ดราม่า The mask singer หน้ากากนักร้อง


ดราม่า The mask singer

ถ้าถามความเห็นผมว่าคนดูดูรายการ The mask singer เพราะอะไร คำตอบคือเหตุผลเดียวกับที่คนดูดูรายการ I can see your voice

ทั้งสองรายการมี conceptที่เป็นแม่เหล็กในการดึงดูดคนดู 2 อย่าง คือ

1. กรรมการฮาดี จะเห็นว่าทั้งสองรายการมีการใช้กรรมการคนเดียวกันหลายคน โดยเฉพาะตัวสร้างสีสันและความฮาอย่างดีเจนุ้ย แต่เนื่องจากรายการทั้งสองเกี่ยวข้องกับการร้องเพลงจึงต้องบาลานซ์ให้มีกูรูด้านดนตรีและการร้องอย่างครูอ้วนและครูหนึ่ง จักวาลเป็นตัวยืนเป็นกรรมการทั้งสองรายการ เพื่อไม่ให้มีแต่ความฮาแต่เพียงอย่างเดียวจนดูไม่มีแก่นสาร

2. การมีส่วนร่วมวิเคราะห์ (The mask singer คนดูได้ดูไปวิเคราะห์ไปว่าหน้ากากคนนั้นคนนี้เป็นใคร ส่วน I can see your voice คนดูได้วิเคราะห์ไปด้วยว่านักร้องปริศนาจะร้องเพราะหรือเพี้ยน)

The mask singer แตกต่างจาก I can see your voice ตรงที่ กรรมการใน I can see your voice สามารถท้าให้มีการแกล้งกันได้ถ้าฝ่ายใดทายถูกหรือผิด

เมื่อ The mask singer ในสัปดาห์ Champ ชน Champ มาถึงซึ่งถือว่าเป็นสัปดาห์ที่พีคสุดเพราะคนดูรอคอยที่จะได้รู้ว่าหน้ากากทุเรียนและอีกาเป็นใคร และที่คนดูคาดหวังอีกอย่างคือกรรมการที่จะสร้างความฮาได้เหมือนทุกเทปที่ผ่านมา แต่พอเทปนี้เกิดผิดไปจาก concept ของคนดู ดราม่าจึงบังเกิด

ดราม่าแรก กรรมการในเทปนี้ไม่ค่อยฮา เพราะกรรมการสายฮาตัวหลักที่คนดูคุ้นเคยและทำหน้าที่สร้างความฮาในรายการแทบจะทุกเทปอย่างดีเจนุ้ย คุณตั๊กหายไป ประกอบกับกรรมการที่มาแทนนั้นไม่ใช่สายฮา อย่างเช่น ไอซ์ อภิษฎา แถมมีกรรมการหน้าใหม่อย่างเชียร์เข้ามาในเทปนี้ ซึ่งเป็นเทปที่คนดูเข้าใจว่านี่คือเทปพีคที่สุดและเป็นเทปจบของรายการ ดังนั้นผมเชื่อว่าคนดูไม่น้อยคาดหวังที่จะเห็นกรรมการที่พวกเค้าได้เห็น ได้คุ้นเคย ได้ฮามาแทบทุกเทปมากกว่าที่จะเป็นกรรมการหน้าใหม่ๆหรือกรรมการที่ไม่ได้มาบ่อยๆ มีเพียงใบเฟิร์นที่เป็นสายฮา แต่ในเทปนี้ใบเฟิร์นเองน่าจะขาดคนคอยรับส่งมุข จึงไม่ค่อยช่วยสร้างความฮาในเทปนี้ได้เท่าไรนัก จนเป็นที่มาของดราม่าว่าเทปนี้ไม่ค่อยฮา

ดราม่าที่สอง ไม่เปิดหน้ากากทุเรียน ยืดไปเปิดสัปดาห์หน้า แม้ในช่วงออกอากาศพิธีกรไม่ได้บอกว่าจะเปิดหน้ากากทุเรียน แต่คำพูดของพิธีกรชี้นำให้คนดูเข้าใจและรอดูเพราะพิธีกรเองที่พูดว่าหน้ากากทุเรียนจะเป็นใครรอดูหลังข่าวในพระราชสำนัก เมื่อข่าวราชสำนักจบ ก็กลายเป็นการสัมภาษณ์หน้ากากอีกา ซึ่งต้องบอกว่าตรงนี้ทางรายการพลาดอย่างจัง 2 ประเด็น

ประเด็นแรกคือ เทปนี้เริ่มต้นทางรายการค่อยๆสร้างความรู้สึกพีคให้คนดูมาเรื่อยๆจนถึงตอนเปิดหน้ากากอีกาดำ แต่แทนที่ทางรายการจะทำให้รายการจบแบบพีคสุดๆด้วยการเปิดเฉลยหน้ากากทุเรียนส่งท้ายเทปนี้ แต่กลับทำให้ความพีคดรอปลงทันทีที่ตัดมาสัมภาษณ์คุณเอ๊ะ จิรากร คนที่เป็นหน้ากากอีกาดำ ซึ่งคนดูไม่น้อยที่รู้สึกว่าอยากให้การสัมภาษณ์จบลงเร็วๆ เพราะกำลังรอดูต่อว่าเมื่อสัมภาษณ์จบจะได้รู้ว่าใครคือหน้ากากทุเรียน

ประเด็นที่สองคือ พอสัมภาษณ์คุณเอ๊ะจบ แทนที่ทางรายการจะเปิดหน้ากากทุเรียน กลับยืดไปเปิดสัปดาห์หน้า ทำให้คนดูบางส่วนรวมทั้งผมเองรู้สึกว่าโดนรายการหักหลัง คือพิธีกรพูดเป็นนัยเหมือนว่าจะเฉลยว่าหน้ากากทุเรียนเป็นใครต่อจากหน้ากากอีกาโดยบอกให้รอดูหลังข่าวในพระราชสำนัก (ถ้าไปดูย้อนหลังที่ทาง workpoint เอามาลงยูทูป จะไม่มีช่วงนี้เพราถูกตัดออก แต่เนชั่นได้เอาคำพูดของพิธีกรในช่วงนั้นมาลงคำต่อคำ อ่านได้จากข่าวข้างล่า) แต่สุดท้ายก็ไม่เฉลย ทำให้คนดูจำนวนไม่น้อยที่ไม่พอใจ

เข้าใจว่าทางรายการต้องการยืดรายการ ต้องการเรียกเรตติ้ง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องหักหลังคนดูแบบนี้ อย่าลืมว่ารายการทำมาเพราะอยากให้มีคนดูเยอะๆ การเข้าใจความต้องการของคนดูจึงสำคัญที่สุด เพราะถ้าทำมาแล้วไม่ตรงตามที่คนดูต้องการอยากจะดู รายการก็ไร้เรตติ้ง

เชื่อว่าสัปดาห์หน้า คงมีคนดูไม่น้อยที่จะตอบโต้ทางรายการด้วยการไม่ดูการถ่ายทอดเฉลยหน้ากากทุเรียนในสัปดาห์ต่อไป

http://www.nationtv.tv/main/content/entertainment/...

หมายเลขบันทึก: 626423เขียนเมื่อ 25 มีนาคม 2017 16:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 มีนาคม 2017 09:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท