***...บันทึกแห่งความทรงจำ ครั้งหนึ่งในชีวิต กับงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ตอนที่ 5 : ด้วยพระบารมีฯ สานสู่ความหวังที่ประทับใจ ***


พลันสายตาก็มองเห็นลำแสงสีน้ำตาลพุ่งเป็นเส้นตรงจากยอดพระเมรุมาศขึ้นไปเบื้องบนเป็นทางยาว...มหัศจรรย์ยิ่งนัก

สื่อสัญญาณที่ดี                     

อาสาสมัครท่านหนึ่ง  เดินมาเปิดประตูค้างไว้ให้กลุ่มคนด้านในลอบบี้ได้ยินเสียงจากมณฑลพิธีท้องสนามหลวง  และบอกให้สวดมนต์อธิษฐานส่งพ่อหลวงฯ   นึกขอบคุณอาสาสมัครท่านนี้อย่างสุดหัวใจ นับเป็นสื่อสัญญาณที่ดี เสียงด้านนอกเงียบสงัด ทุกสรรพสิ่งสงบนิ่งราวกับไม่ไหวติง   หยิบภาพของพ่อหลวงฯ ที่ได้รับแจกขึ้นมามอง  ตั้งจิตระลึกถึงเพื่อกราบถวายอำลา และอธิษฐานขอพร  “ พ่อหลวงฯขาลูกอยากเข้าไปกราบถวายอาลัยพ่อหลวงข้างใน  ขอบารมีพ่อหลวง ให้ลูกได้เข้าไปคืนนี้ด้วยเถิด" 

เวลาล่วงเลยไปช้าๆ  ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เพื่อนที่นั่งอยู่ตรงช้าง 3 เศียรส่งข่าวมาว่า  ไม่สามารถข้ามแผงกั้นมาหาได้  และจะขอกลับก่อน  เพราะเด็กน้อยที่มาด้วยต้องการกลับไปพัก   ตอบไปว่ากลับไปเถอะ ไว้โอกาสหน้าค่อยพบกัน     กลุ่มคนยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ตนเองก็นั่งคุยกับเพื่อนใหม่ทั้ง 2 คน  เฝ้ารอคอยโอกาสและจังหวะของโชคชะตา                        

ผู้คนเริ่มลุกขึ้นและเดินออกจากโรงแรม เมื่อเวลาเลยเที่ยงคืนไปเล็กน้อย  เรา 4 คน(ผู้เขียน+หนุ่ย+พจน์และลูกชาย) เกาะกลุ่มกันเดินออกจากโรงแรม มุ่งไปทางจุดคัดกรองด้านหน้า  มองไม่เห็นบุคคลที่เคยตวาดใส่อย่างไร้น้ำใจ ไม่แน่ใจว่ากลับไปแล้วหรือกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของแถวของกลุ่มตน...ที่เพิ่งเกิดจากการรวมตัวของบุคคลที่มากันคนละทิศ-คนละทาง   หันไปดูจุดคัดกรองด้านซ้ายมือก็มีแถวของประชาชนที่ต่อคิวยาวอยู่ละแวกนั้นนัยว่าตั้งแถวรอมาจากสี่แยกคอกวัว   แม้จะไม่ได้รับคำยืนยันหรือได้รับความหวังใดๆ ว่า จะได้เข้าไปด้านในมณฑลพิธีท้องสนามหลวงฯ แต่กลุ่มของเราก็ปักหลักคอย ณ หน้าจุดคัดกรอง จากประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนให้รู้ว่า  ไม่มีสิ่งใดแน่นอน...ถ้าเรามีความพยายามและอดทนเชื่อว่าความหวังย่อมมีความเป็นไปได้

กลุ่มของเรานั่งรอกันอยู่จนเวลาผ่านเลยไปถึง 1 นาฬิกาของวันที่ 27 ตุลาคม 2560  หนุ่ยหายตัวไปพักหนึ่ง  เธอกลับมาบอกว่าไปถามตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ตรงจุดคัดกรอง ว่ามีเหตุผลใด  ทำไมไม่อนุญาตให้พวกเราเข้าไปกราบลาพ่อหลวงฯด้านใน   ได้รับฟังคำบอกเล่าของหนุ่ย ไม่เกิน 10 นาที  นายตำรวจก็ยืนเด่นอยู่หน้าแถว  กล่าววาจาที่รู้สึกว่าไพเราะที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาในชีวิตว่า   ขอให้ทุกท่านใจเย็นๆ เมื่อสักครู่นี้ได้ประสานไปถึงเจ้าหน้าที่ด้านใน  ทุกคนได้เข้าไปแน่แต่ขอให้รอในหลวงฯรัชกาลที่ 10 เสด็จกลับก่อน ...

ความสุขใจแผ่ซ่านไปทั่วสรรพางกาย...ขอบคุณสวรรค์  แม้ใจจะเกิดความกังขาว่า  นี่ท่านยังไม่เสด็จกลับอีกหรือ  มีบางคนบอกว่า ท่านเสด็จกลับไปแล้ว แต่ก็เสด็จมาใหม่เพื่อมาดูพิธีการฯ  เป็นระยะๆ  

 ด้วยพระบารมีฯ  สานสู่ความหวังที่น่าประทับใจ
                01: 49 น  กลุ่มของเราได้ผ่านจุดคัดกรอง  เข้าไปยืนอยู่ด้านใน  ขอบคุณพ่อหลวงฯที่ ให้โอกาสลูกได้มากราบลา สมความตั้งใจ    พระเมรุมาศช่างงดงาม.. วิจิตรบรรจงยิ่งนัก เฝ้ามองด้วยความซาบซึ้งใจ ด้วยพระบารมีฯ  สานสู่ความหวังที่น่าประทับใจจริงๆ  


เวลาผ่านเลยมาถึง  02.36 น. ขณะเดินชมความงดงามของพระเมรุมาศเบื้องหน้าที่เห็นเด่นเป็นสง่ากับหนุ่ย เพื่อนใหม่รุ่นน้อง  ใจประวัติคิดย้อนเหตุการณ์ที่ผ่านมา  จึงกล่าวความรู้สึกกับหนุ่ยว่า  เสียดายจริงๆ นี่ถ้าหากเราได้เข้ามาช่วงที่ถวายพระเพลิงจริง คงจะดีไม่น้อย   จากนั้นก็เดินชมมโหรสพอย่างปลาบปลื้มใจ    เวลาผ่านไป 10 นาที  จึงหันไปมองพระเมรุมาศอีกครั้ง  พลันก็ต้องแปลกใจที่เห็นควันลอยออกมา   เสมือนหนึ่งว่าย้อนเวลากลับไปช่วงที่เราทั้งสองปรารถนาจะได้เห็น เลือดในกายสูบฉีบอย่างแรง.....ตื้นตันใจยิ่ง  คว้าข้อมือหนุ่ยมากระชับไว้อย่างตื่นเต้น   นี่พ่อหลวงฯ รับรู้สิ่งที่พวกเราต้องการหรือนี่   ควันลอยอ้อยอิ่งอยู่ประมาณ 2 นาที  จึงถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน

 เราทั้งสองใช้เวลาเดินชมบรรยากาศรอบด้านอย่างตั้งใจ  แวะดูการแสดงมโหรสพทั้ง 2 โรง และไปฟังการบรรเลงดนตรีที่ยิ่งใหญ่ไพเราะจับใจยิ่งนัก ณ  เวทีด้านริมสุด 

พบปะผู้คนกว่าพันคน  นั่งชมมโหรสพอยู่หน้าเวที   บางท่านก็ปักหลักนอนอยู่บริเวณนั้น

เวลาล่วงเลยมาถึง 03.20 น.  แม้ร่างกายจะตรากตรำแดดและฝนมาทั้งวัน  แต่ไม่เป็นอุปสรรคใดๆ มีแต่พลังใจที่เป็นสุขทวีเพิ่มขึ้นจนเต็มหัวใจ   หันไปมองพระเมรุมาศอีกครั้งซึ่งเป็นการมองดูที่นับครั้งไม่ถ้วน    พลันสายตาก็มองเห็นลำแสงสีน้ำตาลพุ่งเป็นเส้นตรงจากยอดพระเมรุมาศขึ้นไปเบื้องบนเป็นทางยาว...มหัศจรรย์ยิ่งนัก  พยายามขยับกายมองในตำแหน่งแนวราบทั้ง 45 องศาซ้ายและขวา   ว่าเกิดจากแสงใดๆมากระทบหรือไม่  แต่ประจักษ์แจ้งด้วยสายตาว่า...ลำแสงที่เห็นเกิดขึ้นเองจากยอดพระเมรุมาศไปสู่เบื้องบน เป็นเวลานานถึง 20 นาที   ขอขอบคุณทุกสิ่งอย่าง... ที่ได้พบ-ได้เห็น-ได้รับรู้ ด้วยตนเอง

                 ***... ด้วยพระบารมีฯ  สานสู่ความหวังที่ประทับใจที่สุดในชีวิต...***          


                        ***...ขอขอบคุณผู้เข้ามาเยี่ยมชมทุกท่านนะคะ...*** 


หมายเลขบันทึก: 640431เขียนเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2017 10:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 พฤศจิกายน 2017 22:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สุดยอดของความอดทน

ขอบคุณที่เขียนบันทึกประวัติศาสตร์นี้

ดีใจที่มีคนดีดีเช่นนี้ค่ะ

ขอขอบคุณ  คุณ *** แก้ว..อุบล จ๋วงพานิช ***  เป็นอย่างยิ่ง...ความทรงจำที่แสนประทับใจครั้งนี้คงจะตราตรึงจวบจนสิ้นอายุขัยของตนแน่ๆ ค่ะ  

เป็นความทรงจำที่ทรงคุณค่าและน่าประทับใจที่สุดค่ะ ได้อ่านบันทึกนี้ตั้งแต่แรกจนจบด้วยใจจดจ่อปลาบปลื้มตื้นตันใจไปกับพี่พรด้วยมากๆค่ะ

เป็นความทรงจำที่ทรงคุณค่าและน่าประทับใจที่สุดค่ะ ได้อ่านบันทึกนี้ตั้งแต่แรกจนจบด้วยใจจดจ่อปลาบปลื้มตื้นตันใจไปกับพี่พรค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท