203---บังกาปู ( ตอนที่ 22 )


                                         บังกาปู ตอน 22                                                                    ........บังและญาติพี่น้อง รอคอยโบกมือโบกไม้อวยพรชัยให้บินด้วมยความปลอดภัยเช่นทุกครั้งที่เฦธอนำญาตขึ้นบินชมเมือง เธอบินให้เหล่าญาติได้ชมอยู่3รอบก็เชิดหัวเครื่องออกแถขึ้นสูงที่ระยะความสูบ600ฟิต บินพาผมไปชมย่านเขตเมืองที่ทันสมัยทุกแห่ง แลทุกแห่ง แล้วบินสูงขึ้นไปอีก จากนั้นก็ปล่อยคันบังคับให้ผมลองบินดู  ผมไม่ลังเลที่จะแสดงฝีมือให้เธอดูด้วยการบินพลิกตัว 1 ครั้ง  เธอชอบใจ เชื่อว่าผมบินเป็นจริง จึงยกปากพูดกับหอบังคับการบิน ขออนุญาติไปฝึกบินที่โซนฝึกบินโซน A แล้วให้ผมนำเครื่องขึินไปที่โซน A ผมก็ทำตาม  ที่โซนฝีกบินที่มีการขออนุญาติฝึกบิน หอจะประกาศเป็นเขตห้ามเครื่องบินทุกลำที่บินอยู่ในเวลานั้นเข้าใป ภายในเวลาที่ยังมีการฝึกบินอยู่  ผมทำการฝึกบินเงยตั้งตีลังกาทำวงกลมตั้งได้ 2 วงแถมด้วยบินพลิกตัวซ้ายขวา  สาวิตรียกมือมาตบแขนผมบอกว่าเชื่อแล้วว่าบินได้จริง แล้วบอกต่อว่าฝึกบินนานพอควรแล้ว แล้วเธอก็แจ้งหอบังคับการบิน ว่าขอยกเลิกการใช้โซน A  จากนั้นก็แจ้งพิก้สนามบิน ให้ผมนำเครื่องกลับสนามบิน ผมรับทราบ ขอบินต่อีกพัก แล้วจึงนำเครื่องผมก็นำเครื่องกลับลงสนามตามพิกัด ระหว่างไปทางสนาม   มีเครื่องบินฝึกลำหนึ่งฝีนไล่ตามมาข้างหล้ง แล้วเร่งความเร็วมาบินตีคู่ มีเสียงทักทายทางวิทยุ่ว่า " มีความสุขกันจริงนะอ้ายถกลเดช"   " ซาริม " สาวิตรี อุทาน  เพราะจำเสียงมันได้  เธอตาโตกลัวมันจะแกล้ง " ระวังพี่ถกลเดช  มันจะแกล้ง "  ขาดคำไม่นาน  มันหักหัวเครื่องพุ่งเครื่องเข้ามา เครื่องเขา  เขาพลิกเครื่องหลบได้หวุดหวิด  มันตามเข้ามาอีก คราวนี้มันเร่งความเร็วขนึ้นหน้าแล้วปล่อยควันดำออกมากระจุกใหญ่บังการมองเห็นของเขา  ทำให้เขามองไม่เห็นอะไรจริง ๆ  เขาจึงต้องตัดสินใจเงยตีลังกาเปลี่ยนเป็นบินระด้บจ่อหลังม้นบ้าง สาวิตรีกดปุุ่มฉุกเฉินเรียกหอบัลตับการบินแจังให้ทราบว่ากำลังถูกเครื่องบินึกลำหนึ่ง ไล่ชนที่พิกัด.........พอบังคับการบิน ตรวจสอบทางมารตเรด้าห์พบว่ามีบินลำหนึ่งบินไล่เครื่องบินอีกลำหนึ่งจริงจึงสั่งการให้หยุดมิฉนั้นจะส่งเครื่องบินขับไล่ออกไประงับเหตุ  ซาริม ไม่ฟัง มันเร่งความเร็วที่เหนือกว่า เข้ามาคู่ขนานด้านบน ปล่อยอะไรอย่างหนึ่งที่มันทำเตรียมไว้ก่อน ลงไปที่เครื่องของสาวิตร  มันคือระเบิดมือ ถกลเดช มองเห็นก่อน จึง เหหัวเครื่องออกเป็นมุมฉาก แล้วเงยเครื่องขึ้นเป็นวงกลตั้งอีก แล้วดูท่าทีของมันว่าจะทำอย่างไกับเขาอีก  ระบิดมือที่มันทื้งลงมาระเบิดในความว่างเปล่่า " เก่งนี่ "มันวิทยุเข้ามา     แล้วบอกต่อ "วันหลังจะหนักกว่านี้" แล้วมันก็บ่ายหัวหนีไปอย่างรวดเร็ว สาวิตรีรีบรายงานศูนย์ฯว่าถูกเครื่องบินลำนั้น ขว้างด้วยระเบิดมือ  ศูนย์ส่งเครื่องบิยขนับไล่ออกติดตาม แต่เครืองบินลำนั้นบิบหลบเรดาห์  ไปได้จึงหาไม่พบ เหตุการ์ณนี้ ทำให้สาวิตรีอกสั่นขวัญหายอย่างมาก  ไม่นึกว่า ซาริม จะทำรุนแรงเช่นนี้  ทำใหเธอและญาติทุกคนรวมทั้ง ผม    จนต้องเก็บตัวไม่ไปไหนมาไหนนอกบ้านเป็นเดือน   จนคิดว่าคงไม่มีอะไรแล้ว  ในเดือนที่ 3 พวกเราจึงค่อยลองเชิงออกนอกบ้านระยะสั้น ๆ  แล้วเพิ่มเป็นใกลขึ้น  ใกลขึ้น ทั้งกลางวันกลางคืน ไม่มีอะไรมาคุกคามให้น่ากลัวอีกแล้ว  ก็ออกนอกบ้านเป็นปรกติอีกครั้งหนึ่ง  ขน่าวคราวของซาริมดูจะหายเงียบไป ขน่าวสุดท้ายที่พวกเขาทราบคือมันหนีกละบไปบ้านทีตะวันออกกลาง แล้วซื้อเครืองบินลำให่ม่แล้ว ตำรวจยืนยันว่า ถ้ามันกลับเข้ามาจะโดนจับแน่   พวกเราจึงลืมภัยที่จะเกิดจากมันไปจนสิ้น   หกเดือนให้หลัง ๆ เก็บตัวอย่างน่าเบื่อหน่ายโซนฝึกยิน วันหนึ่ง  สาวิตรีพาผมไป ห้าง เปิด 24 ชั่วโมงแห่งหนึ่ง  ที่นี่มีห้องตาข่ายลวดล้อมรอบทั้งด้านข้าง  ทุกด้าน กับด้านบน  ประตูมีสายยูให้เจ้าของคอบเตอรใส่กุญแจของตัวเองอีกดอกได้อีกด้วยกับมีกล้องวงจรปิดส่องดูอีกกล้องด้วย  ก่อนไป ผมเดินตรวจรอบ ๆ ห้องตาข่าย ตามนิสัยที่แก้ไม่หาย  และตอนเดินเข้าห้างก็ไม่เห็นมีใครเฝ้ามอง  ก็ค่อยเบาใจ  ขากลับก่อนไขกุญแจห้อง ผมเดินดูรอบ ๆอีกที  คราวนี้ พบว่า ลวดตาข่ายช่องล่างสุดช่องหนึ่งมีลักษณะจ่อกันไว้เฉย ๆ ไม่สนิท  เมื่อเข้าไปดูใกล้ ๆพบว่ามีแบบเดียวกันติดต่อกันไปอีกหลายช่อง  ที่หากอ้าออก  จะเป็นช่องว่าง  กว้างพอเพียงสำหรับ ให้คนลอดเข้าไปข้างในได้ สบาย ๆ  ผมใจเต้นตึกตักขึ้นมา หลังขยี้ตามองแล้วมองอีก  ก็เห็นเหมือนเดิม จึงลุกขึ้นไปไขกุญแจห้องตาข่าย บอกให้สาวิตรีเอาของไปเก็บในเครื่องก่อน  จากนั้นก็ตามเข้าไปดึงตัวสาวิตรี “ ผมลืมซื้อของบางอย่าง  กลับเข้าไปในห้างอีกที “ “ สาเมื่อยแล้วขอรอที่นี่เถอะ “ “ น่า ไปเถอะ ผมดึงแขนเธอเลย  เธอจึงต้องเดินตามผมอย่างเสียไม่ได้ เมื่อเข้าในกลุ่มคน ผมจึงบอกเธอว่า “ รั้วตาข่ายมีรอยถูกตัด ต้องมีคนเข้าไปทำอะไรที่เครื่องของเราแน่ “ “เธอทำตาโตด้วยความตกใจ ครามครัน” บอกผมว่า เธอรู้จักเจ้าของห้าง  ไปขอดูวงจรปิดเขาดีไหม  ผมว่า ดี  ไปเลย  เจ้าของห้างก็ใจสั่น เปิดวงจรปิดให้เราดูทันที พบว่ามีคนแต่งตัวในเครื่องแบบช่างของห้าง ไปที่นั่น 2 คน แล้วคนหนึ่ง ไปหมุนเลนส์กล้องวงจรปิดไปทางอื่น จึงไม่เห็นตอนตัดลวดตาข่าย   เจ้าของห้างจึงแจ้งตำรวจมาหาคัวคนทั้งสอง ซึ่งก็พบว่าเป็นช่างของห้างจริง ๆ แต่ไม่ทันจะได้สอบปากคำ ดกกลางคืน ๆนั้น คนทั้งสองถูกวางยาตาย  ส่วนตัวเครื่องเฮลิคอบเตอรนั้น  ทีมช่างของสาวิตรีที่มาตรวจสอบ พบว่า แผ่นกั้นถังน้ำม้นด้านล่างถูกถอดออก  ผืวถังน้ำมัน6ถูกเจาะเป็นรูกลมขนาด 6 หุน อุดไว้อย่างหลวม ๆ ด้วยจุดไม้ก๊อก มีเหล็กน๊อตโต ิ6 หุน ยาวยื่นออกมายาว  10  นิ้ว  ด้ามนอตนี้จะสั่นไปมาเมื่อเครื่องยนต์ติด ทุกครั้งทุกเวลาที่สั่นจะทำให้จุกไม้กอกคลายตัวออดกจากรู ยิ่งเครื่องติดนานเท่าไรจะทำให้ไม้ดอกหลุดในที่สุดเร็วเท่านั้น น้ำมันในถังจะไหลออกกลางอากาศจนหมดถัง จากการคาดหมายของทีมเครื่องที่มาตรวจสอบประมาณว่า  น้ำมันจะหมดเหนือทะเลสาบระหว่างทาง  จะทำให้เครื่องตกที่นี่ ตรวจสอบสาเหตุถายหลังได้ยาก เพราะหลักฐานทุกอย่างจะระเบิดกระจัดกระจายตกไปในน้ำไปหมด ดังนั้น  ผมกับสาวิตรีจึงรอดตายหวุดหวิด  ตำรวจแกะรอยจากมือถือของคนตายคนหนึ่ง ที่พูดกับหมายเลขหนึ่งก่อนตาย  เมื่อขอฟังเสียงสนทนากับหมายเลขนั้นจากบริษัทโทรศัพท์พบว่าเป็นเสียงว่าจ้างให้วางยา   รุ่งขึ้นผู้ใช้โทรศัพท์เลขหมายนั้นนั้นติดต่อกับมือถือของซาริม แจ้งผลการวางยาว่าสำเร็จแล้ว ขอนัดวันรับเงินค่าจ้าง ตำรวจติดตามไปจะจับกุม พบว่าชายคนนั้นถูกซาริมยิงบาดเจ็บสาหัส จึงกันผู้บาดเจ็บเป็นพยานสำคัญ  แล้วออกหมาย .........โ ปรดรออ่านตอน 23 ในคราวหน้า)

หมายเลขบันทึก: 646627เขียนเมื่อ 22 เมษายน 2018 08:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน 2018 06:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท