการจากสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9 และการทำดีเพื่อพ่อ ทำดีเพื่อแผ่นดินสู่แผ่นดินรัชกาลที่ 10 ซึ่งไม่เพียงแค่การถวายเป็นพระราชกุศลเท่านั้น แต่ยอมรับว่าได้ออกแบบเพื่อการเรียนรู้ในเรื่องจิตอาสา หรือการทำงานอาสาสมัครเล็กๆ ไปในตัวด้วยเช่นกัน
และต้องขอบคุณศูนย์ประสานงานเครือข่ายนิสิตจิตอาสาทำดีเพื่อสังคม (ทำดีเพื่อพ่อ ทำดีเพื่อสังคม) และเครือข่ายนิสิต ๙ต่อ Before After ที่มุ่งมั่นและไม่สั่นไหวกับแนวทางที่ตนเองคิดและลงมือทำ
รวมถึงเครือข่ายอื่นๆ และนิสิตทั่วไป หรือกระทั่งผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ที่ไม่ดูดายและเปิดพื้นที่ให้นิสิตได้เรียนรู้ที่จะทำความดีจากเรื่องง่ายๆ ใกล้ตัวในแบบที่นิสิตสนใจ และถนัด –
หมายเหตุ
ภาพ : เครือข่ายนิสิตจิตอาสาทำดีเพื่อสังคม (ทำดีเพื่อพ่อ ทำดีเพื่อสังคม)/เครือข่ายนิสิต ๙ต่อ Before After/กองประชาสัมพันธ์และกิจการต่างประเทศ
เขียน : จันทร์ที่ 22 ตุลาคม 2561
-สวัสดีครับอาจารย์-“อย่าทำงานแบบปักป้ายถ่ายรูป”-จงทำให้เต็มที่ แล้วเชื่อว่าป้ายจะมาปักเองครับ…-จะเป็นป้ายอะไรก็ไม่เท่ากับการได้ติดป้ายในใจของผู้ลงมือปฏิบัตินะครับอาจารย์-เห็นกิจกรรมของน้องๆ แล้วก็ชื่นใจครับ-จิตอาสาทำในสิ่งใกล้ๆ ตัวนั้น ทำได้ง่ายและทำได้ตลอดนะครับ-อาสาทำดี จงทำดีต่อไป-ขอบคุณครับ
ขอบพระคุณครับ อ.เพชรน้ำหนึ่ง
ขอบพระคุณกับวาทกรรม “ติดป้ายในใจของผู้ลงมือปฏิบัติ”
ชอบมากๆ ครับ