จากประสบการณ์ที่ผมเป็นอาจารย์ ซึ่งสอนมาเป็นปีที่ 7 แล้ว และเคยได้รับการอบรมเกี่ยวกับการพัฒนาการสอน ซึ่งเมื่อเข้าอบรมทุกครั้งวิทยากรจะบอกเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการสอนของเขา แต่ผมมีความคิดเห็นเป็นการส่วนตัวว่าเด็กนักเรียนที่ผมสอนอยู่นั้นมีปัญหาไม่เหมือนกับวิทยากรที่ได้มาอบรมให้ ซึ่งปัญหานั้นก็คือ นักเรียนส่วนใหญ่จะคิดเป็นภาษาท้องถิ่น(มาลายู)เหมือนกับเราเวลาที่จะพูด Eng เราจะต้องคิดเป็นภาษาไทยก่อนแล้วจึงแปลเป็นภาษาอังกฤษอีกรอบ แล้วค่อยพูดออกมาซึ่งจะทำให้เด็กสื่อสารกับผู้สอนไม่ราบรื่น และนักเรียนจะพูดภาษาไทยไม่ชัดทำให้นักเรียนไม่ค่อยที่จะกล้าพูด จึงค่อนข้างจะเป็นปัญหาในการเรียนการสอน และคิดว่าเราน่าจะแก้ปัญหาให้นักเรียนสามารถใช้ภาษาไทยได้ เนื่องจากเมื่อนักเรียนจบการศึกษาไปแล้วจะไปศึกษาต่อที่อื่น และต้องใช้ภาษาไทยมากจะทำให้มีปัญหาในการเรียน และผมได้ไปอ่านหนังสือเล่มหนึ่งเรื่อง โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง ซึ่งเป็นหนังสือวรรณกรรมเยาวชนของนักเขียนชาวญี่ปุ่น ที่ขายดีและได้แปลหลายภาษา นักเขียนชื่อคุณคุโรยานางิ เท็ตสึโกะ และแปลโดยคุณผุสดี นาวาวิจิตร ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ผีเสื้อ เนื้อหาจะเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งชื่อโต๊ะโตะจัง ซึ่งถูกไล่ออกจากโรงเรียนตั้งแต่ยังอยู่ ป.1เนื่องจากมีพฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำ ทำให้รบกวนเด็กนักเรียนคนอื่นๆในชั้นเรียน เมื่อได้มาอยู่โรงเรียนแห่งใหม่ชื่อโรงเรียน โทโมเอ ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนเด็กพิเศษ และมีวิธีการสอนไม่เหมือนกับโรงเรียนอื่นซึ่งสอนให้นักเรียนมีอิสระเป็นธรรมชาติในความคิดของเด็ก(เป็นหนังสือที่ดีจริงๆ ถ้ามีโอกาสอยากให้ลองซื้อมาอ่านดูนะครับ) ซึ่งเมื่อผมได้อ่านแล้วก็รู้ว่าเป็นหนังสือที่อ่านง่าย เลยนำเอามาให้นักเรียนฝึกอ่านก่อนที่ผมจะสอนทุกวันเพื่อเป็นการให้นักเรียนได้ใช้ภาษาไทย และจึงได้รับรู้ว่านักเรียนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนไทยพุทธหรือมุสลิมจะมีปัญหาในการอ่านหนังสืออยู่ ซึ่งบางคำเป็นคำง่ายๆเช่น รื่นเริง หงึกๆ ก็อ่านไม่ออก ผมจึงอยากทราบว่านักเรียนที่อื่นมีปัญหาเหมือนกับนักเรียนของผมหรือไม่
ปล.ผมอาจจะเขียนไม่ค่อยดีนัก เพราะไม่ค่อยเขียนอะไรยาวๆ ถ้ามีท่านใดมาอ่านแล้วรู้สึกวกวนต้องขออภัยด้วยครับคุณซินคะ
ดิฉันนึกแว่บเป็นคำถามขึ้นมาว่า ถ้าคุณครูหรืออาจารย์เข้าใจภาษายาวี จะช่วยให้การเรียนการสอนราบรื่นขึ้นอีกนิดหรือไม่ และไม่ทราบว่าทางหน่วยงานราชการ เคยจัดอบรมให้บ้างไหม
ถ้าคุณซินพอจะมีข้อมูล มีเวลาว่างเมื่อไร รบกวนตอบเป็นวิทยาทานนิดนะคะ ขอให้คุณซินทำงานอย่างมีความสุขนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ตอบคุณsea anemone ครับ
ถ้าครูเข้าใจภาษายาวีก็มันก็เป็นสิ่งที่ดีนะครับแต่เราอย่าลืมว่าเด็กของเราจบจากที่นี้แล้วต้องไปเรียนต่อที่อื่นเช่นที่กรุงเทพ ซึ่งจะไม่ได้ใช้ภาษายาวีในการเรียนเลยและจะเป็นปัญหาสำหรับการเรียนของเด็กเองครับ ส่วนที่ถามมาว่ามีการจัดอบรมภาษายาวีหรือเปล่านั้น เท่าที่ผมทราบทางวิทยาลัยชุมชนนราธิวาสเคยเปิดคอร์สอบรม ตอนเย็นๆ แต่ปัจจุบันนี้ไม้ทรายว่ายังมีอีกหรือเปล่า
ถามมีข้อสงสัยต่างๆที่ผมพอจะหาคำตอบให้ได้ ยินดีเสมอครับ
ซิน
ขอบคุณค่ะคุณซิน ดิฉันเข้าใจและเห็นด้วยอย่างยิ่งเรื่องความจำเป็นของเด็กๆในการรู้ภาษาที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตมากกว่าหนึ่งภาษา
สำหรับที่ที่ดิฉันอยู่ก็มีผู้เรียนที่ใช้ภาษายาวีเป็นภาษาหลักจำนวนมาก ดิฉันเองก็ทราบเฉพาะภาษาไทย เวลาสื่อสารในการเรียนการสอน ดิฉันรู้สึกว่าเมื่อพูดเรื่องที่ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเป็นภาษาไทย บางครั้งความหมายก็ส่งเข้าไปไม่ถึงในใจเขา จึงอยากเข้าใจภาษาหลักที่เด็กๆเขาใช้อยู่ เพื่อจะลองเพียรพยายามสื่อสารความหมายที่เราคิดจะสื่อสาร ด้วยภาษา"ชุด"ที่เขาใช้ ดิฉันคิดเอาเองว่าน่าจะทำให้เกิดความเข้าใจร่วมกันได้ในบางเรื่อง
แต่สารภาพตรงๆว่าไม่ทราบจะเริ่มต้นตรงไหนเหมือนกันค่ะ กะว่าจะขอเด็กๆตรงๆเลยว่าหนูจะช่วยสอนภาษาให้ครูหน่อยได้ไหมจ๊ะ ครูจะได้เข้าใจความรู้สึกของหนูดีขึ้นกว่าเดิม และจะได้พยายามสอนให้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วย
ไม่รู้เด็กๆจะใจดียอมสอนให้ครูรึปล่าวซิคะเนี่ย :-)
ผมว่าเด็กคงจะยินดีที่จะสอนให้นะครับเพียงแต่ว่าตัวเราเองจะไม่สามารถเข้าใจเหมือนกับภาษาไทยหลอกครับ เหมือนเวลาที่เราพูดภาษาอังกฤษนะแหละครับ แต่ผมเองก็จะพยายามนะครับที่จะพูดภาษายาวีกับเด็กนะครับแต่ว่าพูดกันเล่นเวลาไม่ได้สอน ไม่ทราบว่าคุณสอนอยู่ที่ไหนเหรอครับ ถ้าบอกไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ยังงัยก็เอาใจช่วยคุณนะครับ พยามยามเพื่อเยาวชนของเราเถอะครับ เพราะเด็กพวกนี้แหละที่จะเป็นอนาคตของชาติ