บทความเรื่อง Prepare for the Digital Health Revolution ในนิตยสาร ฟอร์จูน ฉบับวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐ บอกเราว่า ระบบสุขภาพกำลังจะถูกรื้อสร้างใหม่ (re-invent) เป็นโฉมหน้าใหม่ของการมีสุขภาพดี โดยการช่วยเหลือจากเทคโนโลยี ดังต่อไปนี้
- บริการถึงประตูบ้าน (Telemedicine) เป็นการย้อนสภาพไปเหมือนเมื่อร้อยปีก่อน หรือที่บ้านเราสมัยหกเจ็ดสิบปีก่อน ที่หมอถือล่วมยาไปรักษาคนไข้ที่บ้าน ต่อไป “แพทย์เสมือน” (virtual doctor) ทำหน้าที่นี้ผ่านคลื่น และที่ดีกว่าหมอตัวจริงคือ เรียกเมื่อไรมาเดี๋ยวนั้น แต่ก็อาจมีข้อด้อยคือคนไข้อาจจู้จี้ใช้บริการที่ไม่จำเป็น จนค่าใช้จ่ายสูงมาก และต้องมีระบบตรวจสอบมาตรฐาน ระบบนี้จะดีมากหากมีลักษณะสามอย่าง คือสะดวก แม่นยำ และประหยัด
- Algorithmic medicine นี่คือการแพทย์ที่ใช้พลัง big data, machine learning, และ AI (artificial intelligence) โดยมีผู้นำคือ Watson ของ IBM เงื่อนไขสำคัญที่จะให้ระบบนี้ ก่อประโยชน์กว้างขวางคือการแชร์ข้อมูลกัน
- Next-generation capsule / The evolution of drug delivery การให้ยาเข้าร่างกายด้วยกระบอกและเข็มฉีดยา เริ่มมีใช้ในปี ค.ศ. 1950s โดยใช้ฉีดมอร์ฟินแก้ปวด ต่อมาใช้ฉีดอินสุลินแก่ผู้ป่วยเบาหวาน ตอนนี้มีการผลิตแคปซูลยาสำหรับฝังใต้ผิวหนัง ออกฤทธิ์นาน ๖ เดือน สำหรับให้ยาทดแทนมอร์ฟีนในคนติดยา และกำลังพัฒนาสู่การให้ยาผู้ป่วยเบาหวาน และขยายสู่การพัฒนาวิธีการใช้ยาให้ได้ผลดีที่สุด ผมขอเพิ่มเติมว่ายาคุมกำเนิดฝังใต้ ผิวหนัง ออกฤทธิ์นาน ๓ เดือน มีใช้มาน่าจะกว่า ๒๐ ปีแล้ว
- Genomic Revolution ความก้าวหน้ามาจากเทคโนโลยีตัดต่อยีนได้แม่นยำ ที่เรียกว่า CRISPR ที่มีแนวทางใหม่ๆ เพิ่มขึ้น มีความแม่นยำ จนตอนนี้ FDA ของสหรัฐอนุมัติบริการชุดตรวจสอบความเสี่ยงต่อสุขภาพจากความผิดปกติทาง กรรมพันธุ์ ๑๐ โรค ของบริษัท 23andMe โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ เขาบอกว่าความก้าวหน้านี้ สร้างประเด็นโต้แย้งทางจริยธรมมมากมาย
- Pharma’s new frontier ขอบฟ้าใหม่ในการผลิตยาขยายออกไปนอกโลก ผลิตยา ในสภาพไร้แรงโน้มถ่วง อีกขอบฟ้าใหม่คือบริษัทยายักษ์ใหญ่กับบริษัทเริ่มต้น ทางไบโอเทค เข้ามาเชื่อมกัน
เขาบอกว่า อย่างไรก็ตาม ทั้งคนและเทคโนโลยี ต่างก็มีข้อจำกัด
แต่ผมเถียงในภาพใหญ่ของการมีสุขภาพดีของปัจเจก ว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เทคโนโลยีเป็นเพียงตัวช่วย ตัวจริงคือตัวเราเอง เป็นเจ้าของและผู้กำกับสุขภาวะของตัวเอง กำกับพฤติกรรมสุขภาพของตนเอง
วิจารณ์ พานิช
๓๐ เมษายน ๒๕๖๐