(SET 2) ชุด ชุดพราง4มิติ


ชุดพราง4มิติ ผลิตภัณฑ์ยอดฮิตในวรรณคดีไทยเรื่องต่างๆอีกชนิดหนึ่ง มักใช้ในการปลอมตัว ซ่อนรูปซ่อนความงาม ผู้ใช้นั้นมักเป็นบุคคลระดับปัญญาชนมีความสามารถ แต่ซ่อนอยู่ในร่างกายอัปลักษณ์ ตัวอย่างชุดพราง4มิติ มีดังนี้

 

๑.หน้าม้าของนางแก้ว หรือที่รู้จักกันในนาม”แก้วหน้าม้า”หญิงสาวที่มีรูปหน้ายาวรีคล้ายม้ม้า!(ไม่ใช่มีศีรษะเป็นม้า!!!) เธอกำเนิดมาพร้อมกับใบหน้าที่คล้ายม้า แต่!จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า ใบหน้านั้นเป็นเพียงหน้ากากทิพย์(จัดเป็นของวิเศษอีกชนิดหนึ่งที่เกิดมาพร้อมกับเจ้าของผู้มีบุญ แบบเดียวกับ หอยสังข์ ของพระสังข์ จาก สังข์ทอง หรือ เรือนไทยหลังน้อยของโสนน้อยเรือนงาม)

 

๒.ชุดเงาะของพระสังข์ จากสังข์ทอง เป็นชุดพรางขนาดฟูลไซส์ ในขณะที่ของนางแก้วเป็นเพียงหน้ากาก แต่ชุดเงาะนี้พรางได้ทั้งร่าง ใส่แล้วดำทั้งตัว แต่ก่อนจะสวมชุดทิพย์นี้ จะต้องทำการ”ชุบตัว”ในบ่อเงิน บ่อทอง เสียก่อน(คล้ายการลงแป้งในเสื้อผ้าเพื่อให้ง่ายต่อการสวมใส่) ร่างของพระสังข์ จึงเปล่งรังสีประกายทอง(ไม่ใช่ผิวทองคำแบบมนุษย์ทองคําของเส้าหลิน)

 

หมายเหตุ เราคาดว่าบ่อทองที่นิทานพื้นบ้านต่างๆชอบใช้ชุบตัวนั้น น้ำในบ่อนั้นน่าจะเป็น"น้ำมัน!!!" เพราะน้ำมันนั้นเป็นสิ่งที่ใช้ชโลมอาบกายมาตั้งแต่โบราณ บ่อทองจึงน่าจะเป็นน้ำมันทิพย์วิเศษท่เมื่อชโลมกายจะซึมซาบเข้าสู่ผิวหนังและทำให้ผิวหนังเปล่งประกายจากภายใน

 

น้ำบ่อทอง คือ น้ำมันพิเศษ

น้ำบ่อเงิน คือ ปรอทพิเศษ

 

โดยอ้างอิงจากหลักฐานวิชา เรียกน้ำมัน-ปรอทเข้าตัว

 

อนึ่ง ส่วนประกอบบ่อเงิน-บ่อทองนี้ ต้องเป็นสารสกัดที่เข้มข้นมากๆ เพราะปกติการชุบตัวต้องชุบติดต่อกันโดยไม่ขึ้นจากบ่อเลย ๓ วัน ๗ วันขึ้นไปจึงจะเห็นผลชัดเจน แต่บ่อเงิน-บ่อทองในที่นี้กลับใช้เวลาในการชุบตัวน้อยมาก จึงน่าจะเป็นสารประกอบที่พิเศษมากๆจริงๆ

วิธีการทำงานของชุดพราง4มิตินี้ โดยทั่วไปน่าจะมีลักษณะคล้ายกับ ID mask ที่พวก DNAliensใส่เพื่อพรางตัวในเรื่อง Ben 10 ผสมกับชุดนาโนที่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างเป็นเครื่องนุ่งห่มรูปแบบต่างๆได้คล้ายชุดนาโนของ Black Panther ซึ่งตามปกติชุดนาโนที่ถูกแยกจนเป็นชิ้นเล็กๆระดับอนุภาค(อณู-สสารขนาดเล็กที่สามารถมองเห็นได้ด้วยแสงสว่างที่ส่องเข้าไปตามว่างในอากาศ)เหล่านี้จะถูกเก็บไว้รวมไว้ในส่วนที่เป็นหน้ากาก จึงทำให้สะดวกต่อการพกพาพอสมควร

ในกรณีหน้ากากของนางแก้วนั้น เมื่อสวมใส่แล้ว บรรดาอณูจะเคลื่อนเเข้าปกคลุมใบหน้าและทำการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใบหน้าทั้งหมดที่สามารถมองเห็นและสัมผัสได้ให้อยู่ในรูปใบหน้าเดียวเท่านั้น คือใบหน้าที่เรียวยาวคล้ายม้า

ไม่ว่าใครจะใส่ก็จะออกมาหน้าพิมพ์เดียวกันหมด คือ สวมแล้วหน้าจะเหมือนยิ่งกว่าฝาแฝด(แต่เป็นไปได้ว่า เหล่าอณูในหน้ากากก็อาจสามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างส่วนให้ผู้สวมใส่ทุกคนดูเหมือนกันหมดทั้งตัวได้ด้วย) หากดูด้วยตาเปล่าก็ไม่อาจแยกได้ว่าที่อยู่ตรงหน้าใช่นางแก้วที่สวมรูปอยู่ตัวจริงรึไม่

ในกรณีหน้ากากรูปเงาะของพระสังข์ทองนั้น ก็คล้ายคลึงกับนางแก้ว แต่ขอเรียกกลุ่มอณูที่อยู่ในหน้ากากนี้ว่า “อณูดำ” ซึ่งเมื่อสวมใส่แล้ว เหล่าอณูดำจะเคลื่อนตัวออกจากหน้ากากเข้าปกคลุมร่างกายทั้งหมดแล้วปรับเปลี่ยนโครงสร้างพร้อมบิดเบือนมิติจนผู้สวมใส่อยู่ในร่างเงาะป่าร่างดำทันที

แม้จะเป็นคนที่มีรูปร่างใหญ่ ก็สามารถสวมใส่ชุดพราง๔มิติให้ตัวเล็กลงได้ เพราะชุดเหล่านี้มีความเป็น๔มิติแบบเดียวกับเครื่องถ่างมิติรูปหอยสังข์ ผอบ ฯลฯ และ DIMENSION SUIT รูปคางคกของนางอุทัยเทวี ดังนั้นเรื่องขนาดและรูปร่างรูปทรงจึงไม่ใช่ปัญหาในการใช้งานแต่อย่างใด

หมายเลขบันทึก: 649272เขียนเมื่อ 1 สิงหาคม 2018 17:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 สิงหาคม 2018 17:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท