"เข้าหนาว"แล้ว
ลมหนาวลอดเข้ามาทางช่องบานเกล็ดเป็นระลอก สัมผัสได้ถึงฤดูกาลใหม่ ซึ่งตัวเองโปรดปราน ตั้งแต่เมื่อคืนและตื่นมาเมื่อเช้ามืดแล้ว ที่รู้สึกในความหนาวเย็น จากการลดลงของอุณหภูมิ สามสี่วันก่อนหน้า แม้ช่วงกลางวัน แต่บรรยากาศก็แตกต่างพอให้แยกแยะได้ ว่าลมหนาวมาเยือน ขณะที่ข่าวสารจากสื่อต่างๆ นำเสนอประกาศอย่างเป็นทางการของกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งแจ้งว่า บ้านเราเข้าสู่ฤดูหนาว ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลา และปีนี้จะหนาวกว่าปีก่อน รวมถึงจะหนาวยาวไปถึงเดือนกุมภาเลย
เมื่อตอนเป็นเด็กชอบหน้าฝน ฝนทำให้อากาศเย็นสดชื่น ได้วิ่งเล่นท่ามกลางสายฝน รองน้ำฝนใส่โอ่ง นั่งริมหน้าต่างให้ละอองฝนกระเซ็นใส่ ช่วงฝนไม่ว่าจะเหลือบมองไปทางใด มักพบแต่ความเขียวขจี หลังฝนฟ้าจะใส เม็ดฝนที่ค้างพราวบนยอดไม้ใบหญ้า ยามต้องแสงงดงามนัก โดยเฉพาะถ้าได้นอนฟังฝนสาดซู่ๆ หรือตกกระทบหลังคาสังกะสีที่บ้านดังโป๊ะเป๊ะๆ จักเพลิดเพลินเจริญใจยิ่ง
แต่พอโตขึ้นกลับชอบหน้าหนาวมากกว่า คงเพราะการเดินทางไปไหนมาไหนไม่สะดวก อากาศเย็นสดชื่นหน้าหนาวก็มีไม่ต่าง จำได้ช่วงหนาวสมัยเด็กๆ ทุกเช้ามืด ลูกๆหลานๆของพ่อ ซึ่งมีหลายคน รวมทั้งตัวเอง จะตื่นขึ้นมาก่อกองไฟผิงร่วมกัน พร้อมพูดคุยกระเซ้าเย้าแหย่ เนื่องจากบ้านญาติพี่น้องพ่อหลายหลังหันหลังเข้าหากัน และหลังบ้านเป็นลานกว้าง ที่นี่จึงเป็นศูนย์รวม เป็นสนามเด็กเล่นในสมัยนั้นด้วย
ไม่รู้แน่ประทับใจหน้าหนาวตั้งแต่เมื่อไหร่ คงค่อยสะสมอารมณ์ความรู้สึกต่อบรรยากาศตามวัยหรือวันเวลา ตื่นเช้าขึ้นมาจะพบหมอกสีขาวลอยฟุ้งกระจายไปทั่ว มากบ้างน้อยบ้างในแต่ละวัน น้ำค้างบนยอดหญ้าฉ่ำชื้นลงไปถึงดิน ยามสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ รู้สึกเย็นวาบเป็นทางเข้าไปในจมูก ไอน้ำเป็นควันพวยพุ่งออกมาทางลมหายใจ
แสงอาทิตย์หม่น ละมุน ไม่จัดจ้าน หน้าหนาวจะเห็นดวงอาทิตย์เป็นดวงกลมง่ายขึ้น ก็จากความสลัวลางของอากาศหรือท้องฟ้า ซึ่งช่วยตัดแสงสะท้อนอีกแรงหนึ่ง ยิ่งถ้าได้ลมหนาวโบกโบยไม่หยุด เย็นจนยะเยือก หรือจนต้องกระชับเสื้อกันหนาวให้เข้าที่เข้าทางด้วยแล้ว ยิ่งได้บรรยากาศ ยิ่งให้อารมณ์..
ตั้งแต่เมื่อคืนและตื่นมาเมื่อเช้ามืดแล้ว ที่สัมผัสได้ในความหนาวเย็น กว่าจะเห็นดวงอาทิตย์ ก็จนโผล่พ้นทิวกล้วยน้ำว้าหน้าบ้านขึ้นมา ฉวยเข้าไปคว้ากล้องในห้อง รีบเปลี่ยนเลนส์ที่จะให้มุมภาพกว้างขึ้น รุดไปที่รั้วหน้าบ้าน
ไม่ว่าอาทิตย์จะขึ้นหรือตก เหตุการณ์จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เวลาดีมีไม่มาก ชัตเตอร์จึงลั่นไม่หยุด สลับกับตรวจสอบสีสัน แสง และมุมภาพในกล้องเป็นระยะ
เร่งเสพ เร่งเชยชม บรรยากาศ"เข้าหนาว"แล้ว อีกครั้ง!
ความเห็น (6)
ภาพสวยมากๆ
เข้าหน้หนาวอีกแล้ว
สมควรปลูกผักด้วยครับ
เย้ๆๆ
...แสงอาทิตย์หม่น ละมุน ไม่จัดจ้าน หน้าหนาวจะเห็นดวงอาทิตย์เป็นดวงกลมง่ายขึ้น ก็จากความสลัวลางของอากาศหรือท้องฟ้า ซึ่งช่วยตัดแสงสะท้อนอีกแรงหนึ่ง ยิ่งถ้าได้ลมหนาวโบกโบยไม่หยุด เย็นจนยะเยือก หรือจนต้องกระชับเสื้อกันหนาวให้เข้าที่เข้าทางด้วยแล้ว ยิ่งได้บรรยากาศ ยิ่งให้อารมณ์..
ไม่รู้ว่าเขาเรียกว่าอารมณ์สุนทรีย์หรือเปล่า แต่ความรู้สึกขณะอ่านท่อนแก้วนี้ ผมว่าใช่!!! ความงามในใจนี้เรียกสุนทรีย์ เป็นแน่ ขอบคุณครับ
-สวัสดีครับครู
-อ่านบันทึกนี้แล้วทำให้ได้ย้อนวันวานของเมืองเล็กๆ แห่งนี้
-คิดว่าความทรงจำเก่าๆ เมื่อหลายสิบปีก่อนของครูคงจะมาจากดินแด่นแห่งนี้ "พานต๋าย"
-อบอุ่นใจเหลือเกินที่ได้มาอาศัยอยู่เมืองแห่งความทรงจำนี้ครับ
-ยินดีในทุกครั้งที่ได้นำเอาเรื่องราวต่างๆ ของที่นี่่ถ่ายทอดออกไปบนโลกกว้าง
-แม้ไม่ใช่บ้านเกิด แต่ที่นี่ถือเป็น"เมืองนอน"ของผมครับครู
-เมืองนอน อบอุ่นในยามหนาวเหน็บเช่นนี้...
-ขอบคุณครับ..
- ฮาๆๆ ลงไปบ้างแล้วครับ ถั่วฝักยาว ถั่วพลู(ยังไม่ยอมงอก),ู กระเจี๊ยบ
- ผักกาดต่างๆ เข้าหนาวแล้ว กำลังจะตามมา โตทานได้เมื่อไร จะเก็บภาพมาอวดครับ ฮาๆๆ
- ขอบคุณอ.ขจิตครับ
- ฮาๆๆ ชอบหน้าหนาวมากครับ ไม่ร้อน ลมอ่อนๆ ลมว่าว โชยตลอด แม้เป็นลมแห้งๆ
- เย็นอย่างนี้ได้ทั้งปี น่าจะดี จิตใจ อารมณ์คนทั่วไปคงดีขึ้น คงยิ้มแย้มแจ่มใส พบปะ พูดคุย ทักทายกันมากขึ้น ขอบคุณอ.ต๋อยมากครับ!
- ชีวิตเด็กๆ คือที่บ้าน"พานต๋าย" นั่นเองครับ จะว่าไปก็แค่ 17 ปีกว่าที่อยู่บ้าน แต่ทำไมหวลถึงอดีตที่บ้านจัง คงเพราะเป็นบ้านเรา ปกติอาการ ส.ว.กระมังครับ(ฮา)
- เข้าวัยนี้แล้ว พบเพื่อนเก่าโอกาสใด ชอบพูดถึงกันครับ(ฮา) มักเปรียบเทียบกับปัจจุบัน ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปพอสมควรเลยทีเดียว รุ่นพ่อรุ่นแม่หลายคนท่านไม่อยู่แล้ว วิถีชีวิต..หุงหาอาหารด้วยเตาถ่าน รินน้ำข้าว ดงหม้อข้าว..
เห็นภาพนี้แล้ว ใช่เลยๆ เมื่อก่อนอย่างนี้ เดี๋ยวนี้อยากกลับไปกินอยู่อย่างนี้ รอให้มีเวลามากๆกว่านี้หน่อยเถอะ(ฮา) - ขอบคุณเพชรน้ำหนึ่งมากครับ