ห้องสมุดจะพัฒนายังไงขึ้นอยู่กับผู้บริหารจริงปล่าว
"ตราบใดที่บรรณารักษ์เสนอโครงการมากมายแต่ถ้าผู้บริหารไม่เห็นความสำคัญก็มักจะทำให้ห้องสมุดถูกปล่อยปล่ะละเลยอยู่เสมอๆ"
คุณเห็นด้วยหรือไม่ กับประโยคข้างต้น
ทุกๆ ห้องสมุดผมว่าน่าจะมีปัญหาเรื่องนี้เช่นกัน ในเรื่องความเข้าใจความสำคัญของห้องสมุดระหว่างบรรณารักษ์ กับ ผู้บริหาร หาก สอดคล้องกันคือ ผู้บริหารกับบรรณารักษ์เข้าใจในกระบวนงานของห้องสมุด ผมคิดว่าห้องสมุดนั้นคงจะทำงานได้ง่ายขึ้น เพราะว่าผู้บริหารกับผู้ปฏิบัติงานต่างเข้าใจในกระบวนงาน แต่หากเกิดความไม่เข้าใจก็อาจจะส่งผลในทางตรงข้ามได้
ตัวอย่างเช่น
ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ ผู้บริหารก็มักจะถามว่าจำเป็นด้วยหรอ บรรณารักษ์ก็จะตอบว่าจำเป็น ผู้บริหารก็บอกว่าพัฒนาเองไม่ได้หรอ ทำไมต้องซื้อราคาแพงๆ บรรณารักษ์ก็บอกว่าพัฒนาเองได้ แต่คงไม่มีความเสถียรพอหรือใช้ไปอาจจะไม่เป็นมาตรฐาน เนื่องจากบรรณารักษ์ไม่ใช่โปรแกรมเมอร์ ผู้บริหารก็บอกต่อว่างั้นก็ให้โปรแกรมเมอร์เป็นคนออกแบบสิ โปรแกรมเมอร์ก็ออกแบบมาให้ บรรณารักษ์ใช้ไม่ได้เนื่องจากโปรแกรมเมอร์ก็ไม่เข้าใจกระบวนงานของบรรณารักษ์ ที่แน่ๆ โปรแกรมเมอร์คงไม่รู้จัก MARC Format พอออกแบบเสร็จก็เลยเกิดปัญหาตามมาต่างๆ แทนที่จะได้ใช้ระบบห้องสมุดอัตโนมัติก็เลย ต้องรอต่อไปครับ.....นี่เป็นตัวอย่างคร่าวๆ
ปัญหานี้คงแก้ได้ไม่ยาก หากผู้บริหารและบรรณารักษืต้องพยายามปรับความคิดให้เข้าหากันเนื่องจากห้องสมุดก็เป็นแหล่งเรียนรู้ของทุกคกๆ คน ไม่มีใครที่สำคัญกว่าผู้ใช้บริการของพวกเราถูกมั้ยครับ
ทีนี้เลยอยากทราบว่าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในวงการของเราเคยเจอปัญหานี้บ้างมั้ย มีอะไรแนะนำกันบ้างนะครับ เพื่อวงการบรรณารักษ์และการพัฒนาห้องสมุดอย่างยั้งยืน......
ขอบคุณสำหรับทุกความคิดล่วงหน้าครับ
ความเห็น (5)
นานาจิตตังค่ะ แล้วแต่ว่าการใช้งานของแต่ล่ะที่ค่ะ
ถ้าผู้ใช้บริการเยอะความต้องการมาก
ก็คุ้มค่าที่จะใช้ระบบห้องสมุดอัตโนมัติที่มีการใช้งานที่สมบูรณ์
แต่ถ้าความต้องการใช้น้อย ก็เรียกว่าไม่คุ้มทุนน่ะค่ะ
สู้ๆค่ะ
เห็นด้วยนะคับ ผมนะ ก้อ เป็นน้องใหม่เพิ่งจบ ไฟแรงคับ คิดโครงการมากมายๆ ซึ่งเป็นโครงการที่เป้นการประชาสัมพันธ์ ห้องสมุดให้กับประชาชนได้รุ้จัก เพราะ ผมสังเกตุ ว่า ประชาชน แถวห้องสมุด ผม ยัง ไม่รุ้เลย ว่า ตึกที่ตั้งสูงๆ ตรงนี่ คือ ห้องสมุด ผม อ่ะงง ผมคิดว่า ห้องสมุดกับการประชาสัมพันธ์ ที่ผมเรีนยมา นั้น จะได้ ใช้ ก้อ คราวนี่ล่ะ ผมก้อ เลยคิดโครงการ ขึ้น เพื่อเป้นก่ารประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชน ได้รุ์จัก ห้องสมุด และเป้นการ ให้บริการสารสนเทศ ถึงบ้านด้วย และ เป็นการ รับสมัคร สมาชิกห้องมุด ที่มีน้อยๆ ให้เพิ่มมากขึ้น แต่แล้ว ผมก้อ โดน ดี ผุ้บริหารเรียกผมเข้าไปคุย ว่า เธอจะเขียนโครงการอะไรบ้าๆของเธ อมากมาย เพื่อออ ไร ผมก็ อธิบาย แต่ผู้บริหารผม ไม่ฟัง คับ หาว่า ผมซ่า และว่าผม ว่า อย่าซ่าให้มาก และเขาก้อ ไล่ผมออกจากห้อง ซึ่งเป้นการบ่นทอน กำลังใจผมจนถึงวันนี้ แต่ผมก้อ พยายามไม่คิดมาก นะคับ สุๆ เพราะผมชอบอาชีพนี่ คับ รัก ด้วย
บังเอิญว่าสนใจเรียนทางด้านบรรณารักษศาสตร์พอดีเลยครับ แต่คงต้องเรียนเป็นระดับปริญญาโทแล้ว (กลับลำไม่ทันแล้วครับ^^')
เพราะตอนเรียนปริญญาตรีได้ลองลงวิชาของภาควิชาบรรณารักษศาสตร์ดูแล้วรู้สึกว่าเป็นวิชาที่น่าสนใจมาก และเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอย่างใกล้ชิดอีกด้วย ทำให้เรามีความเป็นระเบียบในการจัดการเรื่องต่างๆได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังได้ความรู้อื่นๆอีกมากที่สามารถนำแนวคิดไปประยุกต์ใช้กับชีวิตจริงได้ (วิชาที่ลงเรียนคือ การจัดการสารนิเทศในสำนักงาน ครับ) จากเดิมที่เคยคิดว่าสาขาวิชานี้คงมีแต่การจัดหนังสือก็เปลี่ยนความคิดไปเลยครับ กลายเป็นสนใจในสาขาวิชานี้เลย
เพิ่งจะอ่านเจอ blog นี้ ดีใจจังเลยครับ จะได้อ่านประสบการณ์ของคนที่เป็นบรรณารักษ์
เข้ามาเขียนบ่อยๆนะครับ
เราอยู่ห้องสมุดประชาชนค่ะ แต่เจอปัญหาเรื่องการจัดกิจกรรมเพราะ้เป็นห้องสมุดอิเล็กทรอนิกที่มีชีวิตชีวา
แล้วต้องจัดกิจกรรม มีการปรับปรุงห้องสมุด แต่เวลาจัดกิจกรรมทีไร ไม่มีงบประมาณให้จัด
แล้วอยากได้กิจกรรม เหอๆๆๆ น่ากลัว
เราเลยจัดตามมีตามเกิด
เข้าดูได้ค่ะ http://gotoknow.org/file/kapoomka/local.jpg
http://gotoknow.org/file/kapoomka/12.jpg
มันซะไม่มีเลยล่ะ