ไม่มีวันที่เราจะพรากจากกัน


ร่างกายเราจะดีและเฮลท์ตี้ได้นั้นเกิดจากการดูแลตนเองและความตั้งใจจริง ....สุขภาพดีไม่มีขาย.....อยากได้ต้องขวนขวายเอง...

สมัยที่เรายังเด็ก  เอ๊ะ...เกริ่นมาอย่างนี้แสดงว่าเราแก่เลี้ยว...นะเนี่ย..

เฮ้อ.!! ..แต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ ความจริงก็ต้องเป็นความจริงวันยังค่ำ อย่าถือสาคนแก่เลยนะ

อิชั้นกำลังจะบอกว่า สมัยยังเด็กเราเรียนมาว่า...สุขอนามัยของที่ดีของปากต้องแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือถ้าจะให้ดีเยี่ยมจริง ๆ ก็ต้องแปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร จริงมั๊ยจ๊ะ..?

ตัวอิชั้นเองก็ทำได้บ้างทำไม่ได้บ้าง และ..ละเลยการดูแลช่องปากของตนเองจนกระทั่งวันหนึ่ง..ก็ซักประมาณ  7 เดือนที่ผ่านมาเกิดอาการของโรคเหงือกอักเสบ ..

อ๋อ...!!! ว่าไงนะคะ ...รู้ได้อย่างไรหรือคะ ?

 ก็เวลาที่ขบฟันบน-ล่างเข้าหากันแล้วเกิดมีอาการตึง ๆ และเจ็บที่เหงือก ลองอ้าปาก...ส่องกระจกดูก็เห็นเหงือกบวมนิดหน่อย พอมีอาการดังกล่าว ความกลัวที่ว่าจะเกิดภาวะ เหงือกจ๋า..ฟันลาก่อน จึงรีบไปหาหมอฟันทันที ....

คุณหมอกระปุกก็แสนดี ทำการตรวจและวินิจฉัยให้ฟังว่าบริเวณที่ฟันติดกับเหงือกของฟันกรามมีอาการอักเสบที่เกิดจากการสะสมของแบคทีเรียเกิดเป็นคราบหินปูน หลังจากนั้นก็ทำการทั้งขูด...ทั้งกรอ..ฟันจนปากอิชั้นระบมไปหมด แต่หลังจากนั้น 5-7 วันผ่านไปอาการอักเสบก็หายไปก็รู้สึกฟันสะอาดขึ้น

คุณหมอบอกว่าฟันคนเราบริเวณด้านในมักจะเป็นหลุมพรางสุขอนามัยของช่องปาก หากเราดูแลและทำความสะอาดได้ไม่ดีก็จะทำให้เกิดปัญหาโรคเหงือกอักสบได้ สิ่งที่ช่วยได้คือ..

  • การแปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร หรือทุก 3-4 ชั่วโมง จะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปากได้ โอย...แล้วอิชั้นจะทำได้ไหมเนี่ย...
  • ในกรณีของฟันกรามด้านในและร่องระหว่างฟัน ต้องมีผู้ช่วย หา...แล้วฉันจะไปให้ใครช่วยแปรงฟันให้ล่ะ...แหม..!!! ก็คุณไหมขัดฟันน่ะซิ ไหมขัดฟันจะช่วยทำความสะอาดร่องฟันเพื่อให้ทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง

หลังจากเผชิญความเจ็บปวดหลังจากขูดและกรอฟันมาแล้วทำให้อิชั้นต้องปฏิวัติตัวเองใหม่อีกครั้ง  สู้โว้ย...โดย

  • แปรงฟันอย่างตั้งใจและซอกซอนอย่างละเอียด ค่อย ๆ แปรงฟัน ไม่ทำร้ายเหงือกตนเอง (อย่างที่แล้วมา)
  • หลังรับประทานอาหารทุกครั้งรีบแปรงฟันทันที
  • ใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดร่องฟันทุกซี่ (และค่อย ๆ ขัด...ขัดฟันนะ...ไม่ใช่ขัดส้วม.. )
  • มีนัด...แหะ..แหะ...กับหมอฟันทุก 3 เดือนเพื่อขูดหินปูน แหม...ถ้าปูนที่ขัดออกมาเอาไปโบกตึกได้ก็คงจะดีเนอะ...

3 เดือนผ่านไปหลังจากปฏิวัติตนเองและทำได้ตามที่ตั้งใจ...ปรากฏว่าเมื่ออิชั้นไปพบคุณหมอกระปุกตามนัด คุณหมอชมว่า...ดูแลสุขภาพฟันและช่องปากได้ดีมากเลย โรคเหงือกก็หายไปแล้ว อิชั้นก็ยิ้มหน้าบานซิคะ โอว...เหงือกจ๋าฟันจะอยู่คู่กับเธอตลอดไปนะจ๊ะ..อิอิ

 

อิชั้นค้นพบว่าร่างกายเราจะดีและเฮลท์ตี้ได้นั้นเกิดจากการดูแลตนเองและความตั้งใจจริง .....

สุขภาพดีไม่มีขาย.....อยากได้ต้องขวนขวายเอง..

ทุกวันนี้อิชั้นก็ยังคงปฏิบัติและดูแลช่องปากอย่างดี และจะไม่ยอมให้อะไรมาพรากฟันของอิชั้นไปจากเหงือกได้ร้อก..เราต้องอยู่คู่กันดังเช่น ตาอยู่คู่กะยาย.....ฮึ่ม...อิชั้นขอบอก

หมายเลขบันทึก: 63080เขียนเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2006 13:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

อยากให้หนูเล็กสอนน้องๆเรื่องการดูแลฟันเพราะเป็นจุดอ่อนของคนไทยค่ะ

แวะมาเยี่ยมพี่เล็กคับ

เพิ่งกลับจากโรงเรียน

สาว OR. ได้เปรียบคับ ผูก mask เกือบตลอดเวลา

อิอิ ล้อเล่นอ่ะพี่

ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้พี่เล็กตลอดไปคับ

กับความขยัน เอาจริงเอาจัง

 

  • อ่านชื่อเรื่องน่าสนใจมากว่า "เอ๊ะ....ใครจะไม่พรากจากใคร" 
  • พออ่านเนื้อเรื่องแล้ว เห็นด้วยอย่างยิ่งว่าทั้งคู่ไม่ควรจะพรากจากกัน 
  • "น้องเล็ก" เตรียมพร้อมเรื่อง KM กรมฯ เรียบร้อยแล้วมีอารมณ์สุนทรี บันทึกเรื่องเบาๆ ที่เป็นประโยชน์ได้น่าติดตามมากค่ะ

   อยากทำให้ได้ทุกวันเหมือนกันแต่เอ๊ะ เดี๋ยวเอาไว้ก่อนเรื่อยเลยจ้ะ                 

                 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท