สัมผัสหนาวที่ดอยอ่างขาง(ตอนที่1)


ระหว่างวันที่ 20 - 24 มกราคม 2560 เราได้ร่วมเดินทางพร้อมคณะของอนันกานทัวร์ เที่ยวเหนือ เชียงราย - เชียงใหม่

วันที่ 21 มกราคม 2560 เวลาประมาณ 15.00 น. คณะของเรา มุ่งหน้าสู่ดอยอ่างขาง ตะวันเริ่มโพล้เพล้ รถบัสของอนันกานทัวร์ กำลังไต่ขึ้นสู่ดอยอ่างขาง


ประมาณ 19.30 น. ถึงแล้วดอยอ่างขาง สัมผัสอากาศที่เย็นยะเยือก เก็บสัมภาระเข้าสู่ที่พัก ซึ่งอยู่บนเนินเขา มีพนักงานบริการจากสำเนียงคงเป็นชาวเเขา


มื้อค่ำวันนี้เป็นร้านอาหารของโรงแรมที่นี่ ...ลืมชื่อจ้า อาหารอร่อย หรือว่าเพราะพวกเราหิวกันแน่ก็ไม่ทราบนะ อิ่มแล้วอาบน้ำอุ่น ๆ นอน อ้อ! ที่นี่ไม่มีแอร์นะคะ อากาศหนาวเย็นขนาดนี้ ไม่ต้องใช้แอร์ค่ะ


ดอยอ่างขาง อยู่ในเขตหมู่บ้านคุ้มหมู่ที่ 5 ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 1,400 เมตร คำว่า “อ่างขาง” ในภาษาเหนือหมายถึง อ่างรูปสี่เหลี่ยมตามลักษณะของ ดอยอ่างขางซึ่งเป็นดอยที่มีรูปร่างของหุบเขา ยาวล้อมรอบ ประมาณ 5 กิโลเมตร กว้าง 3 กิโลเมตร ตรงกลางของอ่างขางเดิม เป็นเป็นภูเขาสูง เช่นเดียวกับบริเวณโดยรอบ แต่เนื่องจากเป็นภูเขา หินปูน เมื่อถูกน้ำฝนชะก็จะค่อยๆ ละลายเป็น โพรงแล้วยุบตัวลงกลายเป็นแอ่ง มีพื้นที่ราบ ความกว้างไม่เกิน 200 เมตร มีพื้นที่ใช้ทำการเกษตร ในงานวิจัยประมาณ 1,800 ไร่ มีหมู่บ้านชาวเขาที่ทางสถานีฯให้การส่งเสริมและ พัฒนาอาชีพรวม 6 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านหลวง บ้านคุ้ม บ้านนอแล บ้านปางม้า บ้านป่าคา และบ้านขอบด้ง ซึ่งประกอบไปด้วย ประชากร 4 เผ่าได้แก่ ไทยใหญ่ มูเซอดำ ปะหล่อง และจีนฮ่อ อุณหภูมิเฉลี่ย ตลอดปีประมาณ 17.7 องศาเซล เซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศา ในเดือนเมษายน และอุณหภูมิต่ำสุด–3 องศาเซเซียส ในเดือนมกราคม ซึ่งหากมาเที่ยวในช่วงดังกล่าวอาจพบกับ แม่คะนิ้งหรือ น้ำค้างแข็งได้

เช้าวันที่ 22 มกราคม 2560 ทุกคนพร้อมตั้งแต่ 04.00 น. อาบน้ำแต่งตัวสวมเสื้อผ้ากันหนาวครบเครื่อง ขึ้นรถบัสที่มารอรับ เพื่อจะไปที่จุดชมวิว ชายแดนไทย - พม่า เราจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน คือจุดชมพระอาทิตยขึ้นขอบด้ง รถต้องไต่ขึ้นไปช้า ๆ ประมาณ 05.00 น. รถบัสถึงที่หมาย ที่นี่มีคนมารอดูพระอาทิตย์ขึ้นเยอะมาก จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่เป็นจุดที่อยู่ระหว่างเส้นทางที่จะมุ่งหน้าไปบ้านขอบด้งและนอแล จุดนี้จะเป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้น ได้สวยงามโดยเฉพาะใน ฤดูหนาว จะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจะมารอชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกตอนเช้า ทำให้เป็นจุดท่องเที่ยวที่คึกคักอีกจุดหนึ่ง มีร้านค้าขาย อาหรเปิดให้บริการหลายร้าน หนาว...หนาว ดูอุณภูมิจากสมาร์โฟน 16 องศาเซนเซียส ระหว่างรอเดินชมตลาดซึ่งมีชาวเขานำสินค้าพื้นเมืองมาจำหน่าย ที่นี่ได้อะโวคาโด มา 5 กิโลกรัม ๆ ละ 60 บาท จากน้ำพวกเราลองชิมโจ๊กจากร้านค้าของคนพื้นบ้านที่นั่น อร่อยค่ะ ร้อน ๆ กับอากาศเย็น ๆ ที่นี่จะมีเตาผิงเพื่อบรรเทาอากาศหนาวเย็น สุดยอดมาก อุ่น ๆ เท่ดีนะเป็นอะไรที่เป็นธรรมชาติที่สุด

ฟ้าเริ่มเปิดแล้ว เห็นแสงสีส้มรำไร แต่ไม่มีโอกาสเห็นดวงอาทิตย์ดวงกลม ๆ บรรยากาศยามเช้าเหมือนภาพวาดชวนให้หลงใหล ประทับใจกับบรรยากาศในครั้งนี้มากที่สุด มีโอกาสจะมาอีกสักครั้ง เก็บภาพกับดอกกุหลาบ ดอกโต ๆ สวยมาก

ใกล้ ๆ กัน เดินออกไปอีกสักพัก จะเจอกับจุดชมวิวชายแดนไทยพม่า จุดนี้จะตั้งอยู่ ณ ฐานทหารไทยบริเวณเดียวกับหมู่บ้านนอแล ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างชายแดนไทยและชายแดน ของประเทศพม่า ดังนั้นนักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็น


เก็บภาพกับดอกไม้ดอกโต ๆ ณ จุดชมวิว


สายแล้วกลับขึ้นรถบัส ลงจากเขาระหว่างทางแวะชมไร่สตเบอรี่ขั้นบันไดบ้านนอแล

ไร่สตอเบอรี่ที่ปลูกตามไหล่ขั้นเป็นขั้นบันไดลดหลั่นกันลงมา หากในยามเช้าจะได้พบกับแสงแดดอุ่นพากผ่าน สายหมอกในยามเช้า ตามไหล่เขาที่อยู่เบื้องหลัง และยังได้เห็นวิถีชีวิตชาวบานที่มาเก็บสตอเบอรี่ในยามเช้าด้วย

ธรรมชาติเหมือนเมืองในหุบเขาของต่างประเทศ

ชมไร่สตอเบอรี่แต่ไม่ได่สตอเบอรี่ เพราะราคาค่อนข้างแพงและที่สำคัญเรายังไปท่องเที่ยวอีกหลายที่กลัวว่าจะเละเสียก่อน สายแล้วออกจากที่นี่ไปทานอาหารเช้าก่อนที่คณะจะไปดูศึกษางานสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ซึ่งเป็นสถานีเกษตรที่ปลูกพืชผักและไมัเมืองหนาว ...ตามมาค่ะ จะพาไปเที่ยวชม...?????????





หมายเลขบันทึก: 626143เขียนเมื่อ 19 มีนาคม 2017 20:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มีนาคม 2017 15:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท