มีคนรักกันถามผมว่า ผมไปทำงานให้แก่รัฐบาลบ้างหรือไม่ ซึ่งผมตอบว่าไม่มี แต่ก็ทำให้ฉุกคิด ว่าคนถามอาจมองแง่ดี ว่าผมน่าจะทำประโยชน์ให้แก่บ้านเมือง ผ่านระบบการเมืองยุค รสช. ได้
ผมกลับมาไตร่ตรองที่บ้าน ว่าคนถามคงจะมองว่า คนแก่อย่างผมน่าจะยังทำประโยชน์ให้แก่บ้านเมือง หรือสังคมได้ แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างยิ่ง เพราะปัจจุบันนี้ ผมยังทำงาน ที่ผมภูมิใจว่า ทำประโยชน์แก่สังคมมาก มากในฐานะคนแก่นะครับ ไม่ใช่มากอย่างคนหนุ่มสาว
เป็นที่มาของชื่อบันทึกนี้ ว่าคนเรามีความถนัดไม่เหมือนกัน คนอย่างผมถนัดงานวิชาการ วิชาความรู้ ชอบเรียนรู้ งานที่ทำในด้านส่งเสริมการเรียนรู้จึงเป็นงานที่ถนัด และทำแล้วมีความสุข ชีวิตช่วงนี้จึงเป็นชีวิตที่มีความสุขมาก โดยเชื่อว่า เป็นงานที่ช่วยหนุน ประเทศไทย ๔.๐ งานที่ผมไม่ถนัดเลยคืองานการเมือง
ที่จริงคนแก่ขนาดผม หน้าที่สำคัญคือประคองตัวให้ดี ให้ยังพอทำประโยชน์ได้ และไม่เป็นภาระแก่คนอื่น ก็น่าจะพอใจแล้ว ไม่น่าจะไปหวังมีตำแหน่งหน้าที่อะไรอีก
วิจารณ์ พานิช
๑๕ มิ.ย. ๖๐
I support your work on shaping the "right view" for society. Without the right view most actions (management and operations) would be withour a clear direction or merely 'reactions to fires or threats'. I think to strive for better society is far more important than to accumulate recognition and wealth.
Thailand is lacking in both visionaries and high-quality executives. The frustration resulted from these lackings may be expressed in "wishes" (that visionaries also execute their vision and/or executives also have visions.) As 'collaboration' is another word for 'democratic process' (in Buddhist term 'sangha'), mission teams are to be developed and allowed to work.
I believe you are doing a lot in many such teams already. I thank you and hold you in high regards.