ระบบการศึกษาจากผู้สร้าง
وَإِذْ قَالَ رَبُّكَ لِلْمَلَائِكَةِ إِنِّي جَاعِلٌ فِي الْأَرْضِ خَلِيفَةً ۖ قَالُوا أَتَجْعَلُ فِيهَا مَنْ يُفْسِدُ فِيهَا وَيَسْفِكُ الدِّمَاءَ وَنَحْنُ نُسَبِّحُ بِحَمْدِكَ وَنُقَدِّسُ لَكَ ۖ قَالَ إِنِّي أَعْلَمُ مَا لَا تَعْلَمُونَ ﴿٣٠﴾
وَعَلَّمَ آدَمَ الْأَسْمَاءَ كُلَّهَا ثُمَّ عَرَضَهُمْ عَلَى الْمَلَائِكَةِ فَقَالَ أَنْبِئُونِي بِأَسْمَاءِ هَٰؤُلَاءِ إِنْ كُنْتُمْ صَادِقِينَ ﴿٣١﴾
قَالُوا سُبْحَانَكَ لَا عِلْمَ لَنَا إِلَّا مَا عَلَّمْتَنَا ۖ إِنَّكَ أَنْتَ الْعَلِيمُ الْحَكِيمُ ﴿٣٢﴾
Be like Angels when we are in studying mode.
2:30 Critical Thinking
2:32 limitation and manner
[ IA ]
จงเป็นเทวดาเมื่ออยู่ในระบบการศึกษา ทำไมจึงต้องประพฤติเหมือนมลาอิกะฮฺหรือเทวดาเมื่ออยู่ในการเรียนรู้ด้วย?
ศิษย์ที่ไร้มารยาท กับ ครูผู้หวงอำนาจ
ใครทำลายคีลาฟิยะฮฺที่ดีงามมากกว่ากัน?
#ขั้นตอนการวิจัยอย่างง่ายที่สุดคือ
1. คำถาม/ปัญหา/สมมติฐาน
2. ขั้นตอน การพิสูจน์/ค้นหาคำตอบ
3. สรุปผลและการประยุกต์ใช้
#องค์ความรู้เกี่ยวกับมลาอิกะฮฺ
มลาอิกะฮฺคือมัคลูคหนึ่งที่ถูกสร้างด้วยรัศมี และคุณสมบัติสำคัญของมลาอิกะฮฺคือ ไม่เคยจะเนรคุณต่อผู้สร้าง
#องค์ความรู้ที่ไม่ค่อยจะเกี่ยวข้องเท่าไหร่คือ
Angel มี Arc(h)
Angle มี Arc
Angel เป็นสิ่งถูกสร้างที่โค้งคำนับไม่เคยปฏิเสธผู้สร้าง
Angle จะมี arc เป็นองค์ประกอบ ไม่ว่าจะโค้งมนหรือโค้งเหลี่ยม
หรือว่า Angel และ Angle จะมีคววามสัมพันธ์กัน
Arc แปลว่า ส่วนโค้ง
Bow แปลว่า โค้งคำนับ
#ศิษย์ที่ไร้มารยาท
แม้จะโค้งคำนับต่อผู้สร้างเสมอ เมื่อ พระเจ้าแจ้งว่าจะสร้างนบีอดัม มัคลูคอย่างมลาอิกะฮฺ ยังกล้าที่จะ critical thinking ราวกับ ศิษย์ที่ไร้มารยาท ก็ไม่ปาน
"...#พระองค์จะทรงให้มีขึ้นในพิภพซึ่งผู้ที่บ่อนทำลายและก่อการนองเลือดในพิภพกระนั้นหรือ ? ทั้ง ๆ ที่พวกข้าพระองค์ให้ความบริสุทธิ์ พร้อมด้วยการสรรเสริญพระองค์ และเทิดทูนความบริสุทธิ์ในพระองค์..." (2:30)
เมื่อมีสมมติฐานเกิดขึ้น (จากการคิดวิพากษ์จากมลาอิกะฮฺ) การวิจัยจากอัลลอฮฺพร้อมการพิสูจน์ก็ตามมา
"#และพระองค์ได้ทรงสอนบรรดานามของทั้งปวงให้แก่อาดัม #ภายหลังได้ทรงแสดงสิ่งเหล่านั้นแก่มะลาอิกะฮฺ แล้วตรัสว่า #จงบอกบรรดาชื่อของสิ่งเหล่านั้นแก่ข้าหากพวกเจ้าเป็นผู้พูดจริง" (2:31)
เมื่อผ่านการพิสูจน์ บทสรุปและการนำไปใช้จึงเกิดขึ้น limitation and manner การยอมรับถึงความทรงปรีชาญาณของพระเจ้า ด้วยการยอมจำนนและมารยาท
"พวกเขา(บรรดามะลาอิกะฮฺ)ทูลว่า #มหาบริสุทธิ์พระองค์ท่านไม่มีความรู้ใดๆแก่พวกข้าพระองค์นอกจากสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสอนพวกข้าพระองค์เท่านั้น แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงปรีชาญาณ" (2:32)
#ครูผู้หวงอำนาจ (จริงหรือ?)
(17:88), (11:13), (2:23)
เมื่อได้อ่าน 3 อายัตข้างต้น มีคำถามหนึ่งที่มาจากการในมองมิติในตรรกะของมนุษย์เราขึ้นมาว่า
ระดับพระเจ้า ทำไมยังต้องตรัสเช่นนี้อีก พระองค์ไม่พูดก็ไม่มีมนุษย์คนไหนหาข้อผิดพลาดของพระองค์ได้ และเป็นถึงพระเจ้าผู้ทรงอำนาจมากมายขนาดนั้น รู้ตัวเองดีว่าไม่มีความบกพร่องใดๆในพระองค์ ถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังทรงตรัสเช่นนั้น เพราะพระองค์คือครูที่แท้จริง ผู้นำที่ทรงยุติธรรมยิ่ง พร้อมให้ถูกตรวจสอบเสมอทั้งๆที่ ความผิดพลาด/ข้อบกพร่องนั้นไม่ใช่คุณลักษณะของพระองค์ มิหนำซ้ำยังมีความรักที่สูงยิ่งสูงกว่าความโกรธกริ้ว หรืออาจยิ่งกว่าความเป็นธรรม
بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَٰنِ الرَّحِيمِ
(1:1)
إِنَّ رَحْمَتِي تَغْلِبُ غَضَبِي
[ al-Bukhari ]
เพราะ
لَا إِكْرَاهَ فِي الدِّينِ
ไม่มีการบังคับใดๆให้นับถือในศาสนา
(2:256)
ความยิ่งใหญ่ของผู้สร้าง แม้เราจะไม่สรรเสริญ พระองค์ก็ยิ่งใหญ่อยู่ดี [ ดร.ซากิร นาอิก ]
แน่นอน เมื่อเราเข้าใจถึงเรื่องลำดับการที่ดีแล้ว การคีลาฟหรือความเห็นต่างจะเกิดการจำแนกแยกแยะถึงระดับของมัน เมื่อนั้นคีลาฟิยะฮฺที่ดีงามหรือการขยายขององค์ความรู้ก็จะเกิดอย่างมีบารอกัต นำมาซึ่งบรรยากาศการศึกษาของโลกมุสลิมในยุคสมัยเก่าก่อน อินชาอัลลอฮฺ
อัซตัฆฟิรุ้ลลอฮฺ วัลลอฮูอะลัม
#อิกเราะในมุมของพฤติกรรมศาสตร์
#ดุลยภาพแห่งการเรียนรู้
#EOL
http://sunnah.com/bukhari/97/33
ไม่มีความเห็น