แชมพูสมุนไพร (Shampoo)

แชมพูสมุนไพร (Shampoo)

นายอานนท์ ภาคมาลี (คนหาปลา ข้าราชการบำนาญ)

ปัจจุบันการเลือกใช้ แชมพูสมุนไพร นับว่าเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภคจำนวนมาก ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการผสมของสารเคมีบนศีรษะ โดยสรรพคุณของสารสกัดสมุนไพรนั้น นอกจากจะไม่ทำให้สภาพแวดล้อมเป็นพิษแล้ว แถมยังอ่อนโยนต่อเส้นผมอีกด้วย ผู้ใช้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีแรงๆ และปัญหาผมร่วง การทำแชมพูสมุนไพรไว้ใช้เอง น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีของผู้คนในยุคนี้ เพราะทำได้ง่ายลงทุนไม่มานัก อีกทั้งราคาแชมพูทั่วไปตามท้องตลาด มีสารเคมีจำนวนมาก มีราคาเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน วันนี้ได้มีวิธีการทำแชมพูสมุนไพรมาฝาก ผู้ที่อยากลองทำแชมพูสมุนไพรธรรมชาติไว้ใช้เอง วันข้างหน้าอาจเป็นเถ้าแก่ขาย แชมพูสมุนไพรก็ได้

วัสดุ/อุปกรณ์

   กะละมัง สแตนเลส ขนาด 10 – 12 นิ้ว ราคาใบละประมาณ 60 – 80 บาท ไม้พายหน้ากว้าง 2 นิ้ว ยาวประมาณ 1 ฟุต (ใช้คนน้ำยา) ราคาประมาณ 30 บาท เครื่องปั่น ราคาประมาณ 800 บาท ขวดบรรจุขนาด 350 ซีซี ราคาประมาณ 4 – 5 บาท

ส่วนผสม

1. หัวแชมพู 8000 จำนวน 2 กิโลกรัม
2. กลิ่นคาโอ ขนาด 1 ออนซ์
3. ผงฟอง – ผงข้น ลาโนลีน ชนิดละ 100 กรัม
4. น้ำมะกรูด 150 กรัม น้ำกลั่น 3 ลิตร
5. สีผสมแชมพู สีเขียว หรือ สีฟ้า จำนวน 1 ห่อ

สมุนไพร (เลือกชนิดใดชนิดหนึ่ง) ตามน้ำหนักดังนี้

1. สูตรว่านหางจระเข้ นำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือก แล้วนำมาปั่นให้ละเอียด
2. สูตรดอกอัญชัน นำดอกอัญชันมาปั่นละเอียดโดยเจือน้ำลงไปเล็กน้อย แล้วกรองเอากากทิ้ง
3. สูตรประคำดีควาย
   • นำลูกประคำดีควายมาต้มเสียก่อน จากนั้นนำมาตำให้ละเอียดทั้งเปลือก เจือน้ำเล็กน้อยแล้วกรองเอากากทิ้ง
   • นำน้ำกลั่น 1 ลิตร เทลงไปในกาละมัง นำผงฟองเทลงผสม ใช้ไม้พายคนให้ละลายเข้ากัน ใส่หัวแชมพูลงไปคนให้เข้ากัน หลังจากนั้นนำลาโนลีน ละลายกับน้ำเล็กน้อย เทผสมลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้ง
   • เติมน้ำกลั่นลงไปผสมอีก 1 ลิตร ใส่กลิ่นคาโอสีผสมและว่านหางจระเข้ หรือน้ำดอกอัญชัน หรือประคำดีควาย และน้ำมะกรูด คนส่วนผสมให้เข้ากัน
   • โดยทยอยเติมที่ละน้อยสลับกับการคนไปเรื่อยๆจนใสผงข้น 100 กรัม
   • เติมน้ำกลั่นลงไปผสมอีก 1 ลิตร จนแน่ใจว่าส่วนผสมทุกอย่างละลายเข้ากันดี และมีความข้นพอเหมาะ จึงหยุดคน ปิดกะละมัง ตั้งทิ้งไว้ 1 คืน
   • นำแชมพูสมุนไพร มาบรรจุขวดปิดผนึก แล้วนำไปจำหน่ายได้ ปริมาณส่วนผสมข้างต้นสามารถผลิตแชมพูได้ 5 ลิตร

ก่อนนำมาจำหน่าย/ต้องมีฉลากปิดที่ขวดให้เรียบร้อย โดยระบุรายละเอียดดังนี้

ชื่อ /ประเภท/ วิธีใช้/ส่วนประกอบสำคัญ/สถานที่ผลิต/ขนาดบรรจุ/วันเดือนปีที่ผลิต