เครือข่าย “ยา 3 เม็ด” ชุมชนทศพร รักษาเบาหวาน-ความดัน-ไตไม่เสื่อม


กระบวนการยา 3 เม็ด ได้แก่ ยาเม็ดที่ 1 คือ ยาใจ เป็นการบุกบ้านตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ ส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายทำ โปรแกรมพลังชีวิต สวดมนต์ นั่งสมาธิค้นหาทุกข์การชื่นชมเสริมพลังใจ พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลตัวเอง การอวยพรและการให้การบ้านก่อนจาก ยาเม็ดที่ 2 คือ ยากาย กิจกรรมที่เน้นให้ความรู้เรื่องกินอย่างไรไตไม่วาย ส่งเสริมการออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วันๆ ละ 30 นาที และ ยาเม็ดที่ 3 คือ ยาชุดยาหม้อยาลูกกลอน ยาแก้ปวดต่างๆที่มีผลต่อไต ทำให้ไตวาย เป็นการให้ความรู้ถึงพิษภัยของยาประเภทนี้ และการใช้ยาตามแผนการรักษาถูกต้อง

ที่อำเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี ประสบปัญหาภาวะผู้ป่วยโรคเบาหวาน 1,229 คน และความดันโลหิตสูง 1,448 คน ในจำนวนนี้พบภาวะแทรกซ้อนทางไต ซึ่งมีภาวะไตเสื่อม ในระยะที่ 3 มากถึง 677 คน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกๆ ปี หากไม่ได้รับการดูแลควบคุมเบาหวานความดันที่ดีและถูกต้อง อาจทำให้เกิดภาวะไตวาย ในระยะที่ 4-5 ซึ่งจะต้องไปฟอกไตอย่างสม่ำเสมอ และเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้

ขณะเดียวกันภายในชุมชนทศพร ต.สระโบสถ์ พบว่ามีผู้ป่วยเบาหวานและผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่มีภาวะไตเสื่อมระยะที่ 3 จำนวน 40 คน และเป็นกลุ่มที่ควบคุมค่าระดับน้ำตาลและค่าความดันโลหิตได้ไม่ดี รวมทั้งมีการใช้ยาชุดยาแก้ปวดยาลูกกลอน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานและความดัน ร่วมกับพฤติกรรมการกิน การไม่ออกกำลังกายอย่าสม่ำเสมอ และอารมณ์ซึมเศร้า ยิ่งทำให้อาการทรุดมากยิ่งขึ้น

เพื่อพัฒนาระบบสุขภาพโดยชุมชนและสร้างเครือข่ายช่วยเหลือผู้ป่วยลดภาวะแทรกซ้อนโรคไตวาย และยังช่วยลดภาวะน้ำตาลและความดันโลหิตสูง ชุมชนทศพร จึงได้จัดทำโครงการ “เครือข่ายชุมชนยา 3 เม็ดชะลอไตเสื่อมในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง” ขึ้น โดยได้ขอรับทุนสนับสนุนจากสำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

“ตำบลสระโบสถ์ มีปัญหาเรื่องเบาหวานมากกว่าตำบลอื่น ถ้าไม่ดูแลกันดีๆ จะเกิดภาวะไตวาย และจะต้องไปฟอกไตที่ตัวจังหวัด เสียค่าใช้จ่าย เสียเวลามากมาย และการไปฟอกไตก็เหมือนกับการชะลอความตายอยู่ดี เพราะไตมีหน้าที่กรองของเสีย แต่ถ้าไตวายแล้วของเสียจะไปไหน ก็วนเวียนอยู่ในร่างกาย คนๆ นั้นก็คงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน”ปานิสรา งามเลิศ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการโรงพยาบาลสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี ผู้รับผิดชอบโครงการเครือข่ายชุมชนยา 3 เม็ดชะลอไตเสื่อมในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง เอ่ยถึงผลกระทบของเกิดภาวะไตวาย

ด้วยเหตุนี้จึงได้จัดทำโครงการ ยา 3 เม็ดชะลอไตเสื่อมในผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยเกิดโรคไตวาย ในระยะ 4-5 และสามารถดูแลตนเองได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่เกิดภาวะโรคแทรกซ้อนได้ในอนาคต

โดยทุกๆ 3 เดือน ทางโรงพยาบาลสระโบสถ์จะจัดเวทีสุขภาพสัญจร นำผู้ป่วยภาวะไตเสื่อมมานั่งคุยกันโดยใช้กระบวนการยา 3 เม็ด ได้แก่ ยาเม็ดที่ 1 คือ ยาใจ เป็นการบุกบ้านตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ ส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายทำ โปรแกรมพลังชีวิต สวดมนต์ นั่งสมาธิค้นหาทุกข์การชื่นชมเสริมพลังใจ พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลตัวเอง การอวยพรและการให้การบ้านก่อนจาก

ยาเม็ดที่ 2 คือ ยากาย กิจกรรมที่เน้นให้ความรู้เรื่องกินอย่างไรไตไม่วาย ส่งเสริมการออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วันๆ ละ 30 นาที และ ยาเม็ดที่ 3 คือ ยาชุดยาหม้อยาลูกกลอน ยาแก้ปวดต่างๆที่มีผลต่อไต ทำให้ไตวาย เป็นการให้ความรู้ถึงพิษภัยของยาประเภทนี้ และการใช้ยาตามแผนการรักษาถูกต้อง


“ทุกครั้งที่จัดเวทีสัญจร เราจะแจกเมล็ดพันธุ์ผัก เพื่อส่งเสริมทานผักอีกทางหนึ่ง ด้วยสโลแกน “ลดเค็ม เพิ่มผัก ความดันดี ชีวีเป็นสุข” ปานิสรา กล่าวและว่า ในอำเภอมีหมอเพียงคนเดียวที่ดูแลเบาหวานความดัน แต่ผู้ป่วยมีเป็นพันๆ คน จึงไม่ทั่วถึง ต้องสร้างเครือข่ายขึ้นมาช่วยแบ่งเบาภาระงาน โดยปีนี้ได้นำร่องในชุมชนทศพร ปีต่อๆ ไปเราจะขยายผลและสร้างเครือข่ายให้ครอบคลุมทั้งตำบล อำเภอ และอาจจะรวมไปถึงทั้งจังหวัดด้วย

“ยา 3 เม็ด ที่เราคิดค้นขึ้นมาในการดูแลผู้ป่วยเบาหวานความดันโลหิตสูงที่มีภาวะไตเสื่อม ในปีแรกๆ เราเหมือนทดลองทำ จนประสบความสำเร็จ พบว่าผู้ป่วยเบาหวานความดันที่มีภาวะไตเสื่อมลดลงถึง 50% ทำให้เรามีกำลังใจ และขอทุนสนับสนุนจาก สสส. เพื่อมาสร้างเครือข่ายสุขภาพในชุมชนต่อไป”ปานิสรา กล่าว

ชมรมบ้านใกล้เรือนเคียง คือฟันเฟืองที่สำคัญในการทำงานเชิงรุก ลงพื้นที่พบปะ พูดคุยและดำเนินกิจกรรมต่างๆ ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกมีความใกล้ชิดเหมือนเป็นญาติมิตร เป็นเพื่อนในการมาช่วยเหลือและดูแลกัน เกิดกำลังใจในการลุกขึ้นมาดูแลสุขภาพต่อไป ก่อเกิดเป็นเครือข่ายดูแลสุขภาพในข้างต้น


สุชีลาพร แรกขึ้น ประธานชมรมบ้านใกล้เรือนเคียง กล่าวว่า ชมรมบ้านใกล้เรือนเคียง มีพื้นฐานมาจาก อสม. โดยยกระดับและพัฒนาศักยภาพการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน ความดัน ที่มีภาวะไตเสื่อมให้มากขึ้น และสร้างแกนนำบ้านใกล้เรือนเคียง จำนวน 19 คุ้มๆ ละ 1 คน ช่วยเฝ้าระวัง คัดกรองเบาหวาน ความดัน ติดตามลงไปเยี่ยมบ้านที่รับผิดชอบ ทำให้การดำเนินงานเข้าถึงและรวดเร็ว ดีกว่าให้เป็นภาระของหมอเพียงคนเดียว ขณะเดียวกันได้จัดตั้งชมรมเบาหวานความดันในชุมชนขึ้น แล้วคัดเลือกผู้ป่วยที่ดูแลตัวเองได้ดีมาเป็นพี่เลี้ยงในการดูแลผู้ป่วยรายอื่นๆ

“การรับประทานอาหารถือว่าสำคัญมาก เราจะแนะนำให้ทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ ลดหวานมันเค็ม ภายใต้คอนเซ็ป “คุมเบาหวาน ความดัน ได้ดี ไม่มีไตวาย” ผักสีเข้มก็กินไม่ได้ รณรงค์เลิกกินกาแฟซองสำเร็จรูป ชวนออกกำลังกายทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และให้ความรู้ถึงพิษภัยของยาหม้อ ยาลูกกลอน ซึ่งเป็นอันตรายต่อไตอย่างร้ายแรง และมีการคัดกรองเบาหวาน ความดันทุกเดือน”สุชีลาพร ประธานชมรมบ้านใกล้เรือนเคียง กล่าว

ส่วน ป้ายาน บัวศรี วัย 55 ปี ซึ่งเป็นโรคเบาหวานความดัน และมีภาวะไตเสื่อมในระยะ 4-5 ต้องได้รับการฟอกไตอย่างเร่งด่วน แต่หลังจากเข้าร่วมโครงการยา 3 เม็ด ทำให้ป้ายาน มีค่าไตอยู่ในภาวะปกติ ไม่ต้องไปทำการฟอกไตอีกต่อไป และกลายเป็นบุคคลต้นแบบในการดูแลสุขภาพให้กับเพื่อนผู้ป่วยคนอื่นๆ และเป็นแรงใจให้มีการพัฒนาเครือข่ายสุขภาพในชุมชน

ป้ายาน เล่าว่า เมื่อก่อนค่าเบาหวานความดันสูงถึง 300-400 ทำให้เกิดไตเสื่อม ซึมเศร้าตลอดเวลาทำยังไงเบาหวานก็ไม่ลด เกือบต้องถูกส่งตัวไปฟอกไตที่ รพ.ในตัวจังหวัดอยู่แล้ว แต่พอเข้าร่วมโครงการ 3 สามเม็ด หันมาดูแลสุขภาพ ทุกคนก็มาช่วยกันให้กำลังใจ คิดแต่สิ่งดีๆ พยายามไม่เครียด เพราะยิ่งเครียดทำยังน้ำตาลก็ไม่ลด จึงเป็นยาใจให้ตนเองได้พยายามปรับตัวเอง และเฝ้าระวัง ทำให้ภายใน 2 ปี เบาหวานลดลง ค่าไตก็ลดลง ไม่ต้องไปฟอกไต และชีวิตได้เป็นปกติ

ชุมชนทศพร ถือเป็นแบบอย่างในการลุกขึ้นมาสร้างเครือข่ายและพัฒนาระบบสุขภาพชุมชนด้วยคนในชุมชน เพราะไม่ใครรับรู้ปัญหาหรือความต้องการได้ดีเท่าคนในชุมชนเอง





ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท