บทความเรื่อง This Old Brain เขียนโดย Jeff Wheelwright (๑) ลงในนิตยสาร Discover ประจำเดือนตุลาคม ๒๕๖๐ เล่าประสบการณ์ตรงของผู้เขียน ในการเข้าร่วมโครงการวิจัย HCP (Human Connectome Project (๒)), Senior Division หรือ HCP-A (A = Aging) ของ UCLA ที่เขาบอกว่าเป็น neuroscience 2.0 ที่ก้าวข้ามการศึกษาทำความเข้าใจหน้าที่ของ แต่ละส่วนของสมอง ไปสู่การ ทำความเข้าใจการเชื่อมต่อระหว่างส่วนต่างๆ ของสมอง โดยเครื่องมือราคาแพง ที่ใช้ตรวจสมองคือ PET (positron emission tomography) และ fMRI (functional magnetic resonance imaging)
ใน neuroscience 1.0 เครื่อง X-Rays และ MRI ช่วยให้รู้ว่าสมองส่วน hippocampus ทำหน้าที่ด้านความจำ หรือการกำหนดได้หมายรู้ ซึ่งเป็นฐานของตัวตน
โครงการ HCP ริเริ่มโดย NIH เพื่อทำ mapping database ของ connectome ในคนหนุ่มสาว และศึกษาการเปลี่ยนแปลงในคนชรา
ผลการศึกษาโดยการตรวจสมองศพ และการถ่ายรูปสมองคนมีชีวิต บอกทั้งข่าวร้ายและข่าวดี
ข่าวร้ายคือในผู้สูงอายุ มีการสูญเสียเนื้อสมองประมาณปีละ ๐.๕% และส่วน hippocampus สูญเสียถึงปีละ ๒%
ข่าวดีคือ สมองคนชราสามารถสร้าง connectivity ใหม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อการทำงานประจำวัน เห็นไหมครับ ว่าธรรมชาติของมนุษย์เราประเสริฐแค่ไหน โดยเฉพาะการมีความยืดหยุ่นของสมอง (neuroplasticity)
เป้าหมายของงานวิจัยที่ผู้เขียนเข้าร่วม คือกำหนดค่าปกติของสมองผู้สูงอายุ นอกจากตรวจสมองด้วยเครื่องแล้ว ยังมีการทดสอบด้านประสาทวิทยาอีกหลายอย่าง โดยนักวิทยาศาสตร์ที่ทำการศึกษาได้ชื่อว่าเป็น neuropsychologist
ในสหรัฐอเมริกา คนอายุ ๖๕ ปีขึ้นไปเป็นโรคสมองเสื่อม Alzheimer ถึงร้อยละ ๑๐ คนเหล่านี้สมองฝ่อ และการเชื่อมต่อน้อยลง
ผมขอเพิ่มเติมว่า โรคสมองเสื่อมที่พบบ่อยมีสองชนิด อีกชนิดหนึ่งเรียกว่า vascular dementia แปลว่าสมองเลอะเลือนเพราะความผิดปกติของหลอดเลือด ผู้เขียนบทความนี้ไม่ได้เอ่ยถึงโรคนี้เลย
วิจารณ์ พานิช
๑๓ ต.ค. ๖๐
บนเครื่องบิน EVA Air จากนิวยอร์กไปไทเป
,
ไม่มีความเห็น