833. เรียนรู้ "ตัวตน (Self)" จากหนังดัง.. Blade Runner


ผมไปดูหนังเรื่อง Blade Runner มาครับ แน่นอน ผมเป็นคอหนัง Sci-fi ...เรื่องนี้ดูแล้ว ก็หวั่นใจ เพราะถ้าคนไม่ชอบก็อาจน่าเบื่อได้ เพราะค่อนข้างลึกลับพอควร หนังพูดถึงเหตุการณ์ในอนาคต ที่มนุษย์เราสามารถสร้างมนุษย์อีกชนชั้นหนึ่งขั้นมา พูดง่ายๆ คือชนชั้นบริกร ชนกลุ่มนี้คือมนุษย์พันธ์ใหม่ ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อมาบริการมนุษย์สายพันธ์หลัก ในสิ่งที่มนุษย์ไม่อยากทำ โดยเชื่อว่ามนุษย์บริกรพวกนี้ไม่มีชีวิตจิตใจ ไม่สามารถรักได้  ...แต่การ์กลับตาลปัตเมื่อมนุษย์บริกรที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นตำรวจ สืบไปเจอเงื่อนงำที่น่าสนใจ คือเกิดไปเจอคดีที่ดูเหมือนเป็นฆาตกรรม สืบไปสืบมากลับกลายเป็นเหตุการณ์ประหลาด เพราะส่ิงที่ค้นพบ ทำให้มนุษญ์บริกรผู้นั้นสงสัยว่าตัวเองเป็นใคร นำมาสู่การสืบค้นอย่างบ้าคลั่ง จนนำไปสู่การค้นพบบางอย่าง บางอย่างที่จะทำลายความเชื่อคนทั้งหมด ความเชื่อนั่นจะเป็นอย่างไร  มันจะนำไปสู่อะไร คุณต้องตามไปดูกันเอง 

สำหรับผมคอหนัง Sci-fi ควรดูยิ่ง ดูออกจะปรัชญามากๆ 

สำหรับผมเรื่องนี้สรุปได้ว่าเป็นเรื่องราวของความพยายามของ คนคนหนึ่งที่ถูกทำให้เชื่อว่าไม่ใช่คนมาตลอด...เกิดสงสัยว่าตัวเองเป็นใคร  ที่สุดนำมาสู่การเดินทาง ผจญภัยเพื่อค้นหาตัวเอง  

   


หนังเรื่องนี้ดูจะไม่ใช่หนังเท่านั้น เพราะมันสะท้อนเรื่องราวของชีวิตมนุษย์ที่นั่งดูอยู่ด้วย 

การค้นหาตัวเองครับ เรื่องนี้เรื่องใหญ่ที่สุด 

มาว่ากันที่ตัวตน ผมจำไม่ได้ว่าเป็นแนวคิดของใคร เหมือน Boyatzi ที่บอกว่าตัวตนคนมีสามแบบคือ

Ideal Self ตัวตนในอุดมคติ

Ought Self ตัวตนที่มาจากการที่เราถูกครอบครัว พ่อแม่ สังคม ที่ทำงาน คาดหวัง

Reality Self ตัวตนที่เป็นของเขาจริงๆ

คนเราจะทุกข์มากถ้าสามอย่างนี้มันไม่ไปด้วยกัน

เจ้าคนบริกรก็อยู่ไปวันๆ 

Ideal Self ไม่มีอะไร ไม่ไปสูงกว่านี้

Ought Self ถูกคาดหวังให้มารับใช้มนุษย์

Reality ก็เป็นเช่นนั้น

เขาใช้ชีวิตมาเรื่อย

จนกระทั่งเริ่มตั้งข้อสังเกต ว่าความเป็นจริงเกี่ยวกับตัวเอง..  ว่าตัวเองอาจมีบางอย่าง มีความจริงบางอย่างซ่อนเร้นอยู่ มีคำถาม ...ว่าแล้วก็สืบค้น ค้นจนเจอ ทำให้รู้ว่าตัวเองอาจไม่ใช่อย่างที่เป็น 

Reality Self ไม่ใช่สิ่งที่เขาเป็น ..

เมื่อค้นพบความจริงใหม่ ก็เกิดการค้นพบ Ideal Self ใหม่ 

เขาเริ่มสลัดหลุดจากตัวตนที่ถูกคาดหวัง Ought Self ... มีการปรับเปลี่ยนตัวตนเไปอยู่กับคนอีกกลุ่ม  

ครับ ถ้าไม่สงสัยว่าตัวตนของเขาจริงๆ มันคืออะไร นี่คงอยากครับ คนถูกหลอกเหมือนเดิม  ดูเหมือนตอนท้ายขะ Happy ขึ้น 

เหมือนเพื่อนผม

Ideal Self ฝันอยากเป็นวิศวกร จะสอบเข้าวิศวะจุฬา

Ought Self แต่ที่บ้านบอกว่า เก่งระดับนี้ควรไปเป็นหมอ

Reality Self ตัวตนจริงคือชอบคณิตศาสตร์ Ent นี่เกือบเต็ม

เพื่อนผมตัดสินใจไปเป็นหมอฟัน ทั้งที่ตอนสอบ Ent คะแนนชีวะนิดเดียว 

เพื่อนผมเรียนอย่างทรมาณ วันๆ ก็จะไปเที่ยวกับเพื่อนที่วิศวะจุฬา จนคนเข้าใจว่าเรียนวิศวะ 

เป็นทุกข์ที่สุด เพราะชอบคำนวณ ..

นี่ไงครับ ความทุกข์  

แต่ก็พยายามมองหา ทางออก ที่สุดไปเจอทันตกรรมบูรณะ...เฮ๊ย ใช้ความรู้เหมือนวิศวะ เลย ต้องออกแบบฟันปลอม ทำอย่างไรให้พอดี เหมือนสะพานเลย ...และแล้ว ก็ค้นพบครับ ที่สุดได้เจอสาขาของหมอฟัน ที่ใช้ความรู้แบบเดียวกับวิศวะ  แล้ว Ought Self ก็ไม่มีปัญหาอีกต่อไป เป็นหมอฟันต่อก็ได้ 

Self สาม Self ตรงกัน   นี่เป็นรายที่โชคดี 

เพื่อนผมกับมนุษย์บริกรใน Blade Runner มีชีวิตเหมือนกัน ...แต่ “เอ๊ะทัน ที่สุดเกิดการค้นพบ Reality Self เกิดการปรับเปลี่ยน Ought Self และ Ideal Self ให้มันตรงกัน 

มีความสุขกันไป 

เอาเป็นว่า ถ้าวันนี้คุณมีทุกอย่าง บ้าน รถ งานที่ดี สถานภาพที่ดี หรือกำลังเรียนอยู่ในที่ดีๆ แต่กลับรู้สึกแปลกๆ  ดูไม่มีความสุข ทั้งๆที่คุณมีทุกอย่าง ถ้าเป็นองค์กรก็ดูดี .. Perfect เป็นที่สุด เป็นแถวหน้า แต่กลับมีความอ่อนไหวไม่มั่นคง คนขัดแย้งกัน ...ให้สงสัยไว้ก่อนครับ...ว่าตัวตนสามอย่างของคุณมีความขัดแย้งกัน    คุณอาจไม่ใช่อย่างที่คุณเป็นอยู่ อย่าปล่อยผ่านนะครับ กลับมาค้นหา สำรวจตัวตนกัน วิธีสำรวจมีดังนี้ครับ 

ถ้าเป็นบุคคล

ลองทำง่ายๆ

Ideal Self     ใครเป็นบุคคลในอุดมคติของคุณ  คนต้นแบบของคุณคือใคร เขาใช้ชีวิตอย่างไร

Ought self    ครอบครัว ที่ทำงาน สังคมคาดหวังคุณไว้อย่างไร

Reality Self  จุดแข็งของคุณคืออะไร อะไรคือความเป็นจริงสถานการณ์จริงๆ ของคุณ

ลองทบทวน คุณจะเห็นที่มาของความทุกข์ ของคุณ  เมื่อเห็นที่มาก็จะปรับเปลี่ยนได้ง่ายขึ้น

จริงๆ แค่นึกถึง Ideal Self คือไปดูคนต้นแบบของคุณ ลองถอดแบบความคิด การใช้ชีวิตได้ง่าย เห็นเส้นทางของผู้นั้นว่าเขาจัดการตัวตนสามอย่างได้อย่างไร  

เช่นต้นแบบของผมคือดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ  

Ideal Self     ใครเป็นบุคคลในอุดมคติของคุณ  คนต้นแบบของคุณคือใคร เขาใช้ชีวิตอย่างไร 

ถ้าของผมเอง ต้นแบบคือดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ ...ผมชอบท่านตรงที่ชอบบุกเบิกความรู้ใหม่ๆ เอาศาสตร์ตะวันตกมาผสมตะวันออก  ไม่ยึดติดฝรั่งเกินไป  ไม่ตะวันออกเกินไป แถมผสมของไทยไปด้วย ...ท่านไม่หวงวิชามาก มีเผยแพร่ความรู้ที่ท่านสอนออกมาบ่อยๆ ไม่หวงมาก ผมว่าท่านมีความเป็นครูมากๆ ที่สำคัญกล้าคิดต่าง  อนาคตผมอยากเป็นอย่างดร.วรภัทร์ เมื่อไม่ได้อยู่ในมหาลัยแล้ว ฝันว่าอายุมากๆ ก็คงทำอาชีพคล้ายท่าน และทำอะไรคล้ายๆท่าน เอาตะวันออก ตก ไทยมาผสมกัน สร้างเป็นองค์ความรู้เพื่อคนไทย   ท่านเป็นคนมีครู คือหลวงพ่อกล้วย และหลวงพ่อกัณหา และมีพระพุทธเจ้าเป็นครูสูงสุด 




ถอดบทเรียนได้คือ คนที่เป็น Idol ผมมีความเป็นตัวของตัวเอง ท่านเป็นคนมีครู ท่านทำตามคำสอนของครู ไม่ใช่ดูต้นแบบอย่างเดียว ท่านเอาศาสตร์ตะวันตก ออก ไทยมาผสมกัน ศึกษาศาสตร์มากกว่า 5 ศาสตร์  แล้ว Blend มาเป็นสูตรของตนเอง ที่สำคัญทำอาชีพวิทยากรไปด้วยแจกความรู้ให้คนที่มีทุนน้อยไปด้วย เรียกว่ามหากรุณาสุดๆ 

Ought self    ครอบครัว ที่ทำงาน สังคมคาดหวังคุณไว้อย่างไร

ดูเหมือนท่านไปทางธรรมเรียกว่าถ้าไม่มีครอบครัว นี่เป็นหลวงตาไปแล้ว แต่ความที่ท่านต้องดูแลครอบครัว ท่านแทนที่จะไปบวช ท่านก็บวชใจแทน ท่านบริหารความคาดหวังของครอบครัว ด้วยการทำอาชีพวิทยากรที่ปรึกษา แต่ก็ไม่แปลกแยกจากธรรมที่ท่านสนใจ ท่านเอง Blend ในการทำงานด้วย ออกมาเป็นหลักสูตรเช่น Zen Management, Dojo Coaching   ที่สำคัญท่านบริหารความคาดหวังของลูกๆด้วยการที่ช่วงปิดเทอมจะไม่รับงาน ท่านถือโอกาสพักดูแลลูก และครอบครัวไปในตัว 

ถอดบทเรียนได้คือ การหลอมรวมความสนใจส่วนตัวมาอยู่ในอาชีพ เพื่อที่จะได้ดูแลอุดมคติของตนเอง และความคาดหวังของครอบครัวไปในคราวเดียวกัน ในขณะเดียวกันก็สร้างกติกาที่จะใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างสร้างสรรค์

Reality Self  จุดแข็งของคุณมีอะไร  อะไรคือสถานการณ์จริง 

จุดแข็งของอาจารย์คือการเป็นวิศวกร NASA ที่ใฝ่รู้ มีตรรกะแบบนักวิทยาศาสตร์มาก่อน  เคยเป็นอาจารย์สถาบันดัง แต่ Self ดูไม่ตรงกัน .. Ideal Self ท่านชอบอิสระ  และมีความคาดหวังเรื่องระบบการศึกษาที่ไปกว่าที่เป็นอยู่ เมื่อไม่ได้ ท่านก็เริ่มมองหาอาชีพใหม่คือเป็นที่ปรึกษาด้านคุณภาพ ต่อมาก็ธุรกิจ แต่ก่อนเท่าที่รู้ท่านเตรียมการศึกษาเรื่อง Management มาตั้งแต่อยู่อเมริกา ... นี่คือการบริหารความเป็นจริงเลย      แต่ก็ยังสนใจเรื่องการศึกษา ก็เลยมาเป็นวิทยากรแต่ก็สร้างคนไปด้วย ต่อมาป่วยเองหนักเคลื่อนไหวตัวเองไม่ได้ ก็เลยศึกษาพุทธศาสนาแบบเอาจริง

ถอดบทเรียนได้คือ     ท่าน Blend ทุกอย่างในชีวิต ประสบกับทุกข์หนักก็กลับได้เรียนรู้เพิ่มเติม  ความจริงดีไม่ดี ถูกหลอมรวม มาพัฒนางานอาชีพ ที่สอดคล้องตาม Ideal Self ของท่าน เรียกว่าสุดกลมกล่อม    จะปรับเปลี่ยนอะไรก็ดูความเป็นจริง มีการเตรียมตัวล่วงหน้า ไม่ผลีผลาม 

สรุปการใช้ชีวิตที่มีตัวตนที่สมดุลย์ ไม่ขัดแย้งแบบดร.วรภัทร์คือ

  1. มีครู พระพุทธเจ้า หลวงพ่อกล้วยหลวงพ่อกัณหา และครูอื่นๆ 
  2. ศึกษาศาสตร์ออก ตก ไทย เอามา Blend กัน
  3. แปลงจุดแข็ง อุดมคติ ความคาดหวังให้มาอยู่ในอาชีพ 
  4. สร้างกติกาการอยู่ร่วมที่สร้างสรรค์กับคนรอบตัว 
  5. ขยับขยายอะไรต้องศึกษา ปูทางล่วงหน้า 

สรุปคือลองมองหา Idol แล้วถอด Model ออกมาแล้วลองเดิมตาม ผมก็เดินตามท่านมาพักใหญ่ 5 ปีก่อนก็ไปบวชวัดหลวงพ่อกล้วยที่เป็นอาจารย์ของท่าน   แนวคิดเรื่องการสร้างกติกาที่สร้างสรรค์กับครอบครัวเพื่อบริหารความคาดหวังก็ได้อิทธิพลจากท่าน ... เรื่องการเผยแพร่ความรู้ที่ตัวเองมี การสร้างคน ก็ได้แรงบันดาลใจจากท่าน 

ลองดูนะครับ วันนี้ถ้าคุณดูดีมากในสายตาคนอื่น แต่มันทะแม่งๆ  หรือไม่รู้สึกดีๆ  ดูเป็นชีวิตที่เหมือนเป็นหุ่นยนต์เหลือเกิน..กลับมาทบทวนครับ ...วิธีง่ายๆคือดูจากการใช้ชีวิตของ Idol ...นั่นคือคำตอบ เบื้องต้นของท่าน ง่ายสุดแล้ว แล้วท่านก็จะเริ่มปรับเปลี่ยนชีวิตของท่านได้เอง  

ลองสำรวจตัวเองครับ ใช้เวลาไม่มาก คุ้มค่าครับ

ส่วนท่านที่สนใจบทความเกี่ยวกับ IKIGAI ของผมทั้งหมด ดูได้ที่นี่

https://www.gotoknow.org/posts...

ส่วนสื่อ Video ดูได้ที่นี่   

https://www.youtube.com/playli...


ด้วยรักและปรารถนาดี

ดรภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org


หมายเลขบันทึก: 639164เขียนเมื่อ 16 ตุลาคม 2017 12:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 ตุลาคม 2017 14:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

น่าสนใจมาก

จำได้ว่าสมัยก่อนท่านอาจารย์ดร.วรภัทร์ไปวัดหลวงพ่อกล้วยบ่อยๆ

อันนี้มีประโยชน์มากครับ

Ideal Self      ใครเป็นบุคคลในอุดมคติของคุณ    คนต้นแบบของคุณคือใคร   เขาใช้ชีวิตอย่างไร

Ought self     ครอบครัว   ที่ทำงาน   สังคมคาดหวังคุณไว้อย่างไร

Reality Self   จุดแข็งของคุณคืออะไร



พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท