ฉันทำเพื่อใคร


ถ้ามีใครถ้าถามว่าปัจจุบันฉันทำอาชีพอะไร ฉันก็ตอบได้โดยไม่ต้องคิดเลยว่าฉันเป็น "ครู" แต่จะมีใครรู้ไหมว่ากว่าที่ฉันจะมาถึงตรงนี้ กว่าที่ฉันจะมาประกอบอาชีพครู รับผิดชอบตั้งมากมายทั้งๆที่อายุของฉันก็ไม่มากและที่สำคัญคือฉันไม่เคยมีประสบการณ์ในการเป็นครูเลยสักนิดเดียว มันไม่ง่ายเลยกว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ สิ่งที่สำคัญสำหรับฉันนั่นคือ "แรงบันดาลใจ"

ถ้าให้พูดถึง"แรงบันดาล" แน่นอนทุกคนย่อมมีแรงบันดาลใจที่ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ส่วนหนึ่งคงมาจากประสบการณ์ที่ทุกๆคนต่างกันด้วย ฉันเองก็เหมือนกัน ฉันว่าทุกๆอย่างรอบตัวเป็นแรงบันดาลใจให้ฉันได้หมด แม้กระทั่งความคิด ฉันก็มีแรงบันดาลใจของฉันที่ทำให้ฉันอดทน เข้มแข็ง และฮึดสู้มาตลอด แรงบันดาลใจของฉันนั่นคือ "ครอบครัว" สำหรับฉันครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของฉัน วันไหนที่ฉันท้อมากๆ แค่นึกถึงหน้าพ่อแม่ พี่ชาย เท่านั้นแหละ ฉันมีกำลังใจสู้ต่อทันที ตั้งแต่เด็กฉันพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าฉันเป็นคนที่ขี้อายมากๆ เวลาจะไปฟ้อนหรือเต้นแสดงที่เวทีไหนก็ตาม ฉันไม่เคยมีความมั่นใจในตัวเองเลยสักครั้ง ก็จะมีแม่นี่แหละที่คอยให้กำลังใจที่คอยบอกว่าฉันทำได้ พอการแสดงของฉันจบลง แม่ก็จะบอกกับฉันเสมอว่า เห็นมั้ย ลูกทำได้ทุกครั้งเลยแล้วทำได้ดีด้วยนะ เท่านั้นแหละเหมือนฉันได้รับพลังแห่งความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม จนปัจจุบันไม่ว่าฉันจะทำอะไรฉันมักจะโทรไปขอพร ขอกำลังใจจากท่านทุกครั้ง มันส่งผลต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน มีครั้งหนึ่งตอนอยู่ปี4ที่ฉันเรียนมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในเทอมสุดท้ายที่ฉันต้องนำเสนองานวิจัยให้กับอาจารย์ ซึ่งมันมีความสำคัญในการเรียนจบเป็นอย่างมาก ฉันไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ แต่ฉันได้เตรียมความพร้อมในการนำเสนอให้อาจารย์ฟังมาเป็นอย่างดี สุดท้ายพอนำเสนอจบ ผลเป็นที่น่าพอใจคืออาจารย์บอกว่าพัฒนาการการนำเสนอของฉันมีความก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัด และนำเสนอได้เข้าใจง่าย มันทำให้ฉันมีความเชื่อมั่นในตัวเอง ว่าคนที่ขี้อายมากๆก็สามารถพัฒนาตัวเองได้ ความกล้าแสดงออกของฉันมาจากการที่แม่ให้กำลังใจมาล้วนๆ 

แรงบันดาลใจของฉันอีกอย่างนั่นคือ "การอ่าน" โดยส่วนตัวฉันเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือเป็นอย่างมาก ตอนมัธยมอ่านหนังสือในห้องสมุดประชาชนเยอะมาก ไปยืมหนังสือตอนปิดเทอมจนสนิทกับบรรณารักษ์ ทุกวันนี้ไม่มีเวลาไปห้องสมุดประชาชนเลย แต่ก็ได้อ่านตาม ทวิตเตอร์ เฟสบุ๊ค พันทิป และอื่นๆอีกมากมาย สำหรับฉัน การอ่านบทความหรือข้อความสั้นๆบางอย่างที่ทำให้ฉันฉุกคิดขึ้นได้ มันก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับฉันเหมือนกัน

ครอบครัวของฉันเป็นครอบครัว"เกษตรกร" สถานที่ทำงานของพ่อแม่ฉันคือสวน เท่าที่ฉันจำความได้ก็คือได้อยู่กับสวนมาตั้งแต่เด็กๆ ทุกเสาร์อาทิตย์ก็ต้องไปเล่นที่สวนกับพี่ชาย อยากเล่นน้ำก็ได้เล่นน้ำในคันนา เล่นในน้ำปิงมาตลอด พ่อเป็นคนที่พาฉันเล่น ตอนนั้นคือมีความสุขที่สุดแล้วกับการได้เล่นน้ำ ฉันช่วยพ่อแม่ทำสวนตั้งแต่เด็ก ปลูกทุกอย่างเป็น ไม่อยากให้พ่อแม่เหนื่อย อยากช่วยท่านทุกครั้ง และฉันไม่เคยมองว่ามันลำบากอะไรเลย ได้เห็นนก เห็นธรรมชาติ ได้ลงมือทำ เป็นความสุขที่สุขจริงๆ การที่ฉันคลุกคลีกกับ"เกษตร"มาตั้งแต่เด็ก เห็นว่าพ่อแม่เหนื่อยแค่ไหน ทำให้ตอนเรียนฉันตั้งใจเรียน ไม่เกเร ไม่เคยทำให้พ่อแม่เสียใจ ไม่ทำให้ท่านผิดหวังให้ตัวฉัน เพราะฉันรู้ว่ากว่าที่จะได้มาเรียน เงินทุกบาทที่อยู่ในกระเป๋าได้มาจากพ่อแม่นั้น พ่อแม่ต้องเสียเหงื่อไปขนาดไหน 

ฉันเรียนจบระดับปริญาตรีในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ตอนนั้นไม่มีงานทำ ไปสอบอยู่3ที่ไม่ติดสักที่ ว่างงานมา5เดือน ขอตังพ่อแม่ใช้ ตอนนั้นรู้สึกแย่ที่เรียนจบแล้วยังหาตังเองไม่ได้เลย จนมีโอกาสได้มาเป็นครูใกล้ๆบ้านเพราะโรงเรียนขาดครูคณิตศาสตร์ เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก วันแรกที่ฉันได้มากทำงาน ตอนนั้นฉันยังไม่รู้เลยว่าตัวเองชอบอะไรหรือถนัดอะไร สำหรับฉันมันแย่นะที่เรายังค้นหาตัวเองไม่เจอ ฉันไม่มีความรู้เลยว่าการเป็นครูต้องเป็นยังไง  สำหรับฉันฉันว่ามันยากมาก ไปทำงานในสัปดาห์แรก ฉันท้อมาก เหนื่อยมาก  งานที่ต้องรับผิดชอบเยอะพอสมควร ฉันต้องสอนทุกวิชาเพราะเป็นครูประจำชั้น ฉันไม่มีวิธีจัดการและควบคุมนักเรียนในชั้นเรียนได้ดีเท่าไหร่ ความท้อก็เริ่มมา ในทุกๆวันก็จะเล่าให้พ่อกับแม่ฟังทุกครั้ง แล้วพ่อก็จะสอนข้อคิดดีดี ให้กำลังใจไม่ให้ฉันเครียดมาตลอด"คำพูดของพ่อและแม่ในทุกๆครั้งเป็นแรงผลักดันที่ดีที่สุด" พ่อมักบอกว่าทุกคนย่อมมีอุปสรรค อุปสรรคที่เข้ามาเป็นเหมือนแค่จุดเล็กๆในชีวิต ถ้ามีอุปสรรคเราก็ต้องมีสติ หาวิธีแก้ปัญหา ตั้งใจทำมันออกมาให้ดีที่สุด แค่นั้นพอ อย่าเครียด อย่ากดดันตัวเอง ให้คิดซะว่าเป็นเรื่องสนุกๆ  จนตอนนี้ฉันสามารถจัดการกับปัญหาในชั้นเรียนได้ มีครั้งหนึ่งนักเรียนมาบอกกับฉันว่า "หนูทำได้เพราะครูสอนเข้าใจ" "หนูชอบวิธีการสอนของครู" คำพูดของเด็กตัวเล็กๆในตอนนั้นมันตื้นตันในใจเป็น อย่างมาก เป็น"แรงผลักดันให้ฉันมีกำลังใจในการทำอาชีพครู" สุดท้ายฉันค้นพบในสิ่งที่ฉันชอบและถนัด ฉันสนุกกับอาชีพครู ฉันรักในอาชีพครู ฉันศรัทธาในอาชีพครู และฉันจะทำหน้าที่ครูให้ดีที่สุด จุดเริ่มต้นของความฝันและเป้าหมายของฉันได้เกิดขึ้นที่นี่ทั้งหมด

ตอนนี้เป้าหมายของฉันคือ การรับราชการครู ฉันจะต้องสอบติดครูผู้ช่วยให้ได้ ฉันอยากให้พ่อแม่ไม่ต้องเหนื่อยอยากให้พ่อแม่ภูมิใจเพราะพ่อแม่อยากให้รับราชการครู ฉันพูดได้เต็มปากเลยว่าทุกวันนี้ฉันทำเพื่อพ่อและแม่เพราะฉันรักพ่อและแม่สุดหัวใจ นั่นแหละทั้งหมดคือเป้าหมาย แรงบันดาลใจก็มีแล้ว เป้าหมายก็มีแล้ว เหลือแค่ลงมือทำและฉันจะต้องทำให้สำเร็จ

หมายเลขบันทึก: 652614เขียนเมื่อ 14 กันยายน 2018 16:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 กันยายน 2018 19:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (23)

“การอ่าน” สร้างปัญญาครับ ;)…

เป็นบทความที่ดีมากค่ะ ใช่ค่ะแรงบันดาลใจนั่นคือ คนใน “ครอบครัว” จริงๆค่ะ

ทุกความสำเร็จ ย่อมเจออุปสรรค สู้ๆคะ ^^

เเรงบันดาลใจคือ คนในครอบครัวของเราค่ะ สู้ๆ เพื่อความฝันนะคะ คนข้างหลังรอดูความสำเร็จของเราอยู่ค่ะ;)

สู้ๆนะคะ กำลังใจจากคนที่เรารัก สำคัญที่สุดค่ะ :)

เขียนถ่ายทอดความคิดความรู้สึกได้ดีมากครับ

เป็นกำลังใจให้นะคะ ทำความฝันให้เป็นจริง สู้ๆ

เยี่ยมมากค่ะ สู้กันต่อไปเป็นกำลังใจให้ค่ะ

ไม่มีคำว่า “เป็นไปไม่ได้” สำหรับนักสู้ครับ

ชื่นชอบบทความคะ ทำให้มีกำลังใจสู้ต่อไปคะ

ชื่นชอบบทความค่ะเป็นกำลังใจให้นะคะ

เป็นบันทึกที่สุดยอดค่ะ

พ่อแม่เป็นโลกทั้งใบของลูกเสมอครับ

เห็นด้วย และเป็นกำลังใจให้ค่ะ

ทำทุกอย่างเพื่อคนในครอบครัวและคนที่เรารักครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท