บนถนนอันยาวไกล " สายการศึกษา " ของคุณมะเดื่อ
จะเรียกได้ว่า มีโอกาสได้ทำงานการศึกษามา มากเกือบจะ
ทุกระดับ นับตั้งแต่ ระดับโรงเรียน..ไปจนถึงระดับประเทศ
ได้เป็นทั้งครูตัวเป็น ๆ และ เป็นทั้งครูในจอคอม ฯ
จึงมีโอกาสได้เรียนรู้ ศึกษาได้หลายแง่หลายมุมของ
การศึกษาที่ไม่เคยหยุดนิ่งให้ครูได้ ...ตั้งสติก่อน...สตาร์ท...!
อย่างมั่นคงสักครา
ในความคิดของครูประถมศึกษาที่เดินมาเกือบจะสุดทาง
อย่างคุณมะเดื่อ เห็นว่า หากผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบทางการศึกษา
ในระดับสูงสุดของไทย จะ " ยอม " ให้ระบบ หรือ...นโยบาย
หรือ...อะไรก็ตาม...ของทางการศึกษาไทย ได้หยุดนิ่งสักพัก
ไม่คิดอะไรใหม่ ๆ (หรือเก่า ๆ ที่เอามาตั้งชื่อใหม่ ) หรืออะไร ๆ
ที่มันซ้ำซ้อน ยุ่งยาก ยุ่งเหยิง แบบ (ที่คุณมะเดื่อขอเรียกว่า)
" นโยบายดอกเห็ดหน้าฝน" แล้วไซร้...การศึกษาไทยก็คงจะ
ได้เติบโต งอกงามและแข็งแรงมากกว่านี้ เป็นแน่แท้
คุณมะเดื่อเชื่อว่า ขีดความรู้ ความสามารถของครูไทยเรา ก็ไม่ได้มีมาตรฐานที่ด้อย
หรือต่ำกว่าต่างชาติแต่อย่างไร เพียงแต่...ครู...ไม่มีเวลาที่จะทำอะไรที่จะสร้างคุณภาพ
หรือประสบความสำเร็จอย่างจริงจังเท่าใดนัก เพราะนโยบายที่ผุดขึ้นมาเหมือนกับ
ดอกเห็ดหน้าฝนของเบื้องบนนี่แหละที่เป็นเหตุให้ ครูต้องมีพฤติกรรมแบบ...
" จับไม่มั่นคั้นไม่ตาย " สักที ต้องจับปล่อย ..... จับปล่อย ครั้งแล้วครั้งเล่า !
ความไม่แน่นอน ไม่ต่อเนื่อง ของนโยบายจากเบื้องบนที่ส่งต่อ ๆๆๆๆ กันมา
ตามลำดับขั้นจาก กระทรวง แล้วไล่เรียงกันลงมาถึงโรงเรียน กี่ทอด ๆ กันเล่า
แล้วแต่ละขั้นแต่ละทอดที่ผ่าน ก็เพิ่มเติมงานประเด็นเล็ก ประเด็นน้อย ปลีกย่อย
เข้าไปอีก....ในที่สุดทุกนโยบาย ทุกประเด็น ก็ไป " กองรวมกัน " อยู่ที่...โรงเรียน..!
โดยที่มุมมองจากเบี้องบน ( บนหอคอยงาช้างรึไม่ก็ตามที ) มองว่า..." ประโยชน์"
จะต้องตกอยู่ที่ " เด็ก " อันเป็นเป้าหมายสุดท้ายที่...สำคัญยิ่ง...
อาศัยการติดตามประเมินผลอย่างกระชั้นชิด ที่อาศัย " รายงานทางกระดาษ "
ที่เรียกว่า " ประเมินตนเอง" หรืออะไรทำนองนั้น ก็ถือว่า " สำคัญ" เป็นอันเสร็จสิ้น
กระบวนการ.....นั่น...มันใช่คำตอบว่า...เสร็จสิ้นได้ผลตามเป้าหมาย (ใช่หรือไม่ ?? )
เป็นจริงดังนั้นหรือไม่...ก็สุดแท้แต่ความคิด ความเห็น หรือความรู้สึกของใคร
แต่สำหรับคุณมะเดื่อแล้ว....ขอบอกว่า....นั่นคือ...ภาพฝัน..ที่ไม่มีวันเป็นจริงเลย...
ตราบใดที่ " นโยบายดอกเห็ด " ยังผุดบานสะพรั่งอย่างทุกวันนี้ และ โรงเรียน ยังเป็น
สถานีสุดท้ายของ " นโยบาย" เหล่านั้น " ครู" ก็ยังต้องทำหน้าที่สนองนโยบาย
อย่างไม่หยุดไม่หย่อน จนอยากจะบอกว่า...." ว่างเมื่อไร...แล้วค่อยสอน" นั่นแหละ
มีผู้หวังดี...เคยรวบรวม " โรงเรียน " ที่ผันไปตามนโยบาย...(หรือ..อะไรก็ช่างเถอะ)
ที่อยากจะให้โรงเรียนเป็น...ไว้ดูกันเล่น ๆ ก็ได้มากมายหลายเหลือ...เช่น..โรงเรียนคุณธรรม
โรงเรียนสุจริต โรงเรียนสีขาว โรงเรียนประชารัฐ โรงเรียน...ฯลฯ คุณมะเดื่อจึงสรุปว่า
มีทุกโรงเรียน ยกเว้น...โรงเรียนของนักเรียน.. เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า...โรงเรียนไม่ได้เป็น
ตัวของตัวเองเลย พลิกผันไปตามกระแส และเป็นกระแสที่มีหลายกระแสเสมือน...
ไฟไหม้ฟาง...อีกด้วย คิดบ้างหรือไม่ว่า...โรงเรียนเพียงโรงเดียว แต่ต้อง
ทำภารกิจที่ต้องแปลงร่างเป็นโรงเรียนโน่น นี่ นั่น มากมายหลายอย่าง
แล้ว ครูจะเอาเวลาที่ไหนไปสอนนักเรียน แล้วนักเรียนจะเอาเวลาที่ไหน
ไปเรียนรู้...?? เคยลองคิดเล่น ๆ บ้างไหมว่า...จริง ๆ แล้ว ครูต้องการอะไร
เด็กต้องการอะไร ชุมชนต้องการอะไร...?? จริงอยู่ เคยมี และมีการให้โรงเรียน
ได้คิดทำหลักสูตรที่เป็นของโรงเรียน ตามที่โรงเรียนและชุมชนต้องการ....แต่...มันก็ต้อง
มีคำว่า...แต่...เคยให้โอกาสโรงเรียนได้ทำ หรือสอนกันอย่างจริงจังเพียงใด...หรือเปล่า ??
หรือเป็นเพียง เขียนไว้ให้ครบ จบแล้วก็พอใจ...เท่านั้น
ในแต่ละปีการศึกษา ครูต้องมีรายการประชุม อบรมมากมายหลายเหลือ
โรงเรียนใดมีครูน้อยคน ยิ่งหนักหนาสาหัส เมื่อเจอกับการประชุม อบรม
แบบถี่ยิบ...! ครูที่อยู่โรงเรียนก็ต้องรับหน้าที่สอนไปทุกชั้นเท่าที่จะ่
ทำได้ ... ถึงแม้จะมีระบบ " ครูตู้ " ทางไกลมาช่วย ก็คงไม่มีผลอะไร
ถ้าหากครู 1 คน ต้องสอนสองถึงสามชั้น ในเวลาเดียวกัน ...!
เขียนไปเขียนมา รู้สึกว่า ที่คุณมะเดื่อจั่วหัวเรื่องไว้ มันชักจะไปกันคนละทาง
ซะแล้ว แล้วก็เป็นคนละทางที่ห่างกันชนิดคนละเรื่องกันเลย...นะเนี่ยะ..!
เพียงแต่จริง ๆ แล้ว อยากจะเขียนเล่าถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาวันนี้ว่า
ฝนมันตกทั้งวัน (ความจริงตกมาหลายวันแล้ว) แล้ววันนี้ก็ตกหนักมากด้วย
เห็น " คลื่นลูกใหม่" ฝ่าฝนกันไปเข้าสนามสอบบรรจุครูผู้ช่วย
นับร้อยนับพันแล้ว ก็อดสะท้อนใจไม่ได้ เด็ก ๆ มีสีหน้าท่าที
จริงจัง มุ่งมั่นในการฟันฝ่าสู่เส้นทางแห่งการเป็น " ครู "
แน่นอน ที่หลาย ๆ คนในจำนวนนั้น " สมหวัง" ในขณะที่
อีกมากมายหลายคน คงต้องกลับไปเริ่มต้นเข้าสู่สนามสอบใหม่
ในโอกาสต่อไป...คลื่นลูกใหม่กำลังเข้ามารับหน้าที่แทนคลื่นลูกเก่า
อย่างคุณมะเดื่อ....หวังใจว่า...ความเข้มแข็ง ความอดทน
และการมีวิญญาณของความเป็นครู คงจะนำพาให้คลื่นลูกใหม่
ทุกคน พานาวาแห่งการศึกษาไทย ไปสู่จุดหมายปลายทาง
ด้วยดี...หวังอย่างนั้นนะ
แวะ..มา ให้กำลังใจ..เจ้าค่ะ.(.โชคดี..ที่เคยเป็นครู ตอนอยู่เยอรมันเริ่มแรก..๕๕๕๕..และจะว่าโชคร้ายก็ไม่ใช่..เพราะตอนที่ไปลองชิมลางที่..”หมาวิทยาลัย”..เมืองไทยเลย..ต้องไปโดนลูกเด้ง..เข้าให้..เลย”ทำให้ มี ชีวิต..ดี้ ดี..มาจน..จวบทุกวันนี้…).(.ออกมานอกกรอบ)ตอนสอนฝรั่ง..ในชั้นเรียน ไม่ เคยมีเจ้าเหนือหัว..กับการปฏิบัติการสอน..ไม่มีคำว่า..ครูหรือ..นักเรียน..”นักศึกษา”..น่าจะใช้คำนี้ได้..ทั้ง ผู้เรียนและ ผู้สอน..เพราะ มีโอกาศเรียนรู้ ร่วมกัน..สถานะ ไม่แตกต่าง…นั้น จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี..คือความเสมอภาค..พื้นฐาน..ของสังคม…ที่จะรองรับ..อนาคต..ที่เป็น ปัจจุบัน ขณะ“ขวานทอง.(ไทย).อาจจะมีเวลา ยาวนานขึ้นที่จะให้เป็นแผ่นดินอยู่อาศัย..เพราะ ฝนมัน จะตก..จนเขื่อนรับไม่ไหว ..น้ำแข็งละลายเร็วกว่าที่ นัก วิจัย..เบอๆ เอาไว้..แหลมทองไทย..จมน้ำ ป๋อม..แป๋ม..(อิอิ)….