เมื่อสัก 3 เดือนก่อน คุยผ่าน msn กับเพื่อนสนิทสองสามคน ที่คบหากันมา 20 กว่าปี ตั้งแต่สมัยเป็นเด็กมัธยม หัวข้อสนทนาวันนั้นวนไปมาที่เรื่องของผม (ที่ไม่ใช่ I แต่เป็นผมที่เป็นเซลล์ตายแล้วบนหัวของเรา)
อ่านจากตำราเล่มไหนๆ มาก็จำแหล่งไม่ได้ แต่จากหลายเล่มยืนยันประเด็นของ "ผม" ไว้น่าสนใจ เป็นต้นว่า
สำหรับตัวเอง ซึ่งเป็นคนไม่รักสวยรักงามอย่างคนทั่วๆ ไป เป็นคนที่สัก 1-2 ปี ค่อยเข้าร้านตัดผมสักครั้งหนึ่ง เข้าไปเพื่อตัดเล็มผมเท่านั้น การสระผม จะทำด้วยตนเอง สระก็ใช้ยาสระผมธรรมดาๆ ครีมนวดก็ขี้เกียจใส่ จะหมักผม จะสปงสปานั่น เลิกพูดไปเลย ขี้เกียจและเสียเวลาเป็นอย่างมาก สมัยยังวัยรุ่น อยากดัดผมแบบหลอดลอน ใจกล้าขออนุญาตแม่สำเร็จ ไปทำการดัดกว่าจะเสร็จใช้เวลา 4 ชั่วโมง นั่งจนก้นเป็นเหน็บ เหม็นน้ำยาดัดผม ถึงบ้านไมเกรนรับประทาน อาเจียนไปหลายตลบ เลยเข็ดอย่างถาวร
น้องที่รู้จักกันบอกว่า ถ้ามีผู้หญิงอย่างพี่สักครึ่งประเทศ ร้านทำผมเปิดไม่ได้แน่ๆ
ย้อนกลับมาเรื่องผมหงอกที่เริ่มไว้ในตอนแรก จำที่ไปที่มาไม่ได้ แต่จำได้ว่ามาสรุปสุดท้ายกันว่า ผมใครหงอกกี่เส้นแล้ว โถ... อย่าเพิ่งปลงอนิจจังกับพวกเราเลยค่ะ คนที่เคยผมดำเข้ม จู่ๆ มามีผมขาวแซม ก็ย่อมวิตกจริตบ้างเป็นธรรมดา ถ้าต่อมาหงอกสักครึ่งหัว ก็คงเลิกพูดไปแล้วน่ะค่ะ
ดิฉันเกทับเพื่อนฝูงไปว่า "เฮ้ย ของเราหงอกเส้นเดียวเอง เพิ่งถอนไปเมื่อวานนี้เอง" เพื่อนฝูงก็ซูฮกในความผมดำของเราดี แต่พอกลับบ้าน ไปคุ้ยๆ ผมเล่น ดิฉันถึงกับตกใจ ทำไมเรามีผมหงอกตั้ง 4 เส้นแน่!!!!!! ทำไมเป็นอย่างนี้ไปได้
กิจกรรมคุ้ยถอนผมจึงเกิดขึ้น และเป็นกิจกรรมต่อเนื่องเพราะหวาดระแวงว่า ผมหงอกมันจะงอกเงยเจริญเติบโตบนหัวเราโดยเราไม่รู้ตัวอีก
จากวันนั้นถึงวันนี้ จำนวนเส้นหงอกยังไม่เพิ่ม แต่ถอนไปมันก็ยังงอก คงจะต้องถอนกันไปจนกว่าจะตายจากกันไปข้างหนึ่ง แต่แล้วมันก็ก่อให้เกิดปัญหาคาใจ ที่อยากได้รับคำตอบว่า
ไม่มีความเห็น