แล้วใจของธรรมกายก็เพ่งไปที่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกาทิพย์หยาบและทิพย์ละเอียดต่อไปอีก เมื่อใจหยุดนิ่งได้ถูกสวนละเอียดหนักเข้า จนละ วิตก วิจาร ได้แล้ว องค์ฌานเดิมก็จะว่างหายไป แล้วปรากฎองค์ฌานใหม่เกิดขึ้นมาแทนที่อีก ใสละเอียดกว่าเกิมทั้งฌานและกาย นี้เป็น ทุตยฌาน
ใจของธรรมกาย ก็เพ่งลงไปที่กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายรูปพรหมหยาบและรูปพรหมละเอียดอีก เมื่อใจหยุดถูกส่วน และละเอียดหนักเข้า จนปีติหมดไป องค์ฌานเดิมก็จะว่างหายไป แล้วปรากฎองค์ฌานเกิดขึ้นมาให่ ใสละเอียดกว่าเก่า ทั้งฌานและกาย นี้เป็น ตติยฌาน
ใจของธรรมกาย ก็เพ่งลงไปที่กลางดวงธรรมทีทำให้เป็นกายอรูปพรหมหยาบและอรูปพรหมลฃะเอียดอีกต่อไป เมื่อใจหยุดนิ่งถุกส่วน ละเอียดหนักเข้า จนสุขหายไป คงเหลือแต่เอกัคคตาจิต คือความที่จิตมีอารมณ์เป็นหนึ่ง น่ิงเป็นอุเบกขาอยู่ องค์ฌานเดิมก็จะว่างหายป และปรากฎองค์ฌานใหม่เกิดขึ้นแทนที่ ใสละเอียดยิ่งกว่าเดม ทั้งฌานและกายนี้เป็นจตุตถฌาน
เมื่อเข้าใจวิะีเข้าฌานสมาบัติตั้งแต่ปฐมฌานไปจนถึงจตุตถฌาน โดยอนุโลม(ตั้งแต่ต้นไปหาปลาย) แล้ว ก็จงฝึกหัดถอยกลับจากจตุตถฌาน ลงมาถึงปฐมฌาน เป็นปฏิโลม (จากปลายมาหาต้น) ให้เกิดความชำนาญ (วสี) ทั้งในการเข้า การออก การทรงฌาน และการพิจารณาอารมณ์ฌานเหล่านี้ให้แม่นยำ... "หลักและวิธีเจริญสมถะและวิปัสสนาเบื้องต้นถึงธรรมกาย"
ไม่มีความเห็น