บันทึกการเดินทาง Japan Spring 2017: Yunoyama Onsen, Mie

21 เมษายน สายๆออกจากOsaka เดินทางด้วยรถไฟ Kintetsu Limited Express ราวสองชั่วโมงนิดๆ ถึง Nagoya ยังเข้าที่พักไม่ได้

เรื่องเข้าที่พักนี้เห็นมีแต่เมืองไทยที่ไปเช็คอินก่อนเที่ยงได้ เช็คเอาท์ก็เที่ยงๆได้ ทางยุโรป และ ญี่ปุ่นกว่าจะเข้าได้ก็บ่ายจัด ส่วนมากจะหลังบ่ายสามโมง เราจึงต้องเอากระเป๋าไปใส่ล็อกเกอร์ที่สถานีรถไฟไว้และหาร้านอาหารสำหรับมื้อกลางวันให้เรียบร้อย กะไปทานขนมที่จุดหมายหน้าค่ะ

นั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองออนเซ็นที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองนาโกย่านัก เมืองจุดหมายชื่อ Yunoyama Onsen

เดินทางต้องนั่งรถไฟสองต่อ ใช้เวลาราวหนึ่งชั่วโมง ลงจากสายหลัก ก็ต่อสายท้องถิ่นของ Yunoyama Onsen เข้าไปอีกนิดเดียว

ลงรถไฟแล้วต้องอุทานว่า นี่เรามาทำอะไรที่นี่ เงียบมาก แต่มีแท็กซี่จอดรออยู่สองคัน เรามีเป้าหมายว่าจะไปกินของหวาน เค้ก ไอศกรีม ที่ Aqua Ignis หาข้อมูลมาอย่างดีค่ะ เพราะหากนึกสนุกเขามีทีไปเก็บสตรอเบอรี่ อยู่ติดกัน และ Aqua Ignis ก็มีเชฟเบเกอรี่ชื่อดังที่เคยอยู่เมืองใหญ่แล้วผันตัวมาอยู่ที่นี่ ที่นี่จึงเป็นจุดหมาย จุดแวะพักของนักท่องเที่ยว

https://www.japanhoppers.com/en/kansai/yokkaichi/k...

คนผมขาวๆ ใส่แว่นที่เท่ๆนั่นแหละค่ะ เชฟคนดัง ไปตามสถานีรถไฟ เมืองต่างๆแถบนี้จะเห็นรูปเขาพร้อมทีม และ Aqua Ignis โฆษณาอยู่บ่อยๆ และขนมประจำถิ่นของบางเมืองก็มีรูปเขาขึ้นว่าเป็นคนคิดสูตรพัฒนาให้ ดังนั้นการที่เราดั้นด้นมาชิมก็ดูสมเหตุสมผลดีแล้วนะคะ

เจ้าหน้าที่ที่สถานีรถไฟบอกให้เดินไปได้ เดินตรงๆไปเดี๋ยวเจอเอง ก็เดินผ่านบ้านร้านเซรามิคสวยงาม ยังไม่ถึงสักที จนถึงไฟแดงใหญ่ข้ามไปแล้วไปถามคนเฝ้าประตูบริษัทแห่งหนึ่ง เขาชี้ว่าเดินไปอีกนิดก็ถึงแล้ว

สถานที่ของ Aqua Ignis ที่จริงอยู่ในระยะสายตา แต่เขาออกแบบได้เรียบ กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม ภายนอกออกแบบทันสมัยมาก ส่วนที่เป็นอาคารหลังคาดำนั้นเป็นที่พัก มีออนเซนบริการอยู่ด้านหลัง มองไม่เห็นแต่ศึกษาข้อมูลมา ออนเซ็นเขาดูดีมาก ข้างในตกแต่งอย่างมีรสนิยม ให้ความรู้สึกเรียบหรู สักวันจะกลับมาพักนะคะ

Aqua Ignis เป็นส่วนพัฒนาใหม่ของเมือง เขาว่าตั้งแต่มี Aqua Ignis ก็พัฒนาการท่องเที่ยวขึ้นมาอีกระดับ เพราะเป็นจุดแวะพักของนักท่องเที่ยว

เรือนยาวหลังคาโค้งใสคือ โรงปลูกสตรอเบอรี่ที่สามารถจ่ายเงินเข้าไปเก็บได้ แต่ต้องจองมาล่วงหน้าค่ะ

ด้านหลังผู้เขียนอาคารไม้คือ ส่วนต้อนรับของที่พักและออนเซ็นของ Aqua Ignis

ด้านในบริเวณลอบบี้

เราเข้าไปชมด้านในแค่ลอบบี้รู้สึกเขาจะมีแขกเยอะ เลยไม่ได้ขอเดินเข้าไปดูห้องพักและส่วนที่เป็นออนเซน กลับออกไปด้านนอกดีกว่าค่ะ เพราะตั้งใจมาชิมของหวานกัน ด้านนอกมีอาคารที่เป็นส่วนของร้านอาหารสไตล์อิตาเลียน พิซซ่าอบเตาฟืนเสียด้วย เราเข้าไปในส่วนที่เขาขายเบเกอรี่ มีของหลากหลาย

ไอศกรีม ชา กาแฟ และเค้กที่สั่งมาคนละชิ้น อร่อยเลอเลิศ แต่ราคาไม่ได้แพงไปกว่าร้านในเมืองใหญ่ๆเลยค่ะ

นี่เรายังไปไม่ถึงส่วนที่เรียกว่า Yunoyama Onsen เลยนะคะ ต้องนั่งรถมุ่งหน้าเข้าไปทางภูเขาค่ะ

น้ำพุร้อนแถบนี้มีชื่อเสียงมากมากว่า 1300 ปี ได้ชื่อว่า Deer Onsen เพราะนายพรานมาเจอกวางที่ถูกยิงบาดเจ็บมาแช่บ่อน้ำร้อนรักษาแผล น้ำพุร้อนที่นี่จึงมีชื่อเสียงเรื่องรักษาแผล ในช่วงสงครามทหารบาดเจ็บก็มารักษาตัวที่แถบนี้ค่ะ ไม่เป็นแผลก็มาแช่ให้ผิวสวยได้นะคะ ส่วนที่เป็นชุมชน เป็นเรียวกังใกล้แหล่งน้ำพุร้อนและ Ropeway ต้องนั่งรถไปอีกราวยี่สิบนาที และคนญี่ปุ่นบอกว่าบริเวณนั้นก็เงียบๆ มีที่เดินเล่นไม่มาก ต้องไปพักจะดี แล้วไปขึ้น ropeway ชมวิวบนยอดเขาโกไซโชดาเกะ หากวันอากาศดีจะเห็นวิวไกลไปถึงริมทะเลอ่าวอิเสะ ทีเดียว

ชมภาพภูเขาโกไซโชดาเกะจากเว็บไซท์ท่องเที่ยว ตอนใบไม้เปลี่ยนสี แหม สวยจริงๆค่ะ วางแผนไว้จะนำพี่ๆที่อยากลองเที่ยวแบบผู้เขียนมาชมในช่วงปลายพฤศจิกายนค่ะ

http://www.japanguides.net/mie/mt-gozaisho-dake-pe...

เราคิดว่าเกือบจะเย็นแล้ว แถมอากาศด็ดูครึ้มๆ ตัดสินใจไม่ไปตรงนั้น มีเวลาเหมาะๆเมื่อไรค่อยมาใหม่

นั่งรถไฟกลับเข้านาโกย่าเพื่อเข้าที่พักที่จองผ่าน airbnb ไว้

รถไฟท้องถิ่นมีแต่พวกเรา ราวเช่าเหมาโบกี้

ถึงเมืองนาโกย่า หาอาหารเย็นจัดการให้เสร็จสรรพ เอาของออกจากล็อกเกอร์ แล้วเรียกแทกซี่ 2 คันให้พาไปที่พักซึ่งจากข้อมูลแผนที่ที่เรามี อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟมาก แต่เดินแบบเข็นกระเป๋าไปเห็นทีคนเข็นกระเป๋าอายุขนาดเราคงจะไม่ไหวค่ะ

Yunoyama Onsen พบกันแน่เดือนพฤศจิกายนนะคะ

[เพชรน้ำหนึ่ง]

-สวัสดีครับ

-ตามมชมภาพสวยๆ ครับ

-ขอบคุณครับ

[ดร. จันทวรรณ ปิยะวัฒน์]

สวัสดีค่ะพี่นุช คิดถึงนะคะ ญี่ปุ่นน่าเที่ยวมากเลย