วิ่งการกุศล ได้เหงื่อและยังได้บุญ


การออกกำลังกาย เป็นยาวิเศษ ตามคำบอกในเพลงกราวกีฬา นอกจากทำให้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพยังสดใส การออกกำลังกายมีหลายรูปแบบ แล้วแต่ถนัดและชอบของแต่ละคน รวมทั้งตามสภาพพื้นที่ ตอนนี้คนนิยมออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน แต่อาจไม่เหมาะสำหรับหลายคน รวมทั้งผม เพราะมีค่าใช้จ่ายในการซื้อรถจักรยานและรู้สึกยังไม่ปลอดภัยพอที่จะปั่นในเมืองหลวงและปริมณฑลกรุงเทพมหานคร ผมจึงเลือกวิ่ง เป็นกิจกรรมออกกำลังกาย เพราะไม่ต้ององใช้อุปกรณ์ ทุนมากมาย เพียงแต่ซื้อรองเท้าวิ่ง ราคาไม่ถึงพัน ก็ใช้ได้นานและดี กางเกงวิ่งตัวหนึ่งราคาไม่ถึง 100 และเสื้อยืดสำหรับวิ่งสักตัว ก็ใช้การได้แล้ว


วิ่งอย่างเดียว ก็ไม่สนุก ก็เลยหาสนามวิ่ง เป็นสนามวิ่งการกุศล ที่มีอยู่เกือบทุกสัปดาห์ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด หาดูรยการวิ่งได้จากเว็บไซต์เกี่ยวกับการวิ่ง เช่น www.patrunning.com และยังสามารถสมัครได้ทางนี้ มีโปรแกรมการวิ่งตลอดทั้งปีให้เลือก บางสัปดาห์มีหลายสนาม โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร แลปริมณฑล เช่น สน ามสวนหลวง ร.9 พุทธมลฑล ใต้สะพานพระราม 8 สวนลุมพินี กระทรวงสาธารณสุข สนามไชย สวนจตุจักร เป็นต้น ท่านเลือกสมัครได้ตามสะดวก ตอนนี้มีคนสมัครเยอะ ดังนั้นต้องรีบสมัคร ถ้าไปถึงหน้างานวันวิ่ง อาจจะไม่มีการรับสมัคร ค่าสมัคร ระหว่าง 300-500 บาง นาน ๆ จะมีรายการเกินกว่านี้ เมื่อสมัครแล้วจะมีเสื้อสำหรับวิ่ง (ท่านจะใส่วิ่งหรือไม่ก็ได้) เบอร์วิ่ง และเมื่อเข้าเส้นชัย จะได้เหรียญเป็นที่ระลึก เหมือนกับนักวิ่งแข่งขันทั่วไป แถบยังมีอาหารการกินและเครื่องดื่มหลังวิ่ง อีกหลายรายการ ตามสภาพของสนามและเจ้าภาพที่จัด


ระยะทางในการวิ่งตามถนัดของแต่ละคน คนเริ่มต้น อาจจะวิ่ง 5 กม. เพื่อทดสอบสภาพตนเอง หรือเลือกเดิน 2.5 หรือ 3.5 กม. ก็ได้ แต่ระยะที่นิยมจัดคือ มินิมาราธอน ระยะทาง 10.5 กม. บางสนามจัดวิ่งฮาร์ฟมาราธอน 21.5 กม. และมาราธอน มีไม่มากนัก มีการแบ่งการวิ่งออกเป็นรุ่น ตามอายุของผู้วิ่ง และมีรางวัลสำหรับผู้เข้าเส้นชัย 1-5 ของแต่ละรุ่นในแต่ละระยะทาง แต่สำหรับนักวิ่งสมัครเล่นไม่จำเป็นต้องแข่งเพื่อเป้าหมายรางวัล ตอนวิ่ง วิ่งไปตามสภาพที่ซ้อม เหนื่อยก็หยุดเดิน วิ่งต่อ ให้ถึงเส้นชัย ระยะทาง 10 กม. เดิน/วิ่ง สลับกัน เวลา 2 ชั่วโมง ถึงเส้นชัยสบายอยู่แล้ว บางคนเดินตั้งแต่ออกจากจุดสตาร์ท ถึงเส้นชัยก็ยังมี การวิ่งการกุศล เป็นการเอาชนะตนเองและพัฒนาตนเอง สนามแรก อาจจะเหนื่อยแทบไม่ไหว ปวดขาแทบขาดใจ กว่าเดินได้ดี ประมาณ 2-3 วัน พอฝึกตลอดเวลา ระยะหลัง ๆ มันอยู่ตัว ไม่มีอาการเช่นนั้นแล้ว


นอกจากนี้ การวิ่งยังทำให้สุขภาพเราดี ผมเคยมีอาการป่วยโรคภูมิแพ้ หมอบอกให้ออกกำลังกาย จึงปฏิบัติเรื่อัยมา พอลงสนามวิ่ง เป็นแรงจูงใจอย่างหนึ่งให้เราออกกำลังกาย ตอนนี้ไม่มีอาการเช่นนั้น แม้บางทีมีไข้หวัด น้ำมูกไหลบ้าง แต่เป็นการขับสารพิษออกจากร่างกายเรา แล้วมันทำให้ร่างกายดีขึ้น หายจากอาการโดยไม่ต้องใช้ยา หาหมอให้เสียเงิน


การวิ่งยังทำให้เราได้ทำบุญ ได้กุศล เงินเพียง 300-500 บาท มีประโยชน์มหาศาลสำหรับหลาย ๆ คน เพราะหน่วยงานที่จัดวิ่งส่วนใหญ่เอาเงินเหล่านี้ไปทำกิจกรรมการกุศล เพื่อคนสาธารณะต่อไป และมันอาจจะย้อนมาถึงเราโดยไม่รู้ตัวและคาดคิด และบางคนสมัครวิ่ง VIP ราคาแพงกว่านิด ประมาณ 1,000 บาท แล้วแต่สนาม ได้ถ้วยรางวัล แล้วยังสร้างประโยชน์ให้กับคนทั่วไปอีกระดับหนึ่งด้วย


หมายเลขบันทึก: 620327เขียนเมื่อ 17 ธันวาคม 2016 13:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 ธันวาคม 2016 13:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท