เยี่ยมโรงเรียนฉือจี้ ที่อำเภอฝาง
หลังจากไปเยี่ยมโรงเรียนฉือจี้ที่ไถหนาน ไต้หวัน เมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ คณะของคุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม ก็นัดวันไปเยี่ยมโรงเรียนฉือจี้ในเมืองไทย ซึ่งมีอยู่โรงเรียนเดียวที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ได้วันเหมาะคือวันจันทร์ที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นฤดูฝน
ชุมชนแถวชายแดนทางเหนือบริเวณอำเภอแม่ฟ้าหลวง เวียงแก่น แม่อาย ฝาง พาน ไชยปราการ เป็นถิ่นของ จีนฮ่อ หรือทหารกองพล ๙๓ เดิม ของเจียงไคเช็ค ก่อนจีนตกอยู่ใต้รัฐบาลคอมมิวนิสต์ในปี ค.ศ. 1949 หรือ พ.ศ. ๒๔๙๒ เจียงไคเช็คทิ้งทหารเหล่านี้ ไว้ตรงรอยต่อระหว่างจีนกับพม่า ลาว และล้ำเข้ามาทางเหนือของไทยด้วย รวม ๒๓๐,๐๐๐ คน อยู่ในไทย ๓ หมื่นคน ด้วยความหวังว่าจะใช้เป็นกองกำลัง “เอาคืน” ประเทศ ซึ่งในที่สุดก็ทำไม่ได้
แต่ทางรัฐบาลไต้หวัน และขบวนการประชาชนไต้หวันในยุคต่อๆ มาก็ไม่ทอดทิ้งคนของตน ในปี พ.ศ. ๒๕๓๗ ประธานคณะกรรมการชาวจีนโพ้นทะเลแห่งไต้หวัน ได้ขอให้ฉือจี้เข้ามาช่วยเหลือคนเหล่านี้ ซึ่งขณะนั้นอยู่ในสภาพ ยากจน
เริ่มด้วยโครงการบรรเทาทุกข์ภาคเหนือไทย ๓ ปี ซึ่งจริงๆ แล้วพุ่งเป้าที่ครอบครัวของอดีตทหารจีนคณะชาติ มีการจัดตั้งบ้านพักคนชราบ้านใหม่หนองบัว อ. ไชยปราการ จ. เชียงใหม่ และบ้านพักคนชราบ้านผาตั้ง อ. เวียงแก่น จ. เชียงราย จนเวลานี้เหลืออดีตทหารจีนคณะชาติที่เป็นคนชราต้องการการดูแล เพียง ๖ คน จะเห็นว่าบ้านพักคนชรา ที่เขาตั้งขึ้นนี้ สำหรับดูแลอดีตทหารจีนคณะชาติโดยเฉพาะ
กิจการของฉือจี้ค่อยๆ ขยายตัวจนคิดตั้งโรงเรียนให้แก่ลูกหลานของทหารจีนคณะชาติเหล่านี้ ซึ่งมีถิ่นฐานเดิม เป็นคนมณฑลยูนนาน มีการเลือกพื้นที่ที่อำเภอฝาง เป็นลาดเขาที่เป็นพื้นที่สวยงามมาก รายละเอียดประวัติโรงเรียน ฉือจี้เชียงใหม่อ่านได้ ที่นี่ โรงเรียนนี้เริ่มเปิดรับนักเรียนในปี ๒๕๔๘ โดยรับชั้น ป. ๑ และ ป. ๔ เวลานี้มีนักเรียนชั้น ป. ๑ ถึง ม. ๖ รวม ๙๗๘ คน มีหอพัก ๒ หลังแยกชายหญิง รับนักเรียนชั้นมัธยมได้หอละร้อยคนเศษ ค่าเล่าเรียนเทอมละ ๖,๐๐๐ บาท ค่าหอพัก (รวมค่าอาหารมังสวิรัต ๓ มื้อ) เดือนละ ๔,๐๐๐ บาท นักเรียนจบ ม. ๖ ไปแล้ว ๒ รุ่น
เป้าหมายการไปเยี่ยมชมของคณะเราเน้นที่หลักการและวิธีการปลูกฝังจริยธรรมฉือจี้ แถมด้วยระบบอาสาสมัคร ทางโรงเรียนจึงแนะนำให้เราไปนอนค้างที่ฝางในคืนวันอาทิตย์ที่ ๒๓ กรกฎาคม แล้วเช้าวันที่ ๒๔ ไปเริ่มดูงานตอน ๗.๑๕ น. โดยดูบทฝึก “สำนึกบุญคุณ” (gratitude) และความเป็นระเบียบเรียบร้อย
นักเรียนส่วนใหญ่มาถึงโรงเรียนด้วยรถตู้ อัดกันมาคันรถละประมาณ ๒๐ คน โดยที่นั่งแบบรถสองแถว เสริมแถวกลางรถ เมื่อลงจากรถจะเข้าแถวทันที แล้วร่วมกันไหว้และกล่าวคำขอบคุณคนขับรถ พ่อแม่ของเด็กจ่ายค่ารถ รับส่งเหล่านี้เป็นรายเดือน และเด็กบางคนอยู่ไกลถึง ๓๐ - ๔๐ กิโลเมตรก็มี แม้คนขับรถจะได้รับค่าโดยสาร แต่นักเรียนก็ไหว้อย่างนอบน้อม แสดง “สำนึกบุญคุณ”
แล้วเด็กจะเดินแถวไปทำความเคารพครูทีละกลุ่ม โดยมีครูคนหนึ่งรอรับอยู่ จุดน่าประทับใจคือ ครูไหว้ศิษย์โดยก้มต่ำกว่านักเรียน เป็นนัยยะของ “สำนึกบุญคุณ” ว่านักเรียนช่วยให้ตนมีอาชีพเป็นครู เป็นชีวิตที่ดี ส่วนเด็กๆ ก็ไหว้ครูอย่างนอบน้อม แสดง “สำนึกบุญคุณ” เช่นเดียวกัน แล้วเดินแถวไปเข้าห้องของตน
โรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่ สร้างบนที่ดินที่เป็นไหล่เขา พื้นที่ลาดเอียง มีภูเขาอยู่ด้านหลัง ด้านหน้าเป็นทุ่งนา ไกลออกไปเป็นภูเขา จัดได้ว่าโรงเรียนตั้งอยู่ตรงที่มีฮวงจุ้ยดีมาก ที่ดิน ๑๒๓ ไร่ ใช้ประโยชน์ในปัจจุบันครึ่งหนึ่ง
อาคารมีลักษณะเหมือนโรงเรียนฉือจี้หัวเหลียนที่ไต้หวันไม่มีผิด เขากล่าวคำของท่านธรรมาจารย์เจิ้งเหยียนว่า สร้างเพื่อให้คงทนอยู่ไปได้ร้อยปี
วิจารณ์ พานิช
๑๗ ก.ค. ๖๐
1 คณะผู้ไปเยือนถ่ายรูปหมู่หน้าโรงเรียน
2 นักเรียนมาจากบ้านโดยรถตู้ ลงจากรถเข้าแถวไหว้ขอบคุณคนขับรถ
3 แล้วเข้าแถวเดินไปทำความเคารพครู
4 ครู (คนซ้ายสุด) ไหว้ต่ำกว่านักเรียน
5 นักเรียนเดินเรียงแถวจากห้องมาเข้าแถวเคารพธรชาติ มาทีละห้อง
6 นักเรียนชั้นมัธยมเข้าแถวเคารพธงชาติ
7 ห้องเรียนชั้น ป. ๑
8 อาคารเรียนชั้นมัธยม
9 นักเรียนชั้นมัธยมอธิบายแนวทางพัฒนาจิตใจของนักเรียน
10 ร้องเพลงประกอบภาษามือ
11 นักเรียนมัธยมเดินแถวไปรับประทานอาหารเที่ยง
12 ในโรงอาหาร รอให้ทุกคนตักอาหารและเข้าที่นั่ง กล่าวคำขอบคุณพร้อมกัน แล้วจึงเริ่มรับประทาน
13 วงรับประทานอาหารเที่ยงของอาคันตุกะ
14 ผู้ไปเยือนถ่ายรูปหมู่ร่วมกับผู้บริหารโรงเรียน
ความเห็น (2)
อยากไปเยี่ยมโรงเรียนฉือจี้ อยากให้ลูกหลานไปเรียนครับ ได้ภาษาสังคมวัฒนธรรมมี่ดีงามขอบคุณครับ
นาย พฤหัส มูลเมือง
สนใจ ส่งบุตรมาเรียน ต้องทำอย่างไรบ้างครับ