เดือนนี้..เมื่อปีที่แล้ว โรงเรียนจัดค่ายลูกเสือสำรอง..โดยเน้นกิจกรรมการเดินทางไกล ให้นักเรียนชั้น ป.๑ – ๔ ได้ร่วมกิจกรรม ในระหว่างทางที่เดินนั้น ครูฝึกได้จัดฐานการเรียนรู้ มีพี่นักเรียน ป.๕ – ๖ ที่เป็นลูกเสือสามัญ..เป็นพี่เลี้ยง..
ผลการจัดกิจกรรม..ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ประเมินจากความพึงพอใจของนักเรียน..อาจเป็นเพราะว่าโรงเรียนไม่เคยจัดมาก่อนก็เป็นได้..
ที่ดำเนินการมาได้ ก็เพราะมีครูผู้เชี่ยวชาญการฝึกอบรม มีความรู้เรื่องฐานและการสร้างค่าย..ที่เป็นเครื่องมือสำคัญของกิจกรรมลูกเสือ...
วันนี้..กิจกรรมวนมาอีกครั้ง ครูผู้เป็นหัวหน้าโครงการฯ ของดกิจกรรมการเดินทางไกล เพราะอากาศไม่เอื้ออำนวย และการเดินผ่านป่าและดงอ้อยในช่วงนี้ น่าเป็นห่วงสุขภาพของนักเรียน..ที่ต้องเตรียมตัวสอบปลายปี
นับเป็นช่วงเวลาที่ดี ที่โรงเรียนมีคณะทำงานด้านลูกเสือโดยตรง มีทั้งวุฒิภาวะและทักษะการสอน..ผมจึงมอบหมายให้วางแผนจัดกิจกรรมและแบ่งฐาน..ภายในบริเวณโรงเรียน เน้นความรู้ควบคู่นันทนาการ..ให้นักเรียนได้ประทับใจอีกครั้ง...
ครูฝึกมีความพร้อมมากกว่าปีที่แล้ว..เพราะได้ครูต้น..ทศพร หงส์โต..ครูวิชาเอกพลศึกษามาช่วย ครูหนึ่ง..จงจิต ปรัชญพฤทธิ์ ซึ่งเป็นหัวหน้าทีม..
ครูสาวอีกสองคน..ก็มีความรู้ความสามารถ ผ่านการฝึกอบรมมาแล้ว คือ ครูฝน กนิษฐา แซ่ลิ้ม และครูขวัญ..ขวัญจิรา แตงทอง..มาร่วมด้วยช่วยกันเป็นคณะทำงาน...
ผมสังเกตกิจกรรมมีความหลากหลายและมีความสนุกครื้นเครงมากกว่าปีที่แล้ว ถึงแม้บริเวณโรงเรียนจะชื้นแฉะไปสักนิด เพราะเมื่อวานฝนตกหนัก แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคมากมายนัก
เริ่มตั้งแต่..ลอดซุ้มเสือ..แบบฮาๆ พออออกมาก็โดนพี่แต่งแต้มสีสันที่ใบหน้า จนกลายเป็นตัวตลก..แต่บางคนก็ดูน่ารักไปอีกแบบ..
ในทุกฐานการเรียนรู้..จะมีเสียงเพลงประกอบท่าทางในการนำเข้าสู่บทเรียน ไม่เว้นแม้กระทั่งฐานปฐมพยาบาลและการผูกเงื่อนแบบต่างๆ..
ฐานการเรียนรู้ที่เร้าใจลูกเสือสำรองแบบสุดๆ คือฐานไต่บันไดลิง..ทุกคนพูดเหมือนกันหมดว่าไม่สูงและไม่เสียว..แต่พอปีนป่ายขึ้นไป..รู้สึกว่าเสียวและขาสั่นๆชอบกล
ผมก็เพิ่งสังเกตพบในวันนี้เอง..ว่าในบริเวณรอบรั้วโรงเรียนเล็กๆของผม มีความพร้อมในการจัดค่ายอยู่เหมือนกัน..ด้านหลังมีสวนสุขภาพและสนามเด็กเล่น ด้านหน้าเป็นศาลาและสนามกีฬากว้างใหญ่ มีต้นไม้ให้ร่มเงา..เวลาลูกเสือเดินไปเปลี่ยนฐานการเรียนรู้..จึงมองดูดีแบบครบวงจรกันเลยทีเดียว
ความรู้และประสบการณ์ที่นักเรียนได้รับ ผสมผสานความบันเทิง โดยครูดูแลอาหารว่างให้ในช่วงสาย ขนมและน้ำส้มแก้กระหาย ทำให้นักเรียนสดชื่น และพร้อมสำหรับการเรียนรู้ในทุกรายการ..
ผมรู้สึกชื่นชมและภูมิใจ..ที่ครูฝึก..ที่เป็นคณะทำงานทุกคน ร่วมมือกันจัดฐานในวันนี้ที่มีความหลากหลาย ไม่จำเป็นต้องจัดหลายวัน ก็สามารถบูรณาการได้ในหลายมิติ ที่พี่กับน้อง..ได้ปฎิสัมพันธ์ ได้ทำงานร่วมกัน ฝึกการแก้ปัญหา กล้าแสดงออก ฝึกการฟัง พูดและคิดวิเคราะห์ในแต่ละสถานการณ์..
วิชาลูกเสือ..จึงยิ่งใหญ่อยู่ได้ตลอดมาอย่างยาวนาน..เช่นเดียวกับโรงเรียนเล็กๆ ก็สามารถเติบโตได้..โดยประยุกต์ใช้ทักษะพื้นฐานด้านลูกเสือ..เป็นแกนด้านคุณธรรม..นำความซื่อสัตย์และวินัยให้เกิดขึ้นในตัวนักเรียน..
วันนี้..ผมจึงได้ค้นพบกิจกรรมดีๆมากมายในรายวิชาลูกเสือ..แต่ก็มีข้อสังเกตในแบบฉบับของครูโบราณ ที่ผ่านการฝึกลูกเสือแบบเก่ามา..ครั้งสุดท้ายแทบจะจำไม่ได้แล้ว...
ครูฝึกก็มักจะให้ร้องเพลง..ที่จำได้ขึ้นใจ ประมาณว่า..”ลูกเสือเขาไม่จับมือขวา...” และ “อยุธยาเมืองเก่าของเราแต่ก่อน...” ตลอดจน..”..ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี หากว่าใครไม่มีชาตินี้เอาดีไม่ได้...”
วันนี้..ได้ยินเด็กๆร้องพร้อมด้วยท่าทางประกอบ..”ไก่ย่างถูกเผา..ไก่ย่างถูกเผา....” เด็กสมัยนี้ช่างปรีชาสามารถจริงๆ...นึกว่า..จะมีแต่ครูปรีชาอย่างเดียว....
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑
ไม่มีความเห็น