วิพากษ์ คำพิพากษาศาลปกครอง กรณีให้กรมและกระทรวงคุกเพิกถอนคำสั่งให้เจ้าหน้าที่คุกออกจากราชการไว้ก่อนฯ


ศาลปกครองนครราชสีมา พิพากษาให้กรมคุกเพิกถอนคำสั่งให้เจ้าหน้าที่คุกออกจากราชการไว้ก่อน.....เพราะเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย.....

ตามคำพิพากษาศาลปกครองนครราชสีมา คดีหมายเลขดำที่ บ.๘๒/๒๕๕๘ คดีหมายเลขแดงที่ บ.๗๕/๒๕๕๙ เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ลงวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ระหว่าง นายโอภาส ศรีสังวาล ผู้ฟ้องคดี กับ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้ถูกฟ้องที่ ๑ และ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้ถูกฟ้องที่ที่ ๒ ปรากฏตามผลคำพิพากษา โดยสังเขป ดังนี้

กรณี ฟ้องให้เพิกถอนคำสั่งกรมราชทัณฑ์ ที่ ๕๓๕/๒๕๕๘ ลงวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘ สั่งให้ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้ก่อน โดยอ้างว่า ผู้ฟ้องคดีถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง ถ้าให้คงอยู่ในหน้าที่ราชการต่อไปอาจเกิดความเสียหายแก่ราชการ.......ศาลปกครองนครราชสีมา พิพากษาว่า การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ สั่งให้ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้ก่อนตามคำสั่งกรมราชทัณฑ์ ที่ ๕๓๕/๒๕๕๘ ลงวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เป็นการใช้ดุลยพินิจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

กรณีคำวินิจฉัยของของผู้ถูกฟ้องที่ ๒ ศาลปกครองนครราชสีมา พิพากษาว่า เมื่อคำสั่งของผู้ถูกฟ้องที่ ๑ดังกล่าว ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังที่ได้วินิจฉัยไปแล้วข้างต้น การที่ผู้ถูกฟ้องที่ ๒ มีคำวินิจฉัยยกคำร้องทุกข์ของผู้ฟ้องคดี ลงวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๘ แจ้งตามหนังสือกระทรวงยุติธรรมด่วนที่สุด ที่ ยธ ๐๒๐๐๒/๕๔๓๗ ลงวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๘ โดยอาศัยข้อเท็จจริงอันเป็นเหตุแห่งคดีอย่างเดียวกัน จึงเป็นคำวินิจฉัยคำร้องทุกข์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน

พิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของผู้ถูกฟ้องที่ ๑ ที่สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ตามคำสั่งกรมราชทัณฑ์ ที่ ๕๓๕/๒๕๕๘ ลงวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘ และ คำวินิจฉัยของผู้ถูกฟ้องที่ ๒ ที่ให้ยกคำร้องทุกข์ของผู้ฟ้องคดีในเรื่องนี้ โดยมีผลย้อนหลังนับแต่วันที่มีคำสั่งและคำวินิจฉัย ดังกล่าว



โดยสรุป


ด้วยความเคารพต่อศาลปกครองนครราชสีมา กระผมมีความเห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาตัดสินคดีนี้ และ การนำผลของคำพิพากษา ดังกล่าว มานำเสนอในบทความนี้ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้


๑. เพื่อแสดงให้เห็นถึงเหตุผลสำคัญที่ทางศาลปกครองนครราชสีมาใช้เป็นหลักในการพิพากษาคดีพิพาทกรณีที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ระหว่าง นายโอภาส ศรีสังวาล ผู้ฟ้องคดี กับ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้ถูกฟ้องที่ ๑ และ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้ถูกฟ้องที่ ๒ ในข้อหากระทำการโดยการออกคำสั่งทางปกครองให้เจ้าหน้าที่คุกผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้ก่อนโดยอ้างว่า เจ้าหน้าที่คุกผู้ฟ้องคดี ถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง ถ้าคงให้อยู่ในราชการต่อไปอาจเกิดความเสียหายแก่ราชการ และ การสอบสวน หรือ พิจารณาจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว….. ซึ่งในที่สุดศาลปกครองได้มีคำพิพากษา ให้เพิกถอนคำสั่งของกรมคุก (ผู้ถูกฟ้องที่ ๑) ที่สั่งให้เจ้าหน้าที่คุก (ผู้ฟ้องคดี) ออกจากราชการไว้ก่อน ตามคำสั่งกรมคุก ที่ ๕๓๕/๒๕๕๘ ลงวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘ และ พิพากษาให้ถอนคำสั่งของผู้ถูกฟ้องที่ ๒ ที่ให้ยกคำร้องทุกข์ของผู้ฟ้องคดีในเรื่องนี้ เพราะเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยมีผลย้อนหลังนับแต่วันที่มีคำสั่งและคำวินิจฉัย ดังกล่าว ซึ่งจากการวิพากษ์ พบว่า ทางศาลปกครองนครราชสีมา ได้ให้เหตุผลที่ใช้เป็นหลักในการพิพากษา ที่สำคัญอย่างน้อย ๒ ประการ ที่เจ้าหน้าที่ด้านนิติการผู้เกี่ยวข้องในการทำสำนวนคดีพึงทำความเข้าใจ คือ


๑) หลักตรรกะในเรื่องของความเสียหาย ที่ทางฝ่ายกรมคุก ผู้ถูกฟ้องที่ ๑ อ้าง จะต้องแสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแก่ราชการอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจากข้อเท็จจริงในคดีนี้ผู้ถูกฟ้องที่ ๑ ได้มีคำสั่งย้ายนายโอภาส ศรีสังวาล ผู้ฟ้องคดี จากเรือนจำกลางคลองไผ่ จังหวัดนครราชสีมา ไปปฏิบัติหน้าที่ทางทัณฑสถานเปิดทุ่งเบญจา จังหวัดจันทบุรีแล้ว จึงไม่อาจก่อความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแก่ราชการตามที่ทางฝ่ายผู้ถูกฟ้องที่ ๑ อ้าง ประกอบกับ

๒) หลักตรรกะในเรื่องของความประพฤติ ที่กรมคุก ผู้ถูกฟ้องที่ ๑ จะต้องแสดงให้เห็นถึงความประพฤติที่ไม่เหมาะสมอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจากข้อเท็จจริงในคดีนี้ผู้ฟ้องคดี ได้แสดงหลักฐานคำรับรองความประพฤติ และ การมอบหมายหน้าที่การงาน จากผู้อำนวยการทัณฑสถานเปิดทุงเบญจา ว่าเป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย และ มีความตั้งใจทำงาน


๒.เพื่อป้องกันการวิพากษ์ วิจารณ์ เกี่ยวกับการบริหารจัดการคุก (Prison management) โดยเฉพาะประเด็น การปฏิบัติต่อเจ้าหน้าที่คุกกรณีที่ถูกสอบสวน ที่กรม และ กระทรวงคุก ควรให้ความสำคัญเพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่คุก



๓.เพื่อเป็นการส่งสัญญาณไปยังเพื่อนเจ้าหน้าคุกทั้งหลาย ว่า กรณีถูกกรมคุก หรือ กระทรวงคุก มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน โดยไม่ถูกต้อง หรือ โดยไม่ได้กระทำความผิดจริง ก็อย่าเพิ่งตกใจ เพราะท่าน ยังมีศาลปกครอง ผู้ผดุงความยุติธรรม เป็นที่พึ่งพิงสุดท้ายของเจ้าหน้าที่คุก ดังตัวอย่างตามคำพิพากษาข้างต้น น่ะ ครับ

……………….


วินัย เจริญเฉลิมศักดิ์

๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐


อ้างอิง

คำพิพากษาศาลปกครองนครราชสีมา คดีหมายเลขดำที่ บ.๘๒/๒๕๕๘ คดีหมายเลขแดงที่ บ.๗๕/๒๕๕๙ เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ลงวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๙


หมายเลขบันทึก: 622530เขียนเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2017 13:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2017 18:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขอบคุณอาจารย์ Chaiwud Boonwiwattanakarn (คนใต้โดยภรรยา) มากน่ะครับ ที่ให้กำลังใจผม (คนใต้โดยกำเนิด ครับ (อำเภอพิปูน จ.นครศรีธรรมราช) ด้วยดีตลอดมา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท