Baldrige Winners 2017


มีธุรกิจขนาดเล็กสองแห่ง เมืองหนึ่งแห่ง และองค์กรดูแลสุขภาพสองแห่ง เป็นผู้ได้รับรางวัล Malcolm Baldrige National Quality Award ประจำปี 2017

Baldrige Winners 2017

พันเอก มารวย  ส่งทานินทร์

[email protected]

23 พฤศจิกายน 2560

            ผู้ที่สนใจเอกสารนี้แบบ PowerPoint (PDF file) สามารถ Download เอกสารได้ที่ https://www.slideshare.net/maruay/baldrige-winners-2017-82453640

2017 Baldrige Award Winners

  • รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ Wilbur Ross ได้ประกาศว่า มีธุรกิจขนาดเล็กสองแห่ง เมืองหนึ่งแห่ง และองค์กรดูแลสุขภาพสองแห่ง เป็นผู้ได้รับรางวัล Malcolm Baldrige National Quality Award ประจำปี 2017
  • ผู้ได้รับรางวัล ตั้งอยู่ในห้ามลรัฐที่แตกต่างกัน รวมถึงผู้ชนะรางวัล Baldrige รายแรกจากฮาวาย ผู้ชนะรางวัลซ้ำจากอลาสกา และบริษัทสาธารณูปโภคเป็นแห่งแรก
  • มีผู้สมัคร 24 รายที่ได้รับการประเมินในขั้นตอนแรกของกระบวนการคัดเลือก คือ 12 แห่งจากองค์กรด้านการดูแลสุขภาพ 5 แห่งเป็นหน่วยงานการศึกษา 4 แห่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรและ 3 แห่งคือธุรกิจขนาดเล็ก
  • สำหรับการเข้าเยี่ยมชมสถานที่ประกอบการ กรรมการตัดสินได้เลือกองค์กรดังนี้คือ การดูแลสุขภาพ 7 แห่ง  ในด้านการศึกษา 3 แห่ง ไม่หวังผลกำไร 2 แห่ง และธุรกิจขนาดเล็ก 2 แห่ง โดยทีมเยี่ยมชม ประกอบด้วยผู้ตรวจประเมินและผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขานั้น ๆ
  • ผู้สมัครเข้ารับรับรางวัล Baldrige จะได้รับการประเมินในเจ็ดด้านที่กำหนดโดยกรอบความเป็นเลิศคือ: การนำองค์กร กลยุทธ์ ลูกค้า การวัดการวิเคราะห์และการจัดการความรู้ บุคลากร การปฏิบัติการ และผลลัพธ์
  • องค์กรสามารถสมัคร เพื่อขอรับรางวัลในหนึ่งในหกประเภท ได้แก่ การผลิต การบริการ ธุรกิจขนาดเล็ก การดูแลสุขภาพ การศึกษา และการไม่แสวงหากำไร (รวมทั้งหน่วยงานของรัฐ)
  • รางวัล Baldrige Award ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1987 และไม่ได้ระบุรางวัลสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เฉพาะเจาะจง มีผู้ได้รับรางวัลจนถึงปัจจุบัน 118 รางวัล จาก 110 องค์กร (รวมถึงมีผู้รับซ้ำแปดองค์กร)
  • การมอบรางวัล Baldrige 2017 จะทำพิธีในเดือนเมษายน ค.ศ. 2018 ระหว่างการจัดงาน Quest for Excellence® เป็นครั้งที่ 30 ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองบัลติมอร์ มลรัฐแมรี่แลนด์

องค์กรที่ได้รับรางวัลในปี 2017 ประกอบด้วย

  • Bristol Tennessee Essential Services, Bristol, TN, small business sector
  • Stellar Solutions, Palo Alto, CA, small business sector
  • City of Fort Collins, Fort Collins, CO, nonprofit sector
  • Castle Medical Center, Kailua, HI, health care sector
  • Southcentral Foundation, Anchorage, AK, health care sector

องค์กรที่มีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (รางวัลเฉพาะด้าน)

  • Donor Alliance, Denver, CO, Measurement, Analysis and Knowledge Management (category 4) and Operations (category 6)
  • Howard Community College, Columbia, MD, Customers (category 3) and Operations (category 6)
  • Methodist Healthcare System of San Antonio, TX, Leadership (category 1) and Strategy (category 2)
  • Tri County Tech, Bartlesville, OK, Leadership (category 1) and Workforce (category 5)

 

Achievements by the 2017 Baldrige Award Winners

1. The City of Fort Collins

  • City of Fort Collins, Colorado เป็นเทศบาลเมืองที่ให้บริการเต็มรูปแบบ ภายใต้กฎกติกาการปกครองของสภาท้องถิ่น
  • เมือง Fort Collins เป็นเมืองที่ติดอันดับสูงสุด 10% ของประเทศ สำหรับมาตรการดังต่อไปนี้: สถานที่ที่ดีที่สุดในการอยู่อาศัย สถานที่ที่ดีที่สุดในการทำงาน คุณภาพของวัฒนธรรมและการพักผ่อนหย่อนใจ โอกาสในการหางาน คุณภาพอากาศ และมีทิวทัศน์น่าสนใจ
  • เป็นอันดับ 1 ในด้านคุณภาพน้ำดื่ม และการเตรียมพร้อมในกรณีฉุกเฉิน
  • ผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ ที่อยู่อาศัย การลดสิ่งรบกวน การวางแผน การเดินทาง การให้บริการพื้นที่ทั่วไป นันทนาการและสิ่งอำนวยความสะดวก สวนสาธารณะ  ธรรมชาติและเส้นทางตามธรรมชาติ ประปา ไฟฟ้า กักเก็บน้ำฝนเพื่อสาธารณูปโภค โครงการทรัพยากรธรรมชาติ การปกครองส่วนท้องถิ่น ตำรวจ โครงการขนส่งสาธารณะ และทรัพยากรต่าง ๆ
  • มีพนักงาน 2,408 คน และอาสาสมัคร 2,190 คน
  • อันดับความน่าเชื่อถือของ City of Fort Collins คือ "Aaa" จาก Moody's Investors Service ซึ่งในระดับประเทศมีอยู่เพียง 4% เท่านั้น ช่วยให้เมืองจ่ายดอกเบี้ยน้อยลง ในการออกตราสารหนี้
  • เมืองมีแผนการทางการเงิน ที่ยึดตามงบประมาณสำหรับผลลัพธ์ที่พนักงานทุกระดับรวมถึงประชาชน มีความเกี่ยวข้อง กระบวนการนี้ช่วยให้เมืองสามารถปรับการคาดการณ์ทางการเงิน ตามความเป็นจริงของเงินทุนที่เพียงพอ
  • การใช้พลังงานของชุมชนลดลงประมาณร้อยละ 12 ต่อปี ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่ประชากรของเมืองเติบโตขึ้นประมาณร้อยละ 7 ในช่วงเวลาเดียวกัน

2. Bristol Tennessee Essential Services

  • Bristol Tennessee Essential Services เป็นบริษัทผู้ให้บริการสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้าและไฟเบอร์ ที่ให้บริการลูกค้า 33,000 ราย โดยมีพนักงานเพียง 68 คน
  • ให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 10 กิกะบิตต่อวินาที ทำให้ลูกค้าสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 70 ล้านเหรียญในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา และมีระดับความพึงพอใจของลูกค้าใกล้เคียง 100 ###/span#< ในหลายผลิตภัณฑ์รวมถึงมาตรการด้านประสิทธิภาพ
  • ความน่าเชื่อถือ คือการวัดประสิทธิภาพที่สำคัญ และเป็นปัจจัยสำคัญในการประสบความสำเร็จสำหรับ BTES
  • ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ การลดเวลาการหยุดทำงาน (เวลาที่ลูกค้าต้องหยุดรอ) มีเป้าหมายที่ต้องใช้เวลาน้อยกว่า 60 นาทีต่อลูกค้าต่อปี ซึ่งทำได้เกินเป้าหมายกว่าสามปีที่ผ่านมา เกณฑ์มาตรฐานนี้ มีประสิทธิภาพเหนือกว่าอุตสาหกรรมระดับภูมิภาค และระดับเฉลี่ยที่ดีที่สุด (อยู่ที่ 90-100 นาที)
  • ด้วยการใช้ระบบ Automated Switching System ที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้ BTES ลดเวลาหยุดทำงานในปี ค.ศ. 2016 เป็น 46 นาทีต่อลูกค้า
  • ผลลัพธ์ ความพร้อมให้บริการเฉลี่ย (Average Service Availability Index: ASAI) ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญของ BTES มีประสิทธิภาพสูงกว่าในการเปรียบเทียบของภูมิภาคทั้งหมดและในระดับเดียวกัน โดยมีอัตราร้อยละ 99.99 จากปี ค.ศ. 2014 ถึงปี 2016
  • อัตราการธำรงรักษาพนักงานของบริษัท เพิ่มขึ้นเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอุตสาหกรรมอยู่ที่ 91 เปอร์เซ็นต์ และค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมในประเทศอยู่ที่ 82 เปอร์เซ็นต์

3. Stellar Solutions

  • Stellar Solutions เป็นธุรกิจขนาดเล็กที่มีผู้หญิงเป็นเจ้าของ เชี่ยวชาญด้านเทคนิคและการจัดการโครงการอวกาศ ที่มีวิสัยทัศน์ในการช่วยให้พนักงานทุกคน บรรลุงานในฝันของตน
  • รายได้เติบโตขึ้นจากอัตราร้อยละ 1.18 ในปี ค.ศ. 2013 เป็นร้อยละ 6.81 ในปี ค.ศ. 2016 และในช่วงปี ค.ศ. 2013 ถึง 2016 ร้อยละ 100 ของลูกค้าระบุว่าอยากแนะนำบริษัทให้กับคนอื่น
  • Stellar Solutions เป็นผู้ให้บริการระดับโลกด้านระบบวิศวกรรม การบูรณาการ และด้านการจัดการโปรแกรมในโครงการภาครัฐและเชิงพาณิชย์ ที่เกี่ยวข้องกับอวกาศ บริษัทสนับสนุนทุกขั้นตอนในการพัฒนาและดำเนินการระบบอวกาศ รวมถึงโครงการข่าวกรองที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศ โปรแกรมการสื่อสารโทรคมนาคมระหว่างประเทศ รูปภาพในเชิงพาณิชย์ และภารกิจเกี่ยวกับดาวเคราะห์และวิทยาศาสตร์ทางภาคพื้นดินของนาซ่า
  • วิสัยทัศน์ของบริษัทตั้งแต่เริ่มก่อตั้งคือ ความสอดคล้องของตำแหน่งงานในฝันของพนักงานกับความต้องการที่สำคัญของลูกค้า และพนักงานกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของที่มีอยู่ 175 คน ทำงานในสถานที่ของลูกค้า ที่มีการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง
  • ในปี ค.ศ. 2016 รายได้อยู่ที่ 46.6 ล้านดอลลาร์
  • Stellar ได้รับการเสนอชื่อเป็น สถานที่น่าทำงานยอดเยี่ยม โดยนิตยสาร ฟอร์จูน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2014-2017 ในบรรดามาตรการด้านสภาพแวดล้อมของพนักงาน มีอันดับสูงกว่าร้อยละ 95 ด้านความพึงพอใจต่อผลประโยชน์ การรับรู้ของพนักงานถึงสิ่งอำนวยความสะดวก (ที่ก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี) และการรับรู้ของพนักงานเกี่ยวกับความรู้สึกทางร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ในการทำงาน
  • เกือบร้อยละ 100 ในการสำรวจพนักงาน 150  คน พบว่าพวกเขาได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสม ผู้บริหารมีการแจ้งเพื่อทราบ และผู้บริหารระบุความคาดหวังของผู้บริหารได้ชัดเจน
  • ในช่วงปี ค.ศ. 2013-2016 ร้อยละ 100 ของลูกค้าที่ทำการสำรวจกล่าวว่า พวกเขาอยากจะแนะนำบริษัทให้กับคนอื่น ๆ
  • Stellar Solutions ได้คะแนนในการจัดอันดับ 4.7 ในแบบสำรวจลูกค้า โดยที่ 4 = พอใจมาก และ 5 = พอใจมากที่สุด
  • Stellar ใช้ความเชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรมโดยในปี ค.ศ. 2000 ได้สร้างโครงการ QuakeFinder ซึ่งเป็นโครงการด้านการวิจัยและพัฒนาด้านมนุษยธรรม ที่ใช้เครือข่ายเซ็นเซอร์ในการรวบรวมและวิเคราะห์สัญญาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ตามรอยแยกทั่วโลก (เพื่อทำนายแผ่นดินไหว)

4. Southcentral Foundation

  • Southcentral Foundation เป็นองค์กรดูแลสุขภาพที่ไม่หวังผลกำไร ที่มีเจ้าของผู้บริหารและขับเคลื่อนโดยชาวพื้นเมืองอาลาสกา ที่อาศัยอยู่ภายในพื้นที่ 107,000 ตารางไมล์ ซึ่งรวมถึง 55 หมู่บ้านที่สามารถเข้าถึงได้ด้วยเครื่องบินเท่านั้น
  • มีระบบการบริการด้านสุขภาพที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตน ซึ่งรวมเอาจิตใจ ร่างกาย และวัฒนธรรม ที่ทำได้ 90 เปอร์เซ็นต์สำหรับการตรวจคัดกรอง เช่น โรคเบาหวาน หัวใจและหลอดเลือด และมะเร็งปากมดลูก ตลอดจนผลลัพธ์ด้านการดูแลสุ

    ขภาพ รวมถึงมาตรการด้านคุณภาพอื่น ๆ อีกมากมาย
  • Southcentral Foundation (SCF) เป็นระบบการดูแลสุขภาพที่ไม่หวังผลกำไรของรัฐอลาสกา ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพและบริการที่เกี่ยวข้องกับชาวพื้นเมือง และชาวอเมริกันอินเดียน
  • ทีมแพทย์มักเดินทางไปยังหมู่บ้านชนบท เพื่อให้บริการด้านเวชศาสตร์ครอบครัว ทันตกรรม กุมารเวชศาสตร์ สูตินรีเวชวิทยา โสตวิทยา และด้านพฤติกรรม
  • องค์กรมีพนักงาน 2,200 คน โดย 54 เปอร์เซ็นต์เป็นชาวพื้นเมือง หรือชาวอเมริกันอินเดียน
  • นี่เป็นรางวัลครั้งที่สองของ Southcentral Foundation ที่เคยได้รับการยกย่องในปี ค.ศ. 2011
  • ระบบการดูแลสุขภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของ SCF คือ Nuka System of Care ที่นำเสนอกลยุทธ์และกระบวนการขององค์กร ทางการแพทย์ พฤติกรรม ทันตกรรม การปฏิบัติตามแบบแผนโบราณดั้งเดิม และโครงสร้างพื้นฐานที่ส่งเสริมสุขภาพ
  • ดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพหลายตัวแสดงให้เห็นว่า SCF มีการจัดอันดับที่เหนือกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของ ชุดข้อมูลและประสิทธิผลด้านสุขภาพ (Health Performance Effect and Data Set - HEDIS) ซึ่งเป็นมาตรการที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม โดยคณะกรรมการเพื่อการประกันคุณภาพแห่งชาติ
  • นับตั้งแต่ก่อตั้งมา SCF มีสถานะทางการตลาดที่โดดเด่น ซึ่งคิดเป็นเกือบร้อยละ 100 ของประชากรพื้นเมืองและอเมริกันอินเดียน ในพื้นที่บริการ 107,400 ตารางไมล์ แสดงให้เห็นว่า SCF ให้ความสำคัญต่อความมุ่งมั่นกับลูกค้าที่เป็นเจ้าของด้วย (customer-owners)
  • องค์กรได้ปรับเปลี่ยนวิธีการเข้าถึง เป็นหนึ่งในหลักการปฏิบัติงาน ซึ่งส่งผลให้ร้อยละ 70 ของผู้ป่วยด้านสุขภาพพฤติกรรม ได้รับการปรึกษาในวันเดียวกัน

5. Castle Medical Center

  • Castle Medical Center (CMC) เป็นระบบโรงพยาบาลชุมชน ในฮาวาย ที่ให้การดูแลผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ให้กับผู้ที่อาศัยอยู่ที่เกาะ O’ahu เป็นสถานที่ดูแลรักษาผู้ป่วยรุนแรงขนาด160 เตียง และมีระบบโรงพยาบาลชุมชน ของมลรัฐฮาวาย
  • เป็นหนึ่งใน 20 โรงพยาบาล ภายใต้ระบบสุขภาพ Adventist ที่ไม่หวังผลกำไร ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Roseville, California
  • มีพนักงาน 1,046 คน โรงพยาบาลหลักของ CMC ตั้งอยู่ที่ Kailua ซึ่งมีศูนย์การแพทย์สองแห่ง และคลินิกสุขภาพตั้งอยู่บริเวณด้านข้างของเกาะ
  • CMC แสดงอัตราต่ำกว่า 1% ถึงศูนย์ สำหรับการติดเชื้อในโรงพยาบาล และผู้ป่วยตกเตียง
  • CMC แสดงผลงานชั้นนำระดับประเทศ ที่ไม่มีการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (CAUTI) ของผู้ป่วยใน ในช่วง 3 ปี 5 เดือน ที่ผ่านมา
  • หน่วยดูแลผู้ป่วยหนัก (ICU) ของ CMC มีผลดำเนินการอยู่ในอันดับสูงสุด 10 เปอร์เซ็นต์ของ ICU ทั่วประเทศ โดยมีอัตราการติดเชื้อในกระแสเลือด (CLABSI) เป็นศูนย์ สำหรับสี่ในห้าปีที่ผ่านมา
  • CMC ประสบความสำเร็จหรือสูงกว่า top-quartile ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2014 จนถึง 2016 โดยการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ถึง 12 เปอร์เซ็นต์ของ ตัววัดโดยรวม (composite measures) ด้านความปลอดภัยของผู้ป่วย การดูแลรักษาตามหลักฐาน และการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการดูแลทางคลินิก
  • อัตราการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ CMC ในการปรับปรุงผลการรักษาโรคหลอดเลือดตีบ โรคหลอดเลือดสมอง และภาวะติดเชื้อ รวมถึงแนวทางการคลอดแบบเลือกได้ (สำหรับผู้ป่วยที่ CMC Birth Center) สูงกว่าระดับสูงสุด 10 เปอร์เซ็นต์ ในการเปรียบเทียบระดับประเทศ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

******************************


 

คำสำคัญ (Tags): #baldrige#award#2017
หมายเลขบันทึก: 641971เขียนเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2017 17:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2017 17:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท