๗๒๒. ความรู้ - ความไม่รู้


ความรู้ - ความไม่รู้

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว...มหาวิทยาลัยได้เชิญ Mr. Ardum ให้เข้ามาพูดคุยภาษาอังกฤษกับบุคลากรของกองบริหารงานบุคคล โดยอยู่ที่กองประมาณ ๓ ชั่วโมง โดยให้ทุกคนได้มีการฝึกทักษะในการพูด คุย กับ Ardum...Ardum เป็นคนคุยเก่ง อายุประมาณ ๔๐ ปี อยู่ที่ประเทศอังกฤษ แต่ชอบเดินทางไปอยู่ที่ประเทศต่าง ๆ...Ardum สอนนักศึกษาไทยด้วย...Ardum บอกว่า ชอบเมืองไทย ผู้เขียนถามว่า ไม่กลัวเมืองไทยร้อนรึ? Ardum ตอบว่า "ไม่เลย" Ardum บอกว่า "ชอบหญิงไทย" คริๆๆ ก็แน่ล่ะ!!! ไม่ชอบหญิงไทยได้ไง...ก็เพราะเมียนายเป็นสาวไทยนี่!!! คริๆๆ...

ในความเป็นจริง Ardum พูดไทยได้ชัดมาก ๆ ฟังภาษาไทยรู้เรื่อง มาครั้งแรก ทำเนียน ฟอร์มเยอะมาก...ทำเป็นพูดภาษาอังกฤษกับพวกเรา...แต่พอสุดท้ายก่อนจาก Ardum หลุดพูดภาษาไทยออกมาหลายครั้ง ทำเอาผู้เขียนบอกว่า..."พี่นึกแล้วว่า Ardum พูดภาษาไทยได้แถมยังฟังภาษาไทยที่พวกเราพูดได้หมดว่า เราพูดอะไรเกี่ยวกับนายออกไป...คริๆๆ...ก็ทำให้บรรยากาศที่พวกเราสื่อสารเป็นไปด้วยความสนุก เฮฮา ไม่ซีเรียส...ก่อนจากไป Ardum ได้บอกพวกเราทั้ง ๑๐ กว่าคนว่า ชื่ออะไร Ardum จำได้หมด โดยเฉพาะผู้เขียน Ardum บอกว่า ชื่อของผู้เขียนคล้ายชื่อของพี่แป๋ว พี่ปุ๊ พี่บุษ ซึ่งเป็นคนที่ Ardum รู้จัก คริๆๆ...จึงทำให้ Ardum จำได้

ช่วงแรกผู้เขียนไปประชุมร่วมกับอธิการบดี พอมาถึงก็ประมาณเกือบ ๑๐.๐๐ น. ได้แนะนำตัวเองด้วยภาษาอังกฤษ และแนะนำว่า ตนเองชื่อ Bussayamas ซึ่ง Ardum พูดไม่ได้ จนบอกไปว่า Nick Name is Buss...Ardum ตอบ OK. "Buss"...พูดคุยกันไปเรื่องด้วยภาษาอังกฤษอย่างเดียว...ทำเอาน้อง ๆ มือ ไม้ ไปกันหมด พร้อมเปิดคำศัพท์ในมือถือเพื่อเป็นตัวช่วยในการสื่อสาร ซึ่ง Ardum ก็ไม่ได้ว่าอะไร Ardum บอกพวกเราว่า "คนไทยขี้อาย ไม่ค่อยกล้าแสดงออก ไม่พูด คุย เหมือนไม่มั่นใจ เพราะการพูดภาษาอังกฤษ คนไทยต้องกล้าแสดงออก ใช้บ่อย ๆ ให้ดูหนังต่างชาติ ปี ๑๙๔๐ เพราะจะทำให้เราฟังได้ชัดเจน เนื่องจากหนังฝรั่งจะพูดช้า ๆ และต้องฟังเพลงฝรั่งบ่อย ๆ มันจะทำให้ซึมซับไปได้เอง...ผู้เขียนบอกว่า Ardum เก่งที่พูดภาษาไทยได้และฟังรู้เรื่อง...Ardum บอกว่า หากกลับไปประเทศอังกฤษแล้ว ก็ทำให้ลืมได้เหมือนกัน เหตุเพราะว่า Ardum ไม่ได้ใช้ภาษาไทย...การได้พูด ได้ฟังบ่อย ๆ จะทำให้เราเข้าใจและสื่อสารได้ เช่นเดียวกับภาษาอังกฤษก็เช่นกัน...

การที่พวกเราได้พูดคุยกับชาวต่างชาติ เราก็จะได้รับความรู้อะไรในบางอย่างจากชาวต่างชาติได้เช่นกัน...เช่น กระบวนการคิด กระบวนการเปรียบเทียบ ซึ่งชาวต่างชาติพัฒนาได้ดีกว่าคนไทย...คนต่างชาติชอบคนที่กล้าแสดงออก กล้าพูด กล้าคิด คิดนอกกรอบ ไม่รู้ก็บอกว่าไม่รู้ พูดตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม กล้ารับ กล้าทำ นี่คือ นิสัยของคนต่างชาติ ไม่มีการมาว่ากันลับหลัง มีอะไรก็บอกกกันตรง ๆ...ผิดกับนิสัยของคนไทย คือ ชอบว่าหรือนำคนอื่นมานินทาลับหลัง ไม่พูดหรือว่าต่อหน้า อาจเป็นเหตุว่า กลัวเขาว่ากลับ...เพราะการไม่รู้จริง Ardum บอกผู้เขียนว่า...เขามีเทคนิคในการจำภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ เช่น คำว่า Farmer กับคำว่า "ฝ่ามือ"...คำว่า Die กับคำว่า "ตาย"...Ardum บอกว่า ทุกเรื่องมีการนำเทคนิคมาใช้เพื่อให้เราจดจำได้ง่ายขึ้น...

ผู้เขียนได้กลับมาพูดคุยกับปู่เรของพี่ฟ้าครามที่บ้านเกี่ยวกับโลกปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงในสิ่งต่าง ๆ นั้นมากมายว่า "ทำไมปัจจุบันเรื่องต่าง ๆ จึงเปลี่ยนแปลงไปมากๆ ปู่เรบอกว่า...ทุกสิ่งอย่างเปลี่ยนแปลงไปมากในโลกยุคปัจจุบัน เพราะมี IT เข้ามาช่วยจัดระบบความรู้ให้กับมนุษย์มากขึ้น พวกเราชอบวิเคราะห์สถานการณ์เหตุบ้านการเมือง ความเปลี่ยนแปลงของสังคม เพราะทำให้พวกเราเข้าใจโลกของความเป็นจริงได้มากขึ้น เช่น

ปัจจุบันน่าจะไม่มีคำว่า นักวิชาการ - นักวิชาการเกิน แต่น่าจะเป็นเรื่องของการยอมรับความรู้กันมากกว่า…ใครถูกยอมรับก็เรียกว่า “นักวิชาการ” ใครไม่ถูกยอมรับ นั่นคือ นักวิชาการเกิน…ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ “อำนาจ” เป็นตัวถูกกำกับว่า อำนาจใครเหนือกว่ากัน ปัจจุบัน คือ การเรียนรู้ร่วมกันของภาคทฤษฎีและการปฏิบัติ…เหตุที่ทราบ ก็เพราะ IT นี่ล่ะ!!! ที่เข้ามาจัดการในเรื่องของ “ความรู้” ในโลกปัจจุบัน เพราะทฤษฎีจะได้จากสถาบันการศึกษารับรอง…สำหรับปฏิบัติจะได้จากประสบการณ์ในการทำงานรับรอง…สังคมไทยยังไม่ค่อยให้ความสำคัญมากนักกับเรื่องประสบการณ์ ฯ…นี่คือ จุดบอดของการพัฒนาประเทศไทย...

ในอนาคตคอยดูไป จะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านความรู้มากมาย เกี่ยวกับสถาบันการศึกษา...ที่คนไทยนั้นให้ความสำคัญกับใบปริญญา และกับคนที่ไม่ได้รับการศึกษาโดยการได้รับใบปริญญา แต่สามารถทำงานแล้วประสบผลสำเร็จได้จากประสบการณ์ ความรู้ ที่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง...เป็นองค์ความรู้จากตัวคน ที่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง เฉกเช่น กาลิเลโอ ฯลฯ และนี่คือ การเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษา ระหว่างใบปริญญากับคนที่ไม่มีใบปริญญา...

..............................................

ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติเข้ามาอ่านบันทึกนี้

บุษยมาศ  แสงเงิน

๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๑

หมายเลขบันทึก: 649477เขียนเมื่อ 11 สิงหาคม 2018 14:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 สิงหาคม 2018 14:18 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท