บทความเรื่อง 10 Things You Don’t Know About Yourself (1) เขียนโดย Steve Ayan ลงพิมพ์ใน Scientific American Mind ฉบับเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๑ น่าอ่านมาก
- ภาพลักษณ์ที่คนเรามีต่อตัวเอง เป็นภาพที่บิดเบี้ยว ไม่ตรงกับความเป็นจริง เขาเรียกสภาพนี้ว่า introspection illusion กล่าวง่ายๆ ว่า คนเราย่อมเข้าข้างตัวเองเสมอ และเรามักมองตัวเองในแง่ดีเกินจริง
- ไม่รู้แรงขับดันภายในของตนเอง หรืออาจเรียกว่า “ตัวตนที่แท้จริง” ของตนเอง เรื่องนี้นักจิตวิทยาพยายามหาวิธีทดสอบ เขาคิดวิธี implicit association test เพื่อขุดค้นหาเจตคติที่แฝงเร้นของคนเรา การทดสอบนี้ ทำให้คนตอบตอบอย่างเร็ว ไม่ใช้ความคิด ผลแตกต่างจากการกรอกแบบสอบถาม (ซึ่งผ่านการคิด) อย่างมากมาย
- ไม่ตระหนักว่า ภาพลักษณ์ภายนอกและพฤติกรรมของตน บอกคนทั่วไปว่าคุณเป็นคนอย่างไร โดยที่ผลงานวิจัยบอกว่า คนใกล้ชิดรู้จักตัวเรามากกว่าเรารู้จักตัวเอง
- แยกใจออกจากตัวเอง อาจช่วยให้รู้จักตัวเองมากขึ้น เขาบอกว่าการเขียนอนุทินแบบใคร่ครวญสะท้อนคิด (reflective diary) และการทำสมาธิอาจช่วย คือช่วยลดวิธีคิดแบบบิดเบี้ยว และลดการปกป้องตนเอง
- คนเรามักคิดว่าตนทำบางสิ่งได้ดีกว่าที่เป็นจริง มีคนเสนอ Dunning Kruger Effect (2) ที่เสนอว่า ยิ่งคนเราด้อยสมรรถนะเรื่องใดมากเพียงใด ผู้นั้นจะยิ่งประเมินสมรรถนะของตนสูงเกินจริงมากเพียงนั้น เรื่องนี้ผมตระหนักมานานกว่าสี่สิบปี โดยการสังเกตน้องๆ เสียดายที่ไม่ได้เสนอทฤษฎีไว้ เพราะ Dunning Kruger Effect นี้เพิ่งเสนอเมื่อ ๑๙ ปีมานี้เอง
- คนที่มองภาพลักษณ์ตนเองในแง่ลบ จะมีสุขภาพจิตไม่แข็งแรง จากข้อ ๕ และข้อ ๖ ทำให้ผมตีความว่า คนเราต้องมองตนเองเชิงบวก แต่ต้องไม่มากเกินไป
- คนเราหลอกตัวเองโดยไม่รู้ตัว เพราะเราแสดงออกเกินจริงเพื่อให้ผู้อื่นชื่นชมหรือเชื่อถือ การหลอกคนอื่นบ่อยๆ ทำให้ตนเองก็ถูกหลอกไปด้วย
- การอยู่กับ “ตัวตน” ที่แท้จริง เป็นชีวิตที่ดี เขาอธิบายการศึกษาทางจิตวิทยามากมาย แต่ผมมีความเห็นว่า การรู้จักตัวเอง และอยู่กับตัวตนที่แท้จริงคือการมีชีวิตที่มีปัญญา และแปดเปื้อนกิเลสตัณหาน้อย
- คนที่รู้สึกไม่ปลอดภัย มักจะแสดงพฤติกรรมว่าตนเป็นคนดี หัวข้อนี้อ่านแล้วตกใจ เขาอธิบายว่า คนที่ไม่มั่นใจว่าตนไม่มีคุณสมบัติบางข้อ จะพยายามปรับปรุงตนเอง เช่นคนที่กังวลใจว่าตนเป็นคนตระหนี่ มักจะให้เงินคนขอทานมากกว่า
- หากคุณคิดว่าตนเองเป็นคนยืดหยุ่น คุณจะประพฤติไปในทางยืดหยุ่นยิ่งขึ้น เขาอ้างถึงผลงานวิจัยของ Carol Dweck แห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด โดยไม่เอ่ยถึงคำว่า Growth Mindset เลย แต่ผมตีความว่า นี่คือการมี Growth Mindset ในเรื่องนั้นๆ นั่นเอง
วิจารณ์ พานิช
๑๐ ก.ค. ๖๑