๗๓๕. ความเคลื่อนไหว..ในวันไหว้ครู


.ภาพที่บุคคลภายนอกมอง..ก็สะท้อนการทำงานที่ต่อเนื่องและจริงจังของครู..เริ่มเห็นผลที่ยั่งยืน..อย่างน้อยก็ช่วยให้ครูมีกำลังใจ บนพื้นฐานที่พอดี ที่จะต้องทำงานกันต่อไป...

            ถ้าหากจะมีเป้าหมาย..เอาไว้พุ่งชน..ผมคิดว่าการประเมินตนเองสำคัญที่สุด และจะต้องประเมินแบบตรงไปตรงมา คือไม่ลำเอียง..แบบเข้าข้างตนเอง..

            ผมประเมินตนเองทุกวัน..แล้วก็พบทุกวัน..พบข้อมูลบางสิ่งบางอย่างที่โรงเรียนยังก้าวไปไม่ถึงประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์มาตรฐานของงานประกันคุณภาพภายใน..

            แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เป็นเพียงเกร็ดเล็กเกล็ดน้อย ที่พบโดยทั่วไปของโรงเรียนขนาดเล็ก เป็นจุดด้อยที่ต้องเร่งแก้ไข..ให้เสร็จสิ้นภายในภาคเรียนที่ ๑

            ทั้งในเรื่องระเบียบวินัยนักเรียน ความกล้าแสดงออกและความเสียสละ ตลอดจน..การวางแผนการทำงาน หรือการทำงานเป็นทีมของนักเรียน..

            อย่างไรก็ตาม..ภาพที่บุคคลภายนอกมอง..ก็สะท้อนการทำงานที่ต่อเนื่องและจริงจังของครู..เริ่มเห็นผลที่ยั่งยืน..อย่างน้อยก็ช่วยให้ครูมีกำลังใจ บนพื้นฐานที่พอดี ที่จะต้องทำงานกันต่อไป...

            วันนี้..มีกิจกรรมการไหว้ครู ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๑ เสร็จจากพิธีการไหว้ครู เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาล..มาทำการตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนให้นักเรียน...

            ช่วงที่นักเรียนไหว้ครู..ผมไม่ทราบว่า..มีผู้ปกครองมานั่งดูอยู่ด้วย เป็นผู้ปกครองของนักเรียนชั้น ป.๓ นำหลักฐานการย้ายจากโรงเรียนเดิมมามอบให้ผม...

            ผมลงจากเวที..หลังกล่าวให้โอวาทนักเรียนเป็นที่เรียบร้อย..ผู้ปกครองเดินเข้ามาทักทาย...

            “..ไม่เห็นพิธีไหว้ครูที่ดูเงียบสงบแบบนี้มานานมากแล้ว รู้สึกประทับใจ เด็กๆตั้งใจกันทุกคน ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก..”

            ผมคิดในใจ..แล้วผู้ปกครองไปเห็นที่ไหนมา..ว่าในวันไหว้ครูดูไม่สำรวม เพราะในโรงเรียนแห่งนี้..มีบรรยากาศแบบนี้ทุกปี ถึงแม้ปีนี้..เด็กจะมากขึ้นก็ตาม...

            ทำให้คิดได้ว่า..เราอยู่ประจำ จะมองไม่เห็นภาพในบางแง่มุม จึงคิดว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา..แต่ในสายตาบางคน..เขาดูเป็นเรื่องสำคัญ..ที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ...

            เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้ามา..พร้อมคำทักทายในประโยคแรกๆ

            “เด็กนักเรียนมากขึ้นนะคะ..และรู้สึกจะตัวใหญ่มาก..”

            ผมก็คิดในใจอีก..ไม่ใหญ่อย่างเดียว..อ้วนด้วย..น้ำหนักขึ้นกันทุกคน เพราะแม่ครัวทำกับข้าวมื้อกลางวันอร่อยมาก..แถมใจดีใครไม่อิ่มให้ต่อรอบสองได้...

            ผมจึงไม่กังวลเรื่องการนิเทศติดตามโครงการอาหารกลางวัน..ที่กำลังเป็นปัญหาระดับชาติ

            แท้จริงแล้ว..เป็นปัญหาที่รื้อรังมานาน แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาทุกโรงเรียน เป็นปัญหาเพียงส่วนน้อยเท่านั้น

            ปัญหาในส่วนแรก..เกิดจากการขาดจิตสำนึกของผู้บริหาร ครูและแม่ครัวโรงเรียน...ไม่ต้องไปมองถึงชุมชนผู้ปกครอง

            ปัญหาที่สองเกิดจาก..ประสิทธิภาพการทำงาน ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น..ที่ไม่ได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับทางโรงเรียน...เท่านี้เอง..

            ตอนบ่าย..ผมไปติดตามงบประมาณงวดแรกในโครงการอาหารกลางวัน ตามรายชื่อเด็กที่มีตัวตนอยู่จริง..ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน ๒๕๖๑ เทศบาลบอกว่าวางฎีกาแล้ว...ผมก็ดีใจ ที่การติดตามถามไถ่..ไม่ผิดหวัง..

            การดำเนินงานโครงการฯ ก็จะได้เดินหน้าไป..แต่บางโรง..เงินงบประมาณหมดแล้ว แต่ อบต.บางแห่งยังไม่ขยับขับเคลื่อนเลย..ท่านก็ลองหลับตานึกภาพดูว่า เด็กจะทานอะไร? ...แค่นี้เอง

            ผมกลับมาบอกครู..พรุ่งนี้..มีคณะมาดูงาน..”บ้านเล็กในป่าใหญ่” ให้คณะที่มากับนักเรียน ทานเหมือนกันเลย..แกงป่าไก่..และน้ำพริกปลาทู อย่าลืมผักจิ้มน้ำพริกด้วย เจ้าหน้าที่จาก รพ. บอกมา..เด็กไม่ค่อยทานผักกันเลย...

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๗  มิถุนายน  ๒๕๖๑

            

หมายเลขบันทึก: 647980เขียนเมื่อ 7 มิถุนายน 2018 21:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 มิถุนายน 2018 21:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท