การที่จะใช้ยานเคลื่อนออกไปดวงดาวนั้นๆ ก็ทำได้ยากเพราะอยู่ห่างหลายปีแสง
คือ 1 วินาที แสงยังเดินทางได้ 3 แสนกิโลเมตร แล้วใน 1 ปีแสงจะเดินทางได้ไกลแค่ไหน แล้ว มันเป็น 10 ปี 20 ปี 30 ปี หรือมากกว่านั้น ระยะทางที่ดวงดาวอยู่จะไกลแค่ไหน
ดังนั้นจึงมีวิธีการที่เรียกว่า แพรัลแลกซ์
คือ
http://www.lesacd.in.th/3/nature_ligth/star_properties/pararax.jpg
ระยะทางจากโลกถึงดวงอาทิตย์ เขาเรียกว่า 1 หน่วยดาราศาสตร์ หรือ 1 A.U. (150 ล้านกิโลเมตร)
แล้วพอโลกเคลื่อนที่รอบดวงอาทิตย์ได้ครึ่งรอบ หรือใช้เวลาครึ่งปี โลกก็จะอยู่ตรงข้ามตำแหน่งเดิม ลากเป็นรูปสามเหลี่ยม
เราก็จะทราบมุม แพรัลแลกซ์ P ได้ แต่ถ้ามีคนบอกมุมยอดทั้งหมด มันจะคือ 2p เราต้องใช้ p เดียว
โดย p คือมุมในหน่วย ฟิลิปดา นะ
สูตร การหา tan ปกติ คือ tan(p) = 1 A.U./d หรือ tan(p) = 1/d
โดย d คือระยะห่างระหว่างดาวที่จะหา กับดวงอาทิตย์ ซึ่งถ้าอยู่ไกลมาก ก็จะเสมือนว่าโลกกับดวงอาทิตย์ ก็เป็นจุดเดียวกัน ดังนั้น
ห่างดวงอาทิตย์ ก็เหมือนห่างโลก ใช้การประมาณเอา
โดยเมื่ออยู่ไกลมากมุม p ก็จะมีค่าน้อย ดังนั้นจึงประมาณอีก ว่า tan (p) = p
ดังนั้นจะได้ว่า p=1/d
หรือ d=1/p หรือพูดง่ายๆว่า เอา 1/(มุมที่เป็นฟิลิปดา) ก็จะได้ระยะทางเป็นหน่วย พาร์เซค โดยมุม 1 ฟิลิปดา นิยามว่าจะทำให้ได้ระยะทาง 1 พาร์เซค หรือเท่ากับ 3.26 ปีแสง (1 พาร์เซค = ระยะทาง 3.26 ปีแสง)
ดังนั้นต้องเอาค่า d ที่ได้คูณด้วย 3.26 หน่วยจึงเป็น ปีแสง
หรือเอารวบรัด d=3.26/มุมแพรัลแลกซ์(ฟิลิปดา) หน่วยปีแสง
หรือ ระยะทางปีแสง d=3.26/p
หลายคนคง งง ว่า ปีแสงคือเวลา แต่ไม่ใช่ ปีแสงคือระยะทาง ที่แสงเดินทางได้ในเวลา 1 ปี
และ พาร์เซค ก็คือหน่วยระยะทางเช่นกัน โดย 1 พาร์เซค = 3.26 ปีแสง
(โดยที่ 1 องศา = 60 ลิบดา , 1 ลิบดา = 60 ฟิลิบดา (arc second))
.(การถ่ายภาพห่างกัน เป็นระยะ 6 เดือนจะได้ค่ามุม เป็น 2p)
.
.
.
ไม่มีความเห็น