เรื่องสั้น "จิตไร้สำนึก"


เคยมีคนบอกว่ายิ่งอยากลืมมันก็ยิ่งจดจำ สิ่งที่พยายามจำก็ดันลืมหมด ถ้าเป็นแบบนี้จริงฉันก็จะไม่จำอะไรเลย ปล่อยให้ชีวิตเดินทางตามวงล้อแห่งวิถีของมัน ส่วนใครหรือสรรพสิ่งที่เข้ามาเกี่ยวพันหรือมีเอี่ยวด้วยนั้น ฉันถือว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญก็แล้วกัน อยู่ ๆ จะมาร่วมทางอันซับซ้อนของฉันได้ไง ถ้าไม่เข้ามาชดใช้ในสิ่งที่ทำไว้กับฉัน

ชีวิตที่เดินตามม่านประเพณีดูเหมือนจะไม่รุ่งสักเท่าไร ฉันจึงแหกคอกออกมาแตะฝุ่นไปตามไหล่ทาง เก็บดอกหญ้าใส่แจกัน ปันอาหารให้ขอทาน ในบางครั้งฉันยังหยิบยื่นความสุขให้ใครต่อใคร ฉันทำลงไปฉันเองก็ชักไม่แน่ใจว่าฉันเพี้ยนไปแล้ว หรือว่าฉันกำลังเดินหลงทาง แต่ในเมื่อฉันมีความสุข มันก็สมควรที่ฉันจะทำมันไม่ใช่หรือ เพราะยากเหลือเกินกว่าฉันจะได้ลิ้มรสความสุขสักครั้ง

นับตั้งแต่ความยากจนถีบหัวฉันออกจากบ้าน ฉันเฝ้าแต่แสวงหาความยุติธรรมให้มาร่วมทางเดิน ดูเหมือนมันสวนทางกับฉันเสมอ ฉันละอายใจที่ดื่มกินลำพัง ฉันภูมิใจที่ได้แบ่งปันในบางครา คงบาปเคราะห์กระมังฉันถึงเสพทุกข์สำราญใจ ความรักนะหรือ...ผู้ชายก็เหมือนสุสานนั่นล่ะ นาน ๆ จะได้แวะเยี่ยมเยือน ถือซะว่าอย่างน้อยฉันก็ได้ใช้ความทุกข์มากกว่าคนอื่น ๆ บนโลกใบนี้ ‘ฉันรวยความลับที่ซ้อนทับกันต่างหาก’ ถ้าจะพูดไปแล้ว ฉันใช้ความทุกข์ฟุ่มเฟือยเพื่อบรรเทาให้คนอื่นๆ ได้เสพสุข มันไม่ได้ภูมิใจเลยนะกับคำสารภาพสวยหรูนี่ 

การที่ยืนบนบ่าคนอื่นแบบนี้ ความขมขื่นมันตามมาย่ำยีฉันทุกครั้งที่ฉันโหยหาอิสรภาพแห่งการกระทำ ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูพร้อมกับสำเนียงอ่อนน้อม ‘เจ้านายคะ มีแขกมาขอพบค่ะ’ พอแค่นี้ก่อนนะสำนึกดี..ที่รัก ฉันต้องไปทำงานแล้ว ยังมีส่วยและภาษีกองรอให้ฉันได้โกงกินอีกเพียบเลย.

หมายเลขบันทึก: 648063เขียนเมื่อ 11 มิถุนายน 2018 10:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2018 10:18 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท