การสัมภาษณ์นักศึกษาใหม่:การสัมภาษณ์เน้นมิติวัฒนธรรม
การสัมภาษณ์นักศึกษาใหม่:การสัมภาษณ์เน้นมิติวัฒนธรรม
การตอบคำถามของนักศึกษาจากการสัมภาษณ์นักศึกษาใหม่เพื่อเข้าศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตร์ ปีการศึกษา 2561 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นการได้รับข้อมูลพื้นฐานของผู้ที่จะเข้าศึกษาในคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์เก็บข้อมูล วันที่ 20 เมษายน 2561 กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 22 คน ได้แบบเจาะจง เฉพาะห้องที่ผู้เก็บแบบสอบถามสัมภาษณ์ เป็นการสำรวจโดยการสังเกตและสัมภาษณ์ ในประเด็นต่างๆดังนี้
1.การตรวจร่างกาย
ข้อคำถาม
“ทราบผลการตรวจร่างกายหรือไม่”
“เมื่อป่วยเป็นโรค…ควรดูแลตัวเองอย่างไร”
กิจกรรม
ตรวจร่างกายนักศึกษาโดยนักศึกษา
2.ความรู้
ข้อคำถาม
“ความรู้เกี่ยวกับมหาวิทยาลัย/คณะพยาบาลศาสตร์”
“คนในครอบครัวป่วยด้วยโรคอะไร เพราะเหตุใด”
“คนในหมู่บ้านส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคอะไร เพราะเหตุใด”
“ชอบวิชาอะไรมากที่สุด เพราะเหตุใด”
“คะแนน Gat Pat เป็นอย่างไร เพราะเหตุใด”
3.บุคลิกภาพ
ข้อคำถาม
“การสระผม การตัดผมบ่อยหรือไม่”
กิจกรรม
สังเกตความมั่นในในการเดิน/การตอบคำถาม//การสบตา
4.ทัศนคติ
“เหตุผลของการเลือกเรียนพยาบาล”
“พยาบาลทำงานอย่างไร ”
“ภาพลักษณ์ของพยาบาลในมุมมองของท่าน”
“ความประทับใจในการรับบริการพยาบาล เพราะเหตุใด”
“ความไม่ประทับใจในการรับบริการพยาบาล เพราะเหตุใด หากเป็นพยาบาลจะแก้ไขอย่างไร”
“พยาบาลควรมีลักษณะอย่างไร ”
“นักศึกษาทำกิจกรรมในโรงเรียน/ในชุมชน หรือไม่ อย่างไร ”
กิจกรรม
สังเกตสีหน้า แววตา
ผลการสำรวจ
1.ข้อมูลทั่วไป พบว่า
ร้อยละ 95 นับถือศาสนาอิสลาม
ร้อยละ 90 มาจากโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา
ร้อยละ 95 เป็นสุภาพสตรี
ร้อยละ 95 เตรียม Portfolioมาแสดง
ร้อยละ 80 รอให้คณะกรรมการถามก่อนจะแนะนำตนเอง
ร้อยละ 100 เคาะประตูก่อนเข้าห้อง และกล่าวขออนุญาต
ร้อยละ 40 ไม่ได้นำปากกาเข้ามาในห้องสอบ
ร้อยละ 90 มีรอยยิ้มขณะตอบคำถาม
ร้อยละ 100 สบตาขณะตอบคำถาม
2.ด้านการตรวจร่างกาย พบว่า
ร้อยละ 95 มีสภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์
ร้อยละ 5 มีภาวะซีด
3. ด้านความรู้ พบว่า
คนในชุมชนป่วยด้วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง เนื่องจากการรับประทานอาหาร
เมื่อถามความรู้เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยจะตอบแบบไม่มั่นใจ
เมื่อถามความรู้เกี่ยวกับคณะพยาบาลศาสตร์ สามารถตอบชื่อคณบดีและประวัติความเป็นมาได้ โดยมีการอ่านเตรียมตัวจากเว็บไซด์
4.ด้านบุคลิกภาพ พบว่า
ร้อยละ 80 ยกมือสวัสดีคณะกรรมการ
ร้อยละ 80 ใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้ชัดเจน
ร้อยละ 80 ตอบคำถามได้ตรงประเด็น
ร้อยละ 90 สระผมทุกวัน ทำผมให้แห้งก่อนสวมผ้าคลุมศีรษะ
ร้อยละ 80 ตัดผมสั้นโดยตัดเองหรือบุคคลใกล้ชิดตัดให้ เช่น แม่ เพื่อนเพื่อให้ง่ายต่อการดูแลรักษาในผ้าคลุมศีรษะ
มีหนึ่งรายที่มีความสามารถในการตัดเย็บเสื้อนักเรียนเองโดยทำร่วมกับแม่
5.ด้านทัศนคติ พบว่า
ร้อยละ 80 เลือกเรียนพยาบาลเพราะเป็นความฝันตั้งแต่เด็กๆ มีหนึ่งรายที่กล่าวว่าการเรียนพยาบาลจะทำให้มีเกียรติและศักดิ์ศรี มีคุณค่าไม่น้อยหน้ากว่าผู้อื่น
ร้อยละ 80 เลือกเรียนพยาบาล มนร เพราะอยู่ใกล้บ้าน
ร้อยละ 80 การตัดสินใจเรียนพยาบาล มนร ด้วยตนเองผนวกกับความต้องการของพ่อแม่
ร้อยละ 50 มีประสบการณ์ในการเข้าค่ายไนติงเกล ที่จัดให้นักเรียนได้ร่วมกิจกรรมในโรงพยาบาลต่างๆในจังหวัดภาคใต้ ระหว่างปิดเทอม9. โดยมีประสบการณ์ในการวัดชีพจร วัดความดันโลหิต ได้พูดคุยกับผู้ป่วย
ความประทับใจในพยาบาล ประกอบด้วย ชุดสีขาวสวยสะอาด เรียบร้อย พูดจาไพเราะ มีความอดทน มีความขยัน มีความคล่องแคล่วว่องไว
ความประทับใจในพยาบาล ประกอบด้วย การใช้คำพูด
ความชอบในวิชาชีพ ประกอบด้วย สามารถนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เช่น การปฐมพยาบาล สามารถช่วยดูแลคนในครอบครัว
วิชาที่ชอบเรียน คือ ชีววิทยาและภาษาอังกฤษ
6.อื่นๆ ความสามารถพิเศษ
6.1 กีฬา :เล่นแบตมินตัน เทเบิ้ลเทนนิส วอลเล่ย์บอล
6.2 ความสามารถพิเศษ :ได้รับรางวัลการแข่งขันร้องเพลงสากล
6.3 ความสามารถในการสอนศาสนาในโรงเรียนตาฏีกาในพื้นที่เนื่องจากจบการศึกษาภาษาอาหรับ ระดับ 10
6.4 บรรยายธรรมภาษามลายู
6.5 การคิดโครงงานนวัตกรรมสิ่งเหลือใช้
6.6 การรวมกลุ่มเด็กๆในหมู่บ้านให้ทำกิจกรรมเพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
6.7 การรณรงค์การเก็บขยะในหมู่บ้าน
สรุป
1.ข้อมูลทั่วไป ผู้สมัครส่วนใหย่เป้นสุภาพสตรี แสดงถึง ภาพมิสฟลอเรน ไนติงเกลที่นังคงประทับอยู่ในใจของคนทั่วไป ว่าเป็นวิชาชีพเหมาะสมกับสุภาพสตรีที่ต้องอาศัยความละมุล ละเมียดในการเอาใจใส่ผู้ป่วย ดุจมารดาเอาใจใส่บุตร ทั้งที่ในยุคปัจุบัน สถานบริการสาธารณสุขมีความต้องการบุรุษพยาบาลเพิ่มขึ้น
2.ด้านการตรวจร่างกาย โดยผ่านการตรวจจากโรงพยาบาลและจากอาจารย์พยาบาล เป็นไปตามเงื่อนไที่กำหนดไว้ในหลักสูตรพยาบาลศาสตร์ที่กำหนดใช้กันทั้งประเทศ ซึ่งก่อนเข้าสอบสัมภาษณ์ได้ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ส่วนสูงของผู้สมัครทางไปรษณีย์ไม่เป้นไปตามเกณฑ์
3.ด้านความรู้ สะท้อนถึง การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารทัวไปในปัจจุบัน ที่สามารถเรียนรู้จากสื่อที่ทันสมัย การเลือกบริโภคสื่อที่มีความจำเป็นต้องมีความทันสมัยในยุคการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน เป็นสิ่งที่อาจารย์ต้องเป็นผู้กระตุ้นการเรียนรู้ให้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารมากยิ่งขึ้น
4.ด้านบุคลิกภาพ เป็นการแสดงออกซึ่งสะท้อยถึงวัฒนธรรมไทยที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีการแต่งกายที่สุภาพไม่ล่อแหลม ซึ่งเป็นความสวยงามที่ปรากฎในพื้นที่ สิ่งที่อาจารย์จะต้องสร้างคือความมั่นใจในการแสดงออก และภาวะผู้นำใให้เกิดขึ้นเพื่อจะสร้างภาวะผู้นำทางวิชาชีพพยาบาล
5.ด้านทัศนคติ ซึ่งเป้นความฝัน ความต้องการคือ ให้ผู้เข้าสัมภาษณ์สะท้อนความเป็นจริงมมากกว่าที่จะเป้นการต่อรองเพื่อให้ได้รับโอกาสเข้าศึกษา เนื่องจากหลายครั้งที่พบว่า สิ่งที่ผู้เรียนไม่ได้เลือกเอง ความมุ่งมั่น ความพยายามไปถึงจุดหมาย จะกลายเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาเมื่อเผชิญปัญหาความยากจากการเรียนวิชาชีพพยาบาล ซึ่งผู้เรียนอาจจะค้นพบตัวตนที่แท้จริงเมื่อต้องพบอุปสรรค
6.อื่นๆ เป็นความสามารถเฉพาะตัวของผู้เรียน ซึ่งสามารถมีกิจกรรมได้โดยสอดคล้องกับหลักศาสนาและก่อให้เกิดประโยชน์กับสังคมและตนเอง เป็นความสามารถที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าพื้นที่อื่น กลับเป็นดอกาสในการสร้างความงดงามในพื้นที่และวัฒนธรรม
ข้อเสนอแนะ
จากผลการสำรวจ ผู้สำรวจมีข้อเสนอแนะเพื่อมุ่งสู่การพัฒนา ดังนี้
1. การประชาสัมพันธ์อัตลักษณ์ของคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
2.การปฐมนิเทศนักศึกษาให้เข้าใจถีงเจตนารมย์ในการก่อตั้งมหาวิทยาลัย
3.การเผยแพร่ภาพลักษณืพยาบาล
4.การธำรงรักษาและต่อยอดความสามารถพิเศษของผู้เรียน
5.บทบาทของอาจารย์ในการกระตุ้นให้ผู้เรียนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารระดับพื้นที่ ภูมิภาค และระดับโลกมากยิ่งขึ้น
6.กิจกรรมทั้งในวิชา และกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่สร้างภาวะผู้นำทางพยาบาล
ความเห็น (1)
ได้ข้อมูลของผู้มาสอบเข้าทั้งหมดเลยนะครับ
ชอบใจการสอบแบบนี้ครับ