วันก่อนผมวาดภาพและวิพากษ์เกี่ยวกับ "๙ มาตรฐานวิชาชีพครู" (อ่านได้ที่นี่) วันนี้หลังจากได้เรียน "๑๑ มาตรฐานวิชาชีพครู" จึงได้รู้ว่า มีการปรับเปลี่ยนแบบ "All News" คือเกือบจะทั้งหมดเลยก็ว่าได้ สิ่งที่ผมได้วิพากษ์ไว้ ได้ปรับแก้ไปเกือบหมดสิ้นแล้ว จึงมาเขียนบันทึกชื่นชมไว้ให้ท่านได้ขยายกระจายบอกต่อกันไปครับ (อ้างอิงข้อมูลของคุรุสภาที่นี่ครับ)
จุดที่ผมเห็นว่าควรชื่นชม
- สลับเอา "ความเป็นครู" จากแต่ก่อนที่อยู่ข้อสุดท้าย (ข้อ ๙) เอาไปไว้ข้อที่ ๑ ผมคิดว่า เหตุผลที่กำหนดไว้ในข้อที่ ๙ กับเหตุผลที่ย้ายมาไว้ในข้อที่ ๑ คือเหตุผลเดียวกัน
- ผมเข้าใจว่า การเรียงหัวข้อมาตรฐานทั้ง ๑๑ หัวข้อ เป็นการเรียงลำดับตามทักษะกระบวนการพัฒนาครู หรือรวมทั้งเป็นลำดับที่ครูต้องพัฒนาตนเอง โดยกำกับสำทับไว้หลังสุดว่า ก่อนจะมาเป็นครู สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ความรู้หรือทักษะ แต่เป็น ๑๑. คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ นั่นเอง
- จากเดิมที่กำหนดไว้ชัดเจนเน้น "รูปแบบ" ปรับเปลี่ยนคราวนี้เหมือนการ "ยกเครื่อง" เขียนไว้ในลักษณะ "หลักการ"
- เปลี่ยนจากเน้นการสอน "รูปแบบ" ที่เน้นไปที่การจัดการเรียนการสอน ไปเน้น "การเรียนรู้" ของผู้เรียนแทน หลายจุดเปลี่ยนไปใช้คำว่า "พัฒนาการเรียนรู้"
- มุ่งตรงไปสู่เป้าหมายสูงสุดของการพัฒนาคนพัฒนาประเทศคือ "ความยั่งยืน" โดยพุ่งตรงไปที่ "ปรัชญาการศึกษา" ... ใช่เลยครับ ทุกคนต้องหันมาศึกษาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยปริยาย
- แยกเอา "เทคโนโลยีทางการศึกษา" ออกมาจาก "ภาษา" แล้วนำ "วัฒนธรรม" ไปไว้แทน เป็น "ภาษาและวัฒนธรรม" ซึ่งใช่เลย ... ผมนึกถึงคนกรุงเทพฯ ที่ฟังหมอลำนพดล ดวงพร ไม่ขำ ทั้งๆ ที่คนอีสานบ้านผม "ขำ ขี้แตก ขี้แตน" ... เพราะภาษาคือส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม นั่นเอง
ลองเอาภาพเหล่านี้ไปเทียบกับภาพที่ผมเขียนไว้ในบันทึก "๙ มาตรฐานวิชาชีพครู" ดูครับ ท่านจะเห็นว่า "การยกเครื่องปฏิรูป" เริ่มแล้ว ด้วยการปล็ดล็อคทางความคิด โดยการเขียนเพียงหลักการกว้างๆ และแนวทางการมุ่งไปเท่านั้น
อย่างไรก็ดี หากเปรียบเทียบกับ สมรรถนะความเป็นครูของอาเซียน (SEAMEO) อาจจะยังขาดเรื่อง ครูกับหุ้นส่วนชุมชน "Engagement Community" ซึ่งเอาเข้าจริง เรื่องนี้นับเป็นเรื่องสำคัญยิ่งยวดทีเดียว