เที่ยวทัวร์เกาหลี ของฝากเกาหลี เดือนเมษา ราคาหมื่นเดียว เที่ยวคุ้ม

ประสบการณ์เที่ยวทัวร์เกาหลี ซื้อของฝากเกาหลี เดือนเมษา ราคาหมื่นเดียว เที่ยวครบ ไปได้จริง

ประสบการณ์เที่ยวทัวร์เกาหลี เดือนเมษา ราคาหมื่นเดียว เที่ยวครบ ไปได้จริง

การท่องเที่ยวเกาหลีครั้งนี้ เป็นการไปเที่ยวเกาหลีครั้งที่สอง  หลังจากไปครั้งแรกกับโคเรียนแอร์ 5 วัน 3 คืน พักแบบ 4 ดาว การไปครั้งนี้จึงอยากทดลองไปกับทัวร์ราคาถูกที่โฆษณาตามเว็บไซต์หรือเฟสบุค ซึ่งเมื่อเช็คโปรแกรมแล้วก็ดูเหมือนเป็นผู้จัดเจ้าเดียวกัน ประกอบกับเจอโฆษณาบริษัททัวร์เกาหลีจากหนังสือพิมพ์หัวสีชมพู ว่าชื่อบริษัททรูเวิร์ลดทราเวล True World Travel (ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท ทรู มูฟ) จึงลองเข้าไปหาข้อมูลดู ราคาปกติที่ไม่ใช่ที่นั่งเหลือ หรือทัวร์ไฟไหม้ ช่วงธรรมดาอยู่ที่ 8500 บาท ช่วงเมษายน ปลายเดือนอยู่ที่ 9900 บาท และช่วงก่อนสงกรานต์ไปดูซากุระเกาหลี อยู่ที่ 11900 บาท บินสายการบินโลว์คอร์ว Eastar Air แต่ไปได้จริง คุณภาพก็สมกับราคา  เที่ยวครบทุกที่ตามโปรแกรม 4 วัน 2 คืน 

เที่ยวบินราคาถูก จึงเป็นปกติที่ได้เที่ยวบินตอนตีสาม ถึงเกาหลีเกือบ 10 โมงเช้า (เวลาเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง)

ที่นั่งบนเครื่องแม้จะเป็นคนขายาว หากนั่งแถวกลาง (แบบแถวละ 3 ที่นั่ง 2 แถว) ก็ไม่อึดอัด เบาะปรับเอนได้ประมาณ 10 เซนติเมตร ขาไปเลือกนั่งกลางเลยไม่อึดอัดมากแม้จะนั่งถึง 5 ชั่วโมง ส่วนขากลับนั่งติดหน้าต่าง และคนนั่งติดแถวกลางไม่รู้จักกันเป็นจากบัสอื่น จึงค่อนข้างอึดอัดในเวลาลุกไปห้องน้ำนิด

โปรแกรมการท่องเที่ยวไม่นับวันเดินทาง

วันแรก ไปหมู่บ้านฝรั่งเศส หมู่บ้านเทพนิยาย เกาะนามิ แวะช็อปปิ้ง วันที่ไป ตม.แถวยาวใช้เวลานานหมู่บ้านฝรั่งเศสจึงถูกตัดแต่ชดเชยเป็นค่าตั๋วขึ้นหอคอย N-tower ในวันที่สาม เพราะตามโปรแกรมไม่รวมค่าขึ้นหอคอย 

วันที่ 2 สวนสนุกล๊อตเต้ โดยในส่วนพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Sea World Aquarium ตึก 63 Building ปรับโปรแกรมเป็น lotte world aquarium ในห้าง lotte world mall ใกล้สวนสนุกล๊อตเต้ ช็อปปิ้งย่านฮงแด ถ่ายรูปชุดฮันบกที่ร้านขายเครื่องสำอาง Beauty Prism

วันที่ 3 พระราชวังถ็อกซูกุงถ่ายรูปกับต้นซากุระ  เที่ยวชมหอคอยกรุงโซล N-Tower จากนั้นช็อปปิ้งที่ย่านเมียงดง 

ส่วนรายการอาหารครบตามโปรแกรม คือ

วันแรก มื้อเช้าอาหารโรงแรม กลางวันพลุโกกิ ส่วนผสมของเมนูนี้ คือหมูหมักชิ้นบาง ๆ ผักต่าง ๆ กับมื้อเย็นทัคคาลบี้ อาหารยอดนิยมอีกชนิดหนึ่ง ของคนเกาหลี เนื้อไก่ บาร์บีคิว ผักต่างๆ ผัด
วันที่ 2 มื้อเช้าอาหารโรงแรม กลางวันคาลบิ ( Kalbi) อาหารเกาหลีแบบปิ้งย่างที่มีชื่อเสียงของเกาหลี และมื้อเย็น จิมดัก ไก่อบซีอิ๊ว ร้านใกล้ๆร้าน Etude

วันที่ 3 มื้อเช้าอาหารโรงแรม กลางวันและเย็นอิสระ หาทานเอง ซึ่งก็หาร้านไม่ยาก  มื้ออิสระ กลางวัน ที่ตลาดเมียงดง ขอแนะนำ เมื่อเดินเข้าไปสักนิดจะมีร้านอาหาร korean Treadition food อยู่ชั้นสองด้านขวามือ แนะนำอาหารชุด หมูเกาหลีพร้อมเครื่องเคียงหลากหลาย ชุดละ 12000 วอนต่อ 1 ท่าน พิเศษช่วง 11.30-17.00 น. เหลือชุดละ 11000 วอนต่อคน(ราว350บาท) หากไปสองคนต้องสั่ง 2 ชุด กรณีสั่งชุดเหมือนกัน เวลาเสิร์ฟเครื่องเคียงจะมาชุดเดียว หากสั่งหมูเหมือนกัน จะเสิร์ฟมาจานเดียวแต่เพิ่มปริมาณ กรณีสองชุดเป็นเนื้อคนละแบบ จะแยกจานมา (ดูเมนูและรูปอาหารด้านล่าง) 

มื้ออิสระ อาหารเย็นที่สนามบิน แนะนำรับประทานที่สนามบินมีร้านอาหารราคาไม่แพงมาเมื่อเทียบกันร้านค้าทั่วไปในเกาหลี สั่งอาหารที่เคาเตอร์รวม แล้วรอรับที่ร้าน ราคา 7000-8000 วอนขึ้นไป หรือ ช่วง Gates 130 มีร้านดังกิ้งโดนัท ขายโดนัท แซนด์วิช 1 กล่อง 2 ชิ้น ราคา 6000 วอน ส่วนน้ำแร่ ขวดละ 1600 วอน (นำน้ำขวดนี้ขึ้นเครื่องได้)

โรงแรมที่พัก ได้โรงแรมที่เพิ่งเปิดบริการได้ไม่นาน RAMADA

ของฝากเกาหลี

Etude แนะนำซื้อที่สวนสนุกล๊อตเต้เลย วันไปแผ่นมาร์สกหน้าได้โปร 1 แถม 1 (10000 วอน 10+10 แผ่น)

เครื่องสำอาง กระเป๋าสามารถซื้อได้จากตลาดเมียงดงที่ซื้อเครื่องสำอาง ETUDE อีทูดี้ และสกินฟู๊ด skin food,(ทาง4แยก), Innistree อยู่เลยอีทูดี้ไปนิด ร้านนี้ Tax Free หรือ ร้านป้าปากแดง ทางข้ามอุโมงค์ใต้ดิน (ฝั่งเดียวกะร้าน etude, skin food สาขาสะพานใต้ดิน ก่อนถึงบันได้ตลาดเมียงดง) เหล้าพื้นเมืองสามารถซื้อในซุปเปอร์มาร์เกตทั่วไป เหล้าเซจู ชินโร ขวด 500 cc. ราคา 2400 วอน สาหร่ายซื้อได้ที่ในตลาดเมียงดง ราคามีหลายชนิด อย่ากลัวคำขู่ว่าไม่กรอบ เพราะมีวันผลิต วันหมดอายุ ลองซื้อมาแล้วกรอบดี(ดูวันผลิตไม่เกิน 2 เดือน) ร้านทางเข้าตลาดบริเวณตรงกับประตูข้างของไปรษณีย์กลาง(ประตู2) ร้านกระเป๋า 10000 วอน มีหลายรูปแบบ ส่วนที่ 30000-40000 วอนสามารถต่อรองราคาได้ (วิธีใช้ toner และ emulsion ให้ใช้ทูเนอเช็ดก่อนทาด้วยอีมัลชั่น)

เครื่องสำอางอีทูดี้ ETUDE, skin food, beauty credit หรือ แป้งม้าโยกมีอีกร้านตรงอุโมงค์ข้ามถนนหน้าไปรษณีย์กลางเกาหลีในอุโมงค์ทางข้ามใต้ดินมีสินค้าหลายชนิด น่าลองเดินไปดูไม่ต้องกลัวหลงเพราะทางลงอยู่หน้าไปรษณีย์ หรือ ร้านป้าปากแดง ที่มีฟรีกิ๊ฟ testerสินค้าตัวอย่างให้เยอะถูกใจ หรือร้าน Beauty Prism ที่ขายเครื่องสำอางราคาพอซื้อได้ เพราะมีบริการแต่งชุดฮันบกถ่ายรูปฟรี

ทางไปร้านป้าปากแดงง่ายๆ คือ ลงทางข้ามใต้ดินประตู 2 (หันหน้าเข้าหาไปรษณีย์เกาหลี ด้านขวามือมีร้านสตาร์บ บริเวณนั้นจะเป็นปากทางเข้าตลาดเมียงดง ให้ลงอุโมงค์ทางข้ามใต้ดินลงไปจะเจอประตูทางซ้านมือ เปิดประตูเข้าไปร้านป้าปากแดงจะอยู่ร้านแรกด้านขวามือ ในร้านจะมีเครื่องสำอางสารพัดชนิด ทั้ง etude, skin food, beauty credit หรือ แป้งม้าโยก ราคาเท่าร้านใหญ่ แต่อาจมีโปร 5 แถม 1 (เท่ากับได้ลด20%) ผิวหน้าคนไทยใช้แป้งเบอร์ 23 (เบอร์21 ผิวขาวมากแบบคนเกาหลี)หรือร้าน Beauty Prism ที่ทัวร์พาไปซื้อเครื่องสำอางและแต่งชุดฮันบกถ่ายรูปฟรี มีฉากสวยๆให้เลือกถ่ายสิบฉาก ราคาพอรับได้ ซื้อได้เลย อีกจุดที่ซื้อแล้วประทับใจ คือ ร้านเครื่องสำอางในสวนสนุกล็อตเต้ มีหลายร้านมาก etude จัดโปร buy 1 get 1 ไม่ต้องเป็นสมาชิก ทั้งแผ่นมาสหน้า บลัซเชอร์ทาแก้ม ลิปสติก แถมยังมีฟรีกิ๊ฟให้พอสมควร (แต่พอไปช็อปที่สาขาอื่น มีโปร 1 แถม 1 แต่ว่าเฉพาะผู้เป็นสมาชืกเท่านั้น หลายคนเสียดายเป็นแถว)

คำแนะนำ การซื้อสินค้าต่าง ๆ สามารถหาซื้อได้ในซุปเปอร์มาร์เกต ร้านเซเว่น GS25 หรือแฟมิลี่มาร์ทในเกาหลี เพราะสะดวก มีราคาบอก ไม่ต้องห่วงเรื่องโดนหลอก โดยร้านที่อยู่ในเส้นทางคือทางเข้าตลาดเมียงดงที่รถจะจอดส่งที่ไปรษณีย์กลางเกาหลี เข้าซอยสักเล็กน้อยอยู่ทางซ้ายมือ ตรงกับประตูข้างไปรษณีย์กลาง และเก็บไปซื้อป๊อกกี้เกาหลี ตราลอตเต้ไส้ชอคโกแลตเคลือบอัลมอนต์ Lotte PEPERO กล่องธรรมดา กล่องละ 1200 วอนที่ ซุปเปอร์มาร์เกตละลายเงินวอน เพื่อแพ็คของใส่ลัง ชาโสม หากไม่ซื้อที่ร้านโสม สามารถซื้อในซุปเปอร์มาร์เกตร้านสุดท้ายได้ 

เงินวอนเหลือจุดสุดท้ายที่ละลายเงินวอน คือ ร้านดิวตี้ฟรี แต่คิดเรทเงิน us แล้วแปลงเป็น won มีชินราเมนลังละ 16 usd. พอๆกับร้านด้านนอกแพงกว่านิดเดียว นมกล้วยหอม 10 usd. หรือ 11130 วอน

การใส่ชุดฮันบกถ่ายรูป ทัวร์พาไปร้านขายเครื่องสำอาง Beauty Prism ซื้อเครื่องสำอางราคาไม่แพงเกินจริงนัก และแจกสินค้าตัวอย่างเยอะ ชั้นบนจะมีชุดฮันบกให้ถ่ายรูปพร้อมฉากสวยๆประมาณ 10 โลเคชั่น

ปลั๊กไฟในเกาหลีเป็นแบบรูกลม ที่โต๊ะแต่งตัวมักมีปลั๊กเสียบแบบไทยให้ 1 ช่อง อาจนำปลั๊กสามตาไป หากต้องต่อชาร์ตอุปกรณ์หลายชิ้นพร้อมกัน หรือยืมโรงแรม ค่ามัดจำ 10000 วอน

เรื่องภาพถ่ายขอแนะนำให้เลือกเพียงพอประมาณ 

กรณีภาพเล็กแม้ช่างภาพจะทำมาเป็นเล่มให้เรา ก็ขอเลือกเป็นบางภาพได้สำหรับคนไม่อยากจ่ายแพง(มาก) พอเป็นน้ำใจ เพราะอัลบั้มที่ให้สามารถเลือกเอาเป็นภาพได้ กรณีภาพใหญ่แบบแขวนถ้ามากไปก็เลือกเอา 1-2 ภาพต่อคน

คำแนะนำ การใช้บริการถ่ายภาพ ให้เลือกภาพตามที่คุณพอใจ พอรักษาน้ำใจ กรณีภาพเล็กเป็นเล่มคนละ 5-10 ภาพ (คิดเป็นเงินคนละ 600-1500 บาท) อย่าเลือกยกเล่ม กรณ๊ภาพใหญ่สังเกตจากการถ่ายรูปไม่มาถ่ายเราบ่อยถ่ายวันละภาพ ถึงวันสุดท้ายอัดมาให้ 2-3 ภาพ อาจเลือกเอาเฉพาะภาพที่ถูกใจ( ภาพละ 960 บาท) การอัดภาพใหญ่ใส่ผืนผ้า หากเป็นภาพแนวนอน ยังพอทนที่ใส่ท่อพลาสติกแนวนอน แขวนสะดวก แต่ภาพแนวตั้งเหฌนแล้วปวดหัวเลย เธอเล่นใส่ท่อพลาสติกแนวตั้ง(แนวยาวของภาพ) แขวนแล้วไม่สวยเลย ต้องถอดมาใส่ด้านสั้นของภาพเพื่อแขวน อันนี้ไกด์น่านำไปปรับปรุง

wifi เกาหลี วันไปใช้บริการของ easywifi บริษัทเดียวกับ eadykoreawifi ข้อดีคือรับที่สุวรรณภูมิ ชั้น4 (จุดรอนัดพบทัวร์) ราคาวันละ250บาท ค่าประกันภัยเครื่อง 200 (ไม่คืน) และส่งคืนที่ทางออกเมื่อรับกระเป๋าแล้ว ข้อดีอีกอย่างคือ มีบริการโทรเตือนก่อนเดินทาง และโทรหาเมื่อเคริ่องบินลงกันเราลืม

การแลกเงินวอนมีหลายร้าน เรตจะถูกกว่าธนาคาร เช่น ซุปเปอร์ริท, ร้านเซี๊ยะ สามารถหาได้ในกูเกิล ควรเป็นร้านที่ไว้ใจได้ หรือกันไว้แลกที่สนามบินเกาหลีส่วนหนึ่ง หากแลกกับไกด์ทางเกาหลีเรต 1 บาท ได้เพียง 30 วอน (1 วอน เท่ากับ 0.033 บาท ซึ่งหากคิดเป็นหมื่นบาทแล้วมีความแตกต่างกว่ากันประมาณ 1000 บาท) แทนที่ 1 หมื่นบาทจะได้ 350000 วอน โดยประมาณ เหลือ 300000 วอน หายไป 5000 วอน ประมาณ 150 บาท ต่อหมื่นบาทไทย โดยส่วนตัวใช้ ซุปเปอร์ริท ไปสี่แยกประตูน้ำ ซอยราชดำริ 1 (ก่อนถึงธนาคารกรุงเทพ) และซอยราชดำริ 2 (ปากซอยมีบิ๊กซี) ข้าไปนิด ได้เรทดี