ประสบการณ์ของครู 3 จังหวัดชายแดน


การอ่านหนังสือของเด็ก 3 จังหวัดชายแดน

จากประสบการณ์ที่ผมเป็นอาจารย์ ซึ่งสอนมาเป็นปีที่ 7 แล้ว และเคยได้รับการอบรมเกี่ยวกับการพัฒนาการสอน ซึ่งเมื่อเข้าอบรมทุกครั้งวิทยากรจะบอกเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการสอนของเขา แต่ผมมีความคิดเห็นเป็นการส่วนตัวว่าเด็กนักเรียนที่ผมสอนอยู่นั้นมีปัญหาไม่เหมือนกับวิทยากรที่ได้มาอบรมให้ ซึ่งปัญหานั้นก็คือ นักเรียนส่วนใหญ่จะคิดเป็นภาษาท้องถิ่น(มาลายู)เหมือนกับเราเวลาที่จะพูด Eng เราจะต้องคิดเป็นภาษาไทยก่อนแล้วจึงแปลเป็นภาษาอังกฤษอีกรอบ แล้วค่อยพูดออกมาซึ่งจะทำให้เด็กสื่อสารกับผู้สอนไม่ราบรื่น และนักเรียนจะพูดภาษาไทยไม่ชัดทำให้นักเรียนไม่ค่อยที่จะกล้าพูด จึงค่อนข้างจะเป็นปัญหาในการเรียนการสอน และคิดว่าเราน่าจะแก้ปัญหาให้นักเรียนสามารถใช้ภาษาไทยได้ เนื่องจากเมื่อนักเรียนจบการศึกษาไปแล้วจะไปศึกษาต่อที่อื่น และต้องใช้ภาษาไทยมากจะทำให้มีปัญหาในการเรียน และผมได้ไปอ่านหนังสือเล่มหนึ่งเรื่อง โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง ซึ่งเป็นหนังสือวรรณกรรมเยาวชนของนักเขียนชาวญี่ปุ่น ที่ขายดีและได้แปลหลายภาษา นักเขียนชื่อคุณคุโรยานางิ  เท็ตสึโกะ และแปลโดยคุณผุสดี นาวาวิจิตร ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ผีเสื้อ เนื้อหาจะเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งชื่อโต๊ะโตะจัง ซึ่งถูกไล่ออกจากโรงเรียนตั้งแต่ยังอยู่ ป.1เนื่องจากมีพฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำ ทำให้รบกวนเด็กนักเรียนคนอื่นๆในชั้นเรียน เมื่อได้มาอยู่โรงเรียนแห่งใหม่ชื่อโรงเรียน โทโมเอ ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนเด็กพิเศษ และมีวิธีการสอนไม่เหมือนกับโรงเรียนอื่นซึ่งสอนให้นักเรียนมีอิสระเป็นธรรมชาติในความคิดของเด็ก(เป็นหนังสือที่ดีจริงๆ ถ้ามีโอกาสอยากให้ลองซื้อมาอ่านดูนะครับ) ซึ่งเมื่อผมได้อ่านแล้วก็รู้ว่าเป็นหนังสือที่อ่านง่าย เลยนำเอามาให้นักเรียนฝึกอ่านก่อนที่ผมจะสอนทุกวันเพื่อเป็นการให้นักเรียนได้ใช้ภาษาไทย และจึงได้รับรู้ว่านักเรียนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนไทยพุทธหรือมุสลิมจะมีปัญหาในการอ่านหนังสืออยู่   ซึ่งบางคำเป็นคำง่ายๆเช่น รื่นเริง หงึกๆ ก็อ่านไม่ออก ผมจึงอยากทราบว่านักเรียนที่อื่นมีปัญหาเหมือนกับนักเรียนของผมหรือไม่

ปล.ผมอาจจะเขียนไม่ค่อยดีนัก เพราะไม่ค่อยเขียนอะไรยาวๆ ถ้ามีท่านใดมาอ่านแล้วรู้สึกวกวนต้องขออภัยด้วยครับ
หมายเลขบันทึก: 64242เขียนเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2006 20:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 พฤษภาคม 2012 02:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

คุณซินคะ

ดิฉันนึกแว่บเป็นคำถามขึ้นมาว่า ถ้าคุณครูหรืออาจารย์เข้าใจภาษายาวี  จะช่วยให้การเรียนการสอนราบรื่นขึ้นอีกนิดหรือไม่ และไม่ทราบว่าทางหน่วยงานราชการ เคยจัดอบรมให้บ้างไหม

ถ้าคุณซินพอจะมีข้อมูล มีเวลาว่างเมื่อไร รบกวนตอบเป็นวิทยาทานนิดนะคะ   ขอให้คุณซินทำงานอย่างมีความสุขนะคะ

ขอบคุณค่ะ

 

ตอบคุณsea anemone ครับ

ถ้าครูเข้าใจภาษายาวีก็มันก็เป็นสิ่งที่ดีนะครับแต่เราอย่าลืมว่าเด็กของเราจบจากที่นี้แล้วต้องไปเรียนต่อที่อื่นเช่นที่กรุงเทพ ซึ่งจะไม่ได้ใช้ภาษายาวีในการเรียนเลยและจะเป็นปัญหาสำหรับการเรียนของเด็กเองครับ ส่วนที่ถามมาว่ามีการจัดอบรมภาษายาวีหรือเปล่านั้น เท่าที่ผมทราบทางวิทยาลัยชุมชนนราธิวาสเคยเปิดคอร์สอบรม ตอนเย็นๆ แต่ปัจจุบันนี้ไม้ทรายว่ายังมีอีกหรือเปล่า

ถามมีข้อสงสัยต่างๆที่ผมพอจะหาคำตอบให้ได้ ยินดีเสมอครับ

ซิน

ขอบคุณค่ะคุณซิน  ดิฉันเข้าใจและเห็นด้วยอย่างยิ่งเรื่องความจำเป็นของเด็กๆในการรู้ภาษาที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตมากกว่าหนึ่งภาษา  

สำหรับที่ที่ดิฉันอยู่ก็มีผู้เรียนที่ใช้ภาษายาวีเป็นภาษาหลักจำนวนมาก  ดิฉันเองก็ทราบเฉพาะภาษาไทย     เวลาสื่อสารในการเรียนการสอน     ดิฉันรู้สึกว่าเมื่อพูดเรื่องที่ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเป็นภาษาไทย  บางครั้งความหมายก็ส่งเข้าไปไม่ถึงในใจเขา    จึงอยากเข้าใจภาษาหลักที่เด็กๆเขาใช้อยู่ เพื่อจะลองเพียรพยายามสื่อสารความหมายที่เราคิดจะสื่อสาร  ด้วยภาษา"ชุด"ที่เขาใช้  ดิฉันคิดเอาเองว่าน่าจะทำให้เกิดความเข้าใจร่วมกันได้ในบางเรื่อง

แต่สารภาพตรงๆว่าไม่ทราบจะเริ่มต้นตรงไหนเหมือนกันค่ะ    กะว่าจะขอเด็กๆตรงๆเลยว่าหนูจะช่วยสอนภาษาให้ครูหน่อยได้ไหมจ๊ะ  ครูจะได้เข้าใจความรู้สึกของหนูดีขึ้นกว่าเดิม  และจะได้พยายามสอนให้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วย

 ไม่รู้เด็กๆจะใจดียอมสอนให้ครูรึปล่าวซิคะเนี่ย :-)

  

 

ผมว่าเด็กคงจะยินดีที่จะสอนให้นะครับเพียงแต่ว่าตัวเราเองจะไม่สามารถเข้าใจเหมือนกับภาษาไทยหลอกครับ เหมือนเวลาที่เราพูดภาษาอังกฤษนะแหละครับ  แต่ผมเองก็จะพยายามนะครับที่จะพูดภาษายาวีกับเด็กนะครับแต่ว่าพูดกันเล่นเวลาไม่ได้สอน ไม่ทราบว่าคุณสอนอยู่ที่ไหนเหรอครับ ถ้าบอกไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ยังงัยก็เอาใจช่วยคุณนะครับ พยามยามเพื่อเยาวชนของเราเถอะครับ เพราะเด็กพวกนี้แหละที่จะเป็นอนาคตของชาติ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท